หากกล่าวถึงสิ่งของตกแต่งที่อยู่อาศัย นอกจากเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ต่างๆ แล้ว พรมก็เป็นหนึ่งในสิ่งของที่ช่วยเพิ่มความสวยงามหรูหราให้กับบ้าน ไม่น้อย อีกทั้งยังเป็นเครื่องประดับบ้านที่แสดงฐานะจ้าของได้เป็นอย่างดี  ยิ่งไปกว่านั้นพรมบางประเภทนับเป็นของสะสมหายาก มีทั้งคุณค่า และมูลค่ามากอีกด้วย อย่างเช่น พรมเปอร์เซีย ทั่วโลกมีกลุ่มคนสะสมอยู่จำนวนมาก ทั้งยังมีคอมมิวนิตี้สำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนกันอย่างจริงจัง เพราะถือเป็นหนึ่งในมรกดกโลกที่ได้รับการกล่าวขานมายาวนาน ซึ่งถือกำเนิดขึ้นมาแต่โบราณ โดยประเทศอิหร่าน หรือชื่อเดิม“เปอร์เซีย” เป็นผู้ที่ให้กำเนิดขึ้นมา โดยหัวใจของพรมเปอร์เซียคือลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ สวยงาม และมีจิตวิญญาณของการทอ มีเรื่องราว และบ่งบอกถึงวิถีชีวิตของชาวเปอร์เซียได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบันพรมเปอร์เซียเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก และได้รับความนิยมในการนำไปตกแต่งบ้าน ทั้งในยุโรป อเมริกา และอีกหลายๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทยเองก็มีกลุ่มคนผู้สะสมพรมเปอร์เซียอยู่ อย่าง Art on da Floor (อาร์ต ออน เดอะ ฟลอร์) คอมมิวนิตี้ของคนรักงานศิลปะ นำโดย จิตรกร มงคลธรรม ก็ได้รวมพรมเปอร์เซียหายากมากกว่า 30 ผืน มาจัดแสดงในงาน "Bangkok Persian Carpet Exhibition 2019" (แบงค็อก เปอร์เซีย คาร์เปต เอ็กซิบิชั่น 2019) ที่ชั้น 3 ศูนย์การค้าริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก เพื่อให้ผู้คนได้ยลโฉมของพรมเปอร์เซียลวดลายต่างๆ ที่อายุราว 100 ปี รวมทั้งสิ่งของสะสมหายากอีกจำนวนมาก

พรมเปอร์เซียโบราณ

 

จิตรกร  หนึ่งในนักสะสมพรมแห่ง Art on da Floor กล่าวว่า พรมเปอร์เซียถือกำเนิดมานานกว่า 2,500 ปี ถักทอจากขนสัตว์ หรือเส้นไหมย้อมสีจากสีธรรมชาติ เรียงร้อยเป็นเรื่องราวหรือลวดลายต่างๆ เพื่อสื่อถึงขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ความสวยงามของธรรมชาติ ต้องอาศัยฝีมือและความชำนาญ ไม่ต่างจากศิลปะแขนงอื่นๆ พรมแต่ละผืนจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน จึงสามารถนำมาใช้ในการตกแต่งสถานที่ได้หลากหลายตามแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล นอกจากนี้พรมเปอร์เซียของแท้ของแต่ละตระกูลยังมีรูปแบบ เทคนิคในการถักทอที่เป็นเอกลักษณ์ส่งต่อ จากรุ่นสู่รุ่น อาทิ ตระกูลอะมอกรู, เซราเฟียน, ฮาบิเบียน หรือแม้แต่เมืองต่างๆ ก็มีเอกลักษณ์ของตัวเองไม่ต่างกัน เช่น เมืองกุม โด่งดังพรมเปอร์เซียที่ทำจากเส้นไหม เมืองเตหะราน และมาแชด ดังเรื่องพรมจากขนสัตว์ และนักสะสมตัวจริงมักจะควานหาพรมก่อนปี 1970 มาไว้ในครอบครอง เพราะการดีไซน์จะมีความเป็นศิลปะมาก รวมถึงสภาพภูมิอากาศยังบริสุทธิ์ ขนแกะจึงยังคงมีคุณภาพ ทนทานต่อการใช้งาน สิ่งเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมคุณค่าสร้างมูลค่า ทำให้พรมเปอร์เซียกลายเป็นของสะสมล้ำค่าหายากที่สามารถเปลี่ยนความหลงใหลสู่การสร้างมูลค่าในรูปแบบของการลงทุนได้เป็นอย่างดี และในประเทศไทยการสะสม พรมเปอร์เซียของแท้ยังเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจของเหล่าคอลเล็กเตอร์อีกด้วย

Hi - end Audio Room

จิตรกร กล่าวต่อว่า การจัดงานครั้งนี้ขึ้นมา ก็เพื่อจะได้เห็นคุณค่าของพรมเปอร์เซียที่สามารถสร้างมูลค่าได้ และเพื่อให้เห็นว่าของที่เป็นของสะสมโบราณ ทำไมยังคงอยู่ได้จนมาถึงทุกวันนี้ มีความสำคัญอย่างไร เรามีการจัดแสดงพรมให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ปี 2019 ควบคู่ไปกับของสะสมโบราณชิ้นอื่นๆ ที่นำมาจัดแสดงด้วย เช่น เปียโน เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ โดยทั้งหมดเหล่านี้ล้วนเกิดจากความรักของนักสะสม และอาร์ตออนเดอะฟอล์จะกลายเป็นตัวเชื่อมระหว่างนักสะสมรุ่นเก่าที่ชอบสะสมมานาน และนักสะสมหน้าใหม่ เข้าด้วยกัน

การจัดแสดงห้องเฟอร์นิเจอร์รูม

 

สำหรับ Bangkok Persian Carpet Exhibition 2019 ได้จัดแสดงภายใต้ธีม "Persian Carpet and Your Lifestyle" เนรมิตบริเวณพื้นที่จัดงานให้กลายเป็นมุมโปรดด้วยการร้อยเรียงเรื่องราวของพรมเปอร์เซียเข้ากับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันแบ่งออกเป็นห้องต่างๆ โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ ห้อง Antique Grand Piano Room จัดแสดงแกรนด์ เปียโน คลาสิก ของ Steinway and Sons แบรนด์ติดอันดับ ท็อป 3 ของโลกอายุกว่า 140 ปี มูลค่าร่วม 10 ล้านบาทที่มีหลังเดียวในไทย จับแสดงคู่พรมเปอร์เซียผืนงามชื่อ The star ออกแบบโดย ศิลปินชื่อ Mirmehdi ผลิตที่เมืองกุม ลักษณะลวดลายของพรมเป็นศิลปะแบบเปอร์เซีย มีดอกไม้เป็นตัวร้อยเรียงรายล้อม เหรียญกษาปณ์ตรงกลาง สีพีชเป็นสีพื้นฐานตัดกับสีน้ำเงินอ่อน เป็นลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ของทางตะวันออกกลาง หรือจะเป็น ห้อง Hi-Light ที่มีพรม Amoghli (อะมอกรู) พรมขนแกะผืนไฮไลท์จากตระกูลอะมอกรู ที่ดีไซน์และผลิตพรมให้กับพระราชวังของอิหร่าน โดยผืนจัดแสดงเป็นพรมในตำนานที่นำออกมาจากพระราชวัง มีอายุเกือบศตวรรษ สนนราคาที่ 10 ล้านบาท

ห้องมอเตอร์ไบค์

 

นอกจากนี้ก็ยังมีห้อง Ancient Textiles มีการจัดแสดงพรมขนสัตว์ Tehran ภายในนิทรรศการบอกว่า พรมผืนนี้ผลิตที่เมือง เตหะราน หนึ่งใรเมืองที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดจากนักสะสม ในเชิงความคิดสร้างสรรค์และการถักทอด้วยมืออย่างประณีต พรมเตหะรานไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่นักสะสมรุ่นใหม่ เพราะในอดีตพรมเตหะรานผลิตในจำนวนที่ค่อนข้างจำกัด จึงเป็นพรมที่หายาก ถึงพรมชนิดนี้จะผลิตในช่วงศตวรรษที่ 20 แต่การออกแบบกลับมีความน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงของแจกันหรือ การออกแบบเป็นสวน ลวดลายดอกไม้ นับว่าเป็นการออกแบบที่หายากมากในปัจจุบัน และยังมีสีสันที่แปลกใหม่

สุรเดช ผดุงศิริเศรษฐ์

 นอกจากนี้ ภายในห้องยังมีไฮไลท์สำคัญอีกอย่างที่่ นายสุรเดช ผดุงศิริเศรษฐ์ นักสะสมของเก่ารุ่นใหม่ และอดีตนายกสมาคมเผยแพร่และส่งเสริมศิลปวัตถุนำผ้าโบราณทรงคุณค่าโดยเฉพาะผ้าทอยกดิ้นทอง อายุประมาณ 150 ปี มาจัดแสดงในห้อง เป็นผ้าไหมมัดหมี่ ซึ่งถือได้ว่า เป็นผ้าไหมที่ดีที่สุดในโลก ผ้ามัดหมี่ผืนนี้สั่งทำในอินเดีย เพื่อใช้ในราชสำนักช่วงต้นรัชกาลรัตนโกสินทร์ เป็นผืนสีน้ำเงินเข้มผ้าทอยกดิ้นทองเป็นผ้าที่มีจำนวนน้อยมากที่ยังหลงเหลืออยู่ในประเทศ และผ้าผืนนี้ยังเคยเป็นตัวแทนผ้าล้ำค่าโบราณของไทยนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์มาแล้วทั่วโลก สำหรับครั้งนี้ ถือเป็นการนำมาจัดแสดงเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ทั้งยังมีผ้าพระบทไทย ผ้าลายพระบทเขมร และผ้าลายเรืออีกด้วย แล้วก็จะมีห้องอื่นๆ อีก เช่น ห้อง Furniture Room, Hi-end Audio Room และ Motorbike Room ฯลฯ

นายสุรเดช ยังได้เผยถึงการนำพรม ผ้า และของเก่าสะสมมาจัดแสดงครั้งนี้ด้วยว่า ความคิดของนักสะสมรุ่นใหญ่จะไม่นิยมนำของสะสมออกมาจัดแสดง แต่สำหรับตนกลับคิดใหม่ว่า ของสะสมของโบราณเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าควรนำออกมาให้คนรุ่นหลังได้รู้จัก เรียนรู้ เพื่อให้เห็นคุณค่า ก่อให้เกิดความรักความหวงแหนในศิลปะ โดยเฉพาะศิลปะไทยที่น่าภาคภูมิใจเป็นที่ยิ่ง เราควรสร้างจิตสำนึกตรงนี้ให้มาก เพื่อช่วยกันรักษามรดกของชาติให้คงอยู่สืบต่อไป

พรมThe Stars
 

ด้านนางสาววริศรียา ทิฆัมพรทิพย์ นักสะสมพรมเปอร์เซียหน้าใหม่ในวงการ เผยถึงความหลงใหล ในพรมเปอร์เซียว่า จุดเริ่มต้นของการสะสมพรมมาจากการเลือกซื้อของตกแต่งบ้านแล้วไปพบพรมผืนหนึ่ง ที่ราคาค่อนข้างแพง จึงสืบค้นพบว่า พรมผืนนั้นเป็นพรมเปอร์เซีย ที่มีราคาแพงก็เพราะว่า พรมเปอร์เซียแท้ต้องใช้เวลาและความประณีตในการถักทอ สีที่ใช้จะเป็นสีจากธรรมชาติ จึงมีความทนแน่นมาก สีสดไม่ซีด และที่สำคัญพรมแท้แต่ละผืนจะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เวลานำมาตกแต่งห้องจะช่วยเสริมความรู้สึกให้ดูห้องแตกต่างกัน เติมชีวิตชีวา สร้างจินตนา ที่สำคัญใช้งานได้จริง
และหลังจากที่ซื้อเพื่อตกแต่งกลายเป็นซื้อเพื่อสะสม โดยส่วนตัวรู้สึกว่า การลงทุนกับพรมเปอร์เซียมีแต่ความคุ้มค่า คุ้มที่สามารถสร้างมูลค่าได้จริงและช่วยเติมคุณค่าทางจิตใจ เหมือนเป็นการสร้างศิลปะในธุรกิจ สำหรับคนที่สนใจอยากจะเป็นคอลเล็กเตอร์พรมเปอร์เซีย อย่างแรกต้องเริ่มจากความชอบจนถึงขั้นหลงใหล รู้สึกมีความสุขเมื่อได้เห็นได้สัมผัส ส่วนผลพลอยได้คือกำไร

คุณหญิงจินดาตัดริบบิ้นเปิดงาน

อย่างไรก็ตาม Bangkok Persian Carpet Exhibition 2019 จะจัดแสดงถึงวันที่ 24 พ.ย.นี้ ตั้งแต่ 10.00 – 22.00 น. ณ ชั้น 3 ศูนย์การค้าริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก สำหรับผู้ที่สนใจพรมเปอร์เซียภายในงาน สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 064-564-6695