ม็อบรถเมล์บุกคมนาคมค้านแปรรูป ขสมก.


เพิ่มเพื่อน    

21 พ.ย.62-เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 21 พ.ย. ที่กระทรวงคมนาคม นายบุญมา ป๋งมา ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (สร.ขสมก.) พร้อมด้วยสมาชิกประมาณ 300 คน มายื่นหนังสือสือถึง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เรื่อง ขอคัดค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) 

นายบุญมา เปิดเผยว่าตามที่นายศักดิสยาม กำกับดูแล ขสมก. ให้นโยบายทบทวนแก้ไขแผนฟื้นฟูของ ขสมก. ทั้งนี้ให้ยกเลิกแผนการจัดซื้อรถโดยสารจำนวน 3,000 คัน เส้นทางเดินรถในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมดนั้น สร.ขสมก. ไม่เห็นด้วย และคัดค้านอย่างถึงที่สุด ต่อรัฐบาลมีนโยบายแปรรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อบีบ ขสมก.ให้ยุบองค์กรแล้วเปิดทางให้เอกชนเข้ามาเดินรถเมล์แทน 

อย่างไรก็ตามซึ่งแน่นอนว่าการให้เอกชนเข้าบริหารนั้นจะต้องมีค่าโดยสารที่เพิ่มมากขึ้นกว่าราคาปกติที่ขสมก.เก็บค่าโดยสาร คือรถเมล์ปรับอากาศ 20 บาทและรถเมล์ร้อน 8-10 บาท ที่ผ่านมา ขสมก.ต้องขาดทุนจากนโยบายรัฐที่ตรึงค่ารถเมล์เพี่อลดภาระประชาชน แต่หากเป็นเอกชนเข้ามาเดินรถจะไม่สามารถควบคุมค่าโดยสารได้และอาจเกิดปัญหาขึ้นมาได้หากเอกชนประท้วงหยุดวิ่งรถเมล์ภาครัฐไม่สามารถไปบีบบังคับได้เลย ดังนั้นกระทรวงคมนาคมพยายามใช้วิธีกดดัน ขสมก.ด้วยการประกาศนโยบายให้ลดค่ารถเมล์ลงมาต่ำกว่า 18 บาท เพื่อบีบให้ขสมก.ต้องปิดตัวลง 

ทั้งนี้ยืนยันว่าการแปรรูปรัฐวิสาหกิจนั้นเป็นความคิดของคนแค่ 2 คน แต่ไม่เคยมีการสอบถามไปยังประชาชน หรือพนักงานในองค์กรรัฐวิสาหกิจเหล่านั้นซึ่งมีพนักงานมากกว่า 13,000 คน จึงเป็นเรื่องที่ไม่ชอบธรรมจนต้องออกมาต่อต้าน 

“หากทางกระทรวงคมนาคมและผู้บริหารยังนิ่งเฉยต่อความเดือดร้อนในครั้งนี้ จะเดินหน้ายื่นเรื่องไปยังกรรมาธิการแรงงาน จากนั้นจะเดินหน้ายื่นเรื่องต่อฝ้ายค้านเพื่อให้ดำเนินอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงจะรวมชื่อเพื่อยื่นถอดถอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ต่อไปหากยังนิ่งเฉยต่อความเดือดร้อนของพนักงานแรงงาน ขสมก.” นายบุญมากล่าว

 นายบุญมากล่าวต่อว่าสำหรับข้อเรียกร้องประกอบไปด้วย  1.ให้องค์การเดินรถในเส้นทางเดิม 137 เส้นทาง ส่วนที่เหลือให้เอกชนดำเนินการ โดยไม่ต้องให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ไปกำหนดเส้นทางเดินรถใหม่

 2.เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.62 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบแผนฟื้นฟูตามที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยให้องค์การจัดหารถใหม่ 3,000 คัน และปรับปรุงรถเก่า 323 คัน มาแทนรถเก่าที่หมดอายุการใช้งาน ให้ดำเนินการตามมติ ครม. 3.การแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การ (บอร์ด) อดีตที่ผ่านมา รมว. ได้แต่งตั้งบุคคลที่มีความรู้ความสามารถไม่ตรงกับลักษณะการบริหาร ขสมก. ทำให้การบริหารงานไม่เป็นไปตามกฎหมายข้อบังคับ ระเบียบ และวิธีปฏิบัติขององค์การ ดังนั้นการแต่งตั้งบอร์ด สร.ขสมก. ขอให้แต่งตั้งอดีตผู้บริหารที่มีความรู้ความสามารถในการเดินรถไม่น้อยกว่า 2 คน
 
4.ขสมก.เป็นรัฐวิสหกิจ มีวัตถุประสค์บริการคนยากคนจน ผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร และสนองตอบนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะการกำหนดราคาค่าโดยสาร รัฐบาลโดยกระทรวง และคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางได้กำหนดให้องค์การเก็บอัตราค่าโดยสารต่ำกว่าต้นทุน ซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้องค์การขาดทุนสะสม ประมาณ 1.1 แสนล้านบาท ดังนั้นหนี้สินนั้นต้องการให้รัฐบาลชะลอแนวทางชำระหนี้ไว้ก่อน เนื่องจากขสมก.อยู่ระหว่างเปลี่ยนผ่านในช่วงปฏิรูปเส้นทางใหม่ จึงต้องการทดสอบเดินรถในเส้นทางใหม่ 137 เสียก่อนว่ามีปริมาณรายได้และความคุ้มค่าอย่างไร แต่ทั้งนี้ต้องการให้กระทรวงการคลังรับผิดชอบหนี้สินที่เกิดจากนโยบายรัฐบาลราว 80,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 80% ของหนี้สินทั้งหมด

และ 5.นโยบายการเกษียณก่อนกำหนด (เออลี่รีไทน์) ต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจ โดยไม่บังคับ ขู่เข็นและเลิกจ้างพนักงาน อย่างไรก็ตาม สร.ขสมก. เห็นว่าแนวคิดนี้ ไม่ใช่แนวทางแก้ไขปัญหา มีแต่จะสร้างปัญหามากกว่าเติมปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีตจนถึงปัจจุบัน จึงขอคัดค้านในเรื่องดังกล่าว จึงยื่นหนังสือเข้าร่วมคัดค้นการแปรรูปองค์การ ขสมก. เพื่อปกป้อง และรักษาผลประโยชน์ขององค์การและสมบัติของพี่น้องประชาชนไม่ให้มีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ
ทั้งนี้ให้ รมว.คมนาคม เร่งพิจารณาข้อเรียกร้องและแจ้งให้ทราบภายใน 7 วัน 

ด้านนายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่ากระทรวงคมนาคมยินดีรับเรื่องข้อเสนอทั้งหมดมาพิจารณา ซึ่งจะดูไปทีละประเด็น สิ่งใดทำได้ก็จะทำให้ สิ่งไหนที่ทำไม่ได้ก็ต้องเจรจาต่อรองกัน ยืนยันทำทุกอย่างเพื่อให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้

รายงานข่าวกระทรวงคมนาคมระบุว่า ทางกระทรวงคมนาคมได้ส่งตัวแทนรัฐมนตรีมาเจรจาเพื่อขอให้ม็อบดังกล่าวยุติการประท้วงและแยกย้ายกันกลับบ้าน โดยจะยอมให้เข้าพบกับ ผู้ช่วยรัฐมนตรีและผู้อำนวยการขสมก.เพื่อหารือกันถึงปัญหา แต่กลุ่มผู้ประท้วงไม่ยอมพร้อมกับส่งเสียงโห่ร้องยืนยันจุดยืนว่าต้องการพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเพียงเท่านั้น มิเช่นนั้นจะยังคงปักหลักประท้วงหน้ากระทรวงคมนาคมต่อไป

แหล่งข่าวจาก. ขสมก.เปิดเผยว่าที่ผ่านมามีการพูดคุยและทำความเข้าใจกับทางสหภาพฯกันแล้ว ส่วนที่มีความกังวลว่าหากมีการแปรรูปแล้ว จะมีการปรับลดพนักงาน นั้นเรื่องนี้ไม่มีอย่างแน่นอน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"