นักศึกษาต้องรีบปรับตัว ตอบโจทย์แรงงานไทยในอีก10ปีข้างหน้า  รับมือAI แต่ยังเชื่อมนุษย์เหนือกว่าหุ่นยนต์


เพิ่มเพื่อน    

22ต.ค.62-สถาบัน DPU X โดย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์(มธบ.) จัดงานเสวนา “ทักษะในอนาคตของแรงงานในประเทศไทย In the next 10 year” เพื่อชี้แนวทางให้นักศึกษาปรับตัวอย่างไร ให้อยู่รอดในอนาคต โดยมี ดร.พณชิต กิตติปัญญางาม นักวิจัยและผู้อำนวยการ DPU X มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ผศ.ไพรินทร์ ชลไพศาล นักวิจัยและผู้ชำนาญการอาวุโส DPU CORE อาจารย์ดวงจันทร์ วรคามิน นักวิจัยและอาจารย์วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี(CIBA) ร่วมเป็นวิทยากร โดยมี จิ๊บ ปกฉัตร เทียมชัย พิธีกรและนักแสดง เป็นพิธีกรตลอดการเสวนา พร้อมนี้ได้เชิญ นายวรากิต เพชรน้ำเอก ประธานชมรมนิยายวิทยาศาสตร์ไทย ร่วมให้ความรู้แก่นักศึกษาถึงแนวทางการเขียนนิยายวิทยาศาสตร์  ณ ห้องไสว สุทธิพิทักษ์ มหาวิทยลัยธุรกิจบัณฑิตย์

ดร.พณชิต กิตติปัญญางาม ผู้อำนวยการ DPU X มธบ. กล่าวว่า มธบ.วางแผนการปรับตัวสู่โลกอนาคต ในอีก 10 ปีข้างหน้า เพื่อชี้แนวทาง ให้อาจารย์และนักศึกษาเห็นภาพว่าในยุคดังกล่าวสังคมโลกต้องการคนหรือแรงงานแบบไหน หลังเรียนจบการศึกษาออกไปจะอยู่รอดได้อย่างไร เมื่อ AI (Artificial Intelligent) เริ่มแทรกซึมเข้ามาทำงานแทนมนุษย์ โดยนำข้อมูลจากทีมนักวิจัยมธบ.เรื่อง ทักษะแรงงานในอนาคตของไทย(Skill Set For Future Workforce in Thailand) มาสื่อสารให้อาจารย์และนักศึกษารับรู้ พร้อมรับมือเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในสายอาชีพต่างๆ โดยทีมวิทยากรได้เสนอแนวคิดถึงสาขาอาชีพที่น่าสนใจในอนาคตและอาชีพที่อาจหายไป รวมถึงทักษะที่จำเป็น เพื่อให้อาจารย์แต่คณะนำไปปรับหลักสูตรเพื่อให้นักศึกษาลุกขึ้นพัฒนาตนเองให้อยู่รอดในโลกที่แข่งขันกันด้วยจำนวนประชากรที่มีคุณภาพ

   ดร.พณชิต กล่าวต่อว่า Artificial Intelligence หรือ AI คือ ปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งหมายถึงวิทยาการคอมพิวเตอร์แขนงหนึ่งที่จะพยายามสามารถคิดหาเหตุผลเรียนรู้การทำงานได้เหมือนสมองมนุษย์  ปัจจุบันหลายองค์กรได้นำสิ่งนี้มาทำงานแทนมนุษย์บางส่วน ในวงการนิยายได้กล่าวถึงสมองกลที่พัฒนาถึงขั้นเขียนนิยายได้เอง ทุกคนอาจเริ่มหวาดกลัวเมื่อ AI สามารถเรียนรู้บางสิ่งได้เหมือนมนุษย์มีความฉลาดผนวกกับความคิดที่ลึกซึ้งขึ้น ทำให้มนุษย์ถูกแย่งงานโดยไม่รู้ตัว ทั้งนี้ชนชั้นแรงงานมีโอกาสว่างงานสูงเพราะเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถช่วยลดต้นทุนการทำงานได้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าทุกคนยังไม่มีความพร้อมที่จะรับมือเรื่องดังกล่าว เพราะต่างเชื่อว่าปัญญาประดิษฐ์ไม่สามารถมาทำงานแทนมนุษย์ได้ ดังนั้นจึงอยากฝากนักศึกษาโดยเฉพาะคณะนิเทศศาสตร์ ต้องปรับตัวในทันเทคโนโลยี เพราะปัจจุบันสายบันเทิงเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง จากที่เคยทำงานในสตูดิโอ หรือสำนักพิมพ์ เปลี่ยนมาทำงานที่บ้าน เช่น ยูทูปเบอร์ เป็นต้น

 “ทุกคนสร้างคอนเทนต์ให้ตัวเอง และสร้างคุณค่าให้ตนเองได้ จึงอยากให้น้องๆช่วยกันวาดภาพหน้าตาที่ทำงานในอนาคอีก 10 ปี จะเกิดอาชีพแบบไหน และอาชีพไหนจะหายไป” ผอ.DPU X กล่าว

ด้าน ผศ.ไพรินทร์ ชลไพศาล นักวิจัยและผู้ชำนาญการอาวุโส DPU CORE  กล่าวว่า ผลงานวิจัยโดยหลักอยากทราบว่าทักษะของคนไทยในอนาคตควรมีอะไรบ้าง ซึ่งทีมวิจัยได้แบ่งออกเป็น 3 ช่วง พบว่าช่วงแรก ระหว่างปี2020-2029 อยู่ในช่วงพัฒนาAI ช่วงที่ 2 ปี 2030-2049 AI มีความสามารถเท่ามนุษย์ และช่วงที่3 ปี 2050-2060 มนุษย์ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับ AI ดังนั้นทำอย่างไรให้คนอยู่รอดในแต่ละช่วงได้ ซึ่งผลวิจัยระบุถึงทักษะที่คนควรมี คือ  ความคิดสร้างสรรค์ การใช้เทคโนโลยี และการสื่อสารกับมนุษย์ ขณะนี้ธุรกิจในภาคเอกชนเริ่มปรับตัว ในการสัมภาษณ์งานจะวัดทักษะในการแก้ปัญหามากกว่าดูเกรดเฉลี่ย นอกจากนี้ มีคนทำนายไว้ว่าว่า 90%  ผู้ช่วยของคนจะอยู่ในสมาร์ทโฟนของตนเอง ธุรกิจที่ทำคอนเทน์ แพลทฟอร์ม จะอยู่ได้ในอนาคต รวมถึงแอพพลิเคชั่นด้วย ปัญญาประดิษฐ์ไม่ได้ทำให้คนตกงานเสมอไป แต่กลับสร้างงานใหม่ให้คนในอนาคต เพราะเชื่อว่ามนุษย์อยู่เหนือ AI เพราะมนุษย์มีความคิดที่ลึกซึ้ง สามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน และจับความรู้สึกของคนได้ดีกว่า แม้เราใช้หุ่นยนต์หรือปัญญาประดิษฐ์เข้าไปทำงานที่มีภาวะความเสี่ยงสูง เช่น กู้ภัย เมื่อเจอผู้รอดชีวิต มนุษย์ต้องเป็นคนตัดสินใจหรือสั่งการอีกครั้ง

          “ขณะนี้เทคโนโลยีเปลี่ยนไปเร็ว สิ่งที่เราวิเคราะห์วันนี้อาจเกิดขึ้นในปีถัดไปก็ได้ DPU CORE พยายามปรับหลักสูตรให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ปรับเนื้อหากิจกรรมบางอย่างเพื่อตอบโจทย์ทักษะให้ทันสมัย แต่สิ่งที่นักศึกษาจำเป็นต้องมีคือความเชื่อที่ส่งผลต่อพฤติกรรม(Mindset) และการเรียนรู้ตลอดชีวิต แม้มีทักษะเบื้องต้นยังจำเป็นต้องเรียนรู้ต่อยอดเพิ่มเติม จึงอยากฝากให้ทุกคน เข้าถึงทักษะต่างๆให้ได้ เข้าใจว่า AI คืออะไร และใช้ประโยชน์จาก AI ให้ได้” นักวิจัยและผู้ชำนาญการอาวุโส DPU CORE กล่าว

            ขณะที่อาจารย์ดวงจันทร์ วรคามิน นักวิจัยและอาจารย์วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี(CIBA) กล่าวว่า ตลาดแรงงานในอีก 10 ปีข้างหน้าจะเปลี่ยนแปลงไปมาก งานที่ต้องใช้ทักษะประจำ หรืองานที่ทำซ้ำๆ อาทิ งานเสมียน งานบัญชี งานคีย์ข้อมูล เป็นต้น จะใช้ AI มาทดแทน ดังนั้นคนที่จะอยู่รอดในอนาคตต้องหมั่นเรียนรู้ ทักษะต่างๆที่ต้องใช้มีความสำคัญมาก เช่น การทำงานเป็นทีม การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน การวิเคราะห์ หลายองค์กรต้องการคนที่มีคุณภาพ ส่วนสายอาชีพที่มีความต้องการในอนาคต คือ อาชีพดูแลผู้สูงอายุ เพราะสังคมผู้สูงวัยมีอัตราเพิ่มจำนวนมาก รวมถึงคลีนิคศัลยกรรมความงาม


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"