มังกรพ่นไฟใส่อินทรี!


เพิ่มเพื่อน    

                   

                พลันที่วุฒิสภาสหรัฐลงมติผ่านกฎหมายว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยของฮ่องกงเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ปักกิ่งก็ตอบโต้อย่างดุเดือดและรุนแรงทันที

                ผลที่ตามมาทั้งทางตรงและข้างเคียงย่อมสร้างแรงสั่นสะเทือนไปกว้างขวาง

                ผลกระทบกะทันหันคือการเจรจาสงบศึกสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนมีอันต้องชะงักลงทันที

                รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ประกาศว่า หากจีนไม่เคารพในเสียงเรียกร้องประชาธิปไตย และหากยังมีความรุนแรงอยู่บนเกาะฮ่องกง ก็คงจะไม่มีความหวังที่จะมีข้อตกลงระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่งในเรื่องการยุติสงครามการค้าแต่อย่างไร

                สำนักข่าวซินหัวภาคภาษาไทยแปลข่าวจากปักกิ่งเป็นภาษาจีนที่ดุดันอย่างเข้มข้นว่า

                เกิ่ง ส่วง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ระบุในแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนว่า จีนขอประณามอย่างรุนแรงและคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อวุฒิสภาสหรัฐ กรณีผ่านร่างกฎหมายที่ใช้ชื่อว่ากฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกง 2019 (Hong Kong Human Rights and Democracy Act of 2019)

                วุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกงเมื่อวันที่ 19 พ.ย. การกระทำดังกล่าวนี้เป็นการเพิกเฉยต่อข้อเท็จจริงและความจริง ใช้สองมาตรฐาน แทรกแซงกิจการฮ่องกงและกิจการภายในอื่นๆ ของจีนอย่างโจ่งแจ้ง การกระทำดังกล่าวละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและธรรมเนียมปฏิบัติพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งจีนขอประณามและคัดค้านอย่างหนักแน่น

                ตลอดช่วงเวลาราว 5 เดือนที่ผ่านมา ความสุดโต่ง ความรุนแรง และอาชญากรรมต่างๆ คุกคามความปลอดภัยและทรัพย์สินของประชาชนอย่างรุนแรง ทำลายหลักนิติธรรมและความเป็นระเบียบในสังคม สั่นคลอนความรุ่งเรืองและเสถียรภาพของฮ่องกง รวมทั้งท้าทายขีดจำกัดของหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ”

                ปัญหาที่ฮ่องกงเผชิญไม่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนหรือประชาธิปไตย แต่เกี่ยวข้องกับการยุติความรุนแรงและความวุ่นวาย ยึดมั่นต่อหลักนิติธรรมและฟื้นฟูความเป็นระเบียบให้กลับคืนดังเดิมโดยเร็วที่สุด รัฐบาลกลางจะสนับสนุนรัฐบาลเขตบริหารพิเศษในการบริหารฮ่องกงอย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อไปอย่างหนักแน่น สนับสนุนตำรวจให้บังคับใช้กฎหมาย และสนับสนุนองค์กรตุลาการให้ลงโทษอาชญากรที่ใช้ความรุนแรง ปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ปกป้องความรุ่งเรืองและเสถียรภาพของฮ่องกง

                นับตั้งแต่ฮ่องกงกลับคืนสู่มาตุภูมิ หลักปฏิบัติ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับโดยสากล ปัจจุบันพลเมืองมีสิทธิ์ที่เป็นประชาธิปไตยในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน และสามารถใช้เสรีภาพของพวกเขาได้ตามกฎหมาย ร่างกฎหมายที่ผ่านโดยวุฒิสภาสหรัฐนั้นยังคงมืดบอดต่อข้อเท็จจริงหลายประการ และมืดบอดต่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนฮ่องกง

                แม้ตัดวาระแอบแฝงทางการเมืองออกไป ร่างกฎหมายนี้ยังวาดภาพพฤติการณ์ที่เป็นอาชญากรรมให้เป็นการเรียกร้องสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ในขณะที่ความเป็นจริงคือเหล่าอาชญากรที่ใช้ความรุนแรงทุบทำลายสิ่งก่อสร้างอย่างป่าเถื่อน จุดไฟเผา รังแกและโจมตีพลเมืองที่บริสุทธิ์ ใช้กำลังเข้ายึดพื้นที่มหาวิทยาลัย ปลุกระดมเด็กนักเรียนนักศึกษาที่เป็นเยาวชน และทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยวิธีการที่ไตร่ตรองมาแล้วล่วงหน้า วัตถุประสงค์คือการสนับสนุนกลุ่มต่อต้านจีน กลุ่มหัวรุนแรง และกลุ่มสุดโต่งที่ใช้ความรุนแรง ซึ่งพยายามจะโค่นล้มฮ่องกง ทำลายความรุ่งเรืองและเสถียรภาพของฮ่องกง เพื่อที่พวกเขาจะสามารถควบคุมประเทศจีนได้โดยการสร้างความโกลาหลจากประเด็นฮ่องกง ซึ่งเป็นเจตนามุ่งร้ายของบุคคลบางคนอย่างชัดเจน การกระทำเช่นนี้จะไม่เพียงสั่นคลอนผลประโยชน์ของจีน แต่ยังสั่นคลอนผลประโยชน์ของสหรัฐในฮ่องกงด้วย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วความพยายามจะแทรกแซงหรือกีดขวางการพัฒนาของจีนทั้งหมดนั้นจะสูญเปล่า

                จีนขอย้ำอีกครั้งว่าฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของจีน และกิจการฮ่องกงคือกิจการภายในของจีน เราขอให้สหรัฐทำความเข้าใจสถานการณ์ให้ถ่องแท้ ยุติการกระทำที่ผิดก่อนจะสายไป และขอให้มีมาตรการโดยทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกฎหมายนี้เปลี่ยนสถานะเป็นกฎหมาย สหรัฐจะต้องยุติการแทรกแซงกิจการฮ่องกงและกิจการภายในอื่นๆ ของจีนโดยทันที หรือมิเช่นนั้นผลกระทบเชิงลบที่ตามมาจะย้อนกลับเข้าตัวสหรัฐเอง จีนจะต้องใช้มาตรการตอบโต้ที่รุนแรงเพื่อปกป้องอำนาจอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์การพัฒนาประเทศของจีน หากสหรัฐยืนยันที่จะเดินหน้าการตัดสินใจที่ผิดพลาดครั้งนี้

                ภาษาดุดันอย่างนี้สะท้อนว่า ยังไงๆ  สี จิ้นผิง ก็ไม่ยอมให้ทรัมป์เล่นเกม “ปากหวานสลับปากมอม” อย่างที่เห็นกัน

                แม้จะต้องกลืนเลือดระยะสั้น ปักกิ่งก็คงจะไม่มีทางเลือก เพราะหากแม้นจะแสดงความอ่อนแอเพียงเล็กน้อยต่อแรงกดดันของสหรัฐ ก็อาจจะเปิดทางให้ความคุกรุ่นในอีกหลายๆ จุดของจีนเผยโฉมขึ้นมาได้เช่นกัน. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"