มองปีหน้า: แนวโน้ม เศรษฐกิจที่ต้องจับตา


เพิ่มเพื่อน    

     รัฐบาลไทยบอกว่าปีหน้าจะเป็นปีที่เศรษฐกิจมีปัญหาต่อเนื่องจากปีนี้ เพราะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป รวมถึงการที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป

                แต่แน่นอนว่าปัญหาโครงสร้างสังคมและเศรษฐกิจ รวมไปถึงการเมืองภายในของเราย่อมเป็นปัจจัยที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าปัจจัยภายนอก

                จำเป็นที่ฝ่ายรัฐและเอกชนต้องตั้งหลักหาหนทางแก้ไขอย่างจริงจัง ไม่โทษใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ยอมรับฟังข้อเท็จจริงและความเห็นของคนเห็นต่างมากขึ้น เพื่อจะได้แสวงหาทางออกที่ตรงเป้าแทนที่จะยังทำและคิดอะไรแบบเดิมๆ

                เมื่อวานนี้ผมได้นำเอาบทสรุปของแนวทางวิเคราะห์บนเวที TMB Investment Forum ที่คุณ "IC  เป้ง" ได้บันทึกเอาไว้และได้แบ่งปันใน social media ซึ่งผมเห็นว่าเป็นประโยชน์หลายข้อ

                วันนี้ขอนำมากล่าวอ้างต่อเพื่อช่วยในการนำมาประกอบการวิเคราะห์หาทางออกสำหรับเศรษฐกิจปีหน้าของไทยเรา

                บทสรุปนั้นบอกต่อว่า

                -ปีหน้า Deutsche Bank ของยุโรปมีความเสี่ยงจะล้มละลาย อาการหนักมาก เป็นของตระกูล  Welberg ที่ควบคุมระบบการเงินโลกมากว่า 200 ปี และกำลังเดินมาถึงจุดเปลี่ยน มีความเสี่ยงจะล่มสลาย ส่วนหนึ่งมาจากการพังของตราสารอนุพันธ์

                -เรื่องของทองคำมีไม่พอ backup สกุลเงินตราของโลก ข้อนี้น่ากังวลจะมีความเสี่ยงของระบบค่าเงินต่างๆ ของโลก จะเห็นว่าธนาคารกลางสวิสและนอร์เวย์เข้ามาถือเหมืองทองคำเยอะขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มปริมาณสำรองทองคำที่ถืออยู่ ดังนั้นถ้าเกิดวิกฤติขึ้นมา ดอลลาร์สหรัฐฯ จะเสื่อมค่า ทองคำจะแข็งค่าขึ้น ซึ่งค่าเงินหยวนจีนมี backup สำรองทองคำไว้เยอะ หยวนจีนจึงดูปลอดภัย รวมไปถึงค่าเงินต่างๆ  เช่น รัสเซีย สวิตเซอร์แลนด์ และนอร์เวย์ ที่มีปริมาณสำรองทองคำสูง

                -ในแง่ของ Cryptocurrency บิตคอยน์จะไม่น่าลงทุน ข้อเสียคือบิตคอยน์ใช้ไฟฟ้าในการผลิตมากเกินไป โลกจะผลิตไฟฟ้าไม่ทัน จึงมองเป็นแค่ระบบเงินทางเลือกไม่ใช่เงินสกุลหลักในอนาคต ซึ่งจะมี  Digital Currency ที่ใช้ระบบ Blockchain เข้ามาแทน ซึ่งไม่ใช่ Cryptocurrency อย่างบิตคอยน์

                -ถ้าระบบ Fiat Currency พังและล้มรอบนี้ ธนาคารอังกฤษจะขึ้นมาแข็งแกร่งอีกรอบ ที่ผ่านมาอังกฤษดูอ่อนแอ แต่จริงๆ ไม่อ่อนแอ ตอนนี้กำลังทำ Digital Paymant ทำ New Digital Currency จะเป็นเงินสกุลใหม่ของโลกหลังจากเกิดวิกฤติครั้งนี้

                -ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์อัตราดอกเบี้ย REPO ขึ้น 8% ทันทีภายในวันเดียว เกิดจากการขาดสภาพคล่องของเงินดอลลาร์ (Cash Crunch) ถือเป็นสัญญาณเตือนภัย จน FED ธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องออกมารับซื้อพันธบัตรจากสถาบันการเงิน ทำ MINI-QE ทุกคนอยู่ในสภาวะ I Owe You หมด ไม่มีสภาพคล่อง พังเหมือนแชร์แม่มณี ไม่มีเงินใหม่ใส่เข้าไป

                -ในฝั่งไทยจะเกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ และอุตสาหกรรมใน EEC กำลังจะเกิดขึ้น และจะเชื่อมโยงกับกรุงเทพฯ ด้วยรถไฟ สถานีบางซื่อจะกลายเป็น HUB ใหญ่แห่งใหม่

                -ปีหน้าให้ระวังการโตของ NPL ในฝั่งธนาคารพาณิชย์ให้ดี อาจจะเพิ่มสูงขึ้น เกิดต่อกันเป็นทอดๆ เหมือนห่วงโซ่ เช่น กรณีหุ้น PACE ที่ Default

                -อีกทั้งต้องระวังเรื่องเงินทุนไหลออกจากตราสารหนี้ไทย ที่ผ่านมา Flow ไหลเข้ามาเยอะมาก ค่าเงินบาทอาจจะสวิงไปถึง 35 จาก foreign reserve ลดลง

                -การพัฒนา Smart City ของจีนจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก เรื่องของ Biometric  และ Facial Recognition กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งก่อนหน้านั้นการเปลี่ยนผ่านจากเทคโนโลยี 5G จะเป็นแค่ทางผ่านไปสู่ 6G ที่มีการพัฒนายานพาหนะแบบไร้คนขับ (Autonomous Car) จนนำไปสู่ 7G ที่เป็นการควบคุมบังคับอากาศยานแบบไร้คนขับ (Autonomous Drone) ในปี 2030-2035 ซึ่ง ณ ตอนนี้บริษัท Airbus เริ่มพัฒนา รวมไปถึง Uber และ Grab ที่อนาคตอาจจะเป็นคนบริหารระบบการให้บริการ  Autonomous Car ในอนาคต

                -ภายในปี 2023 จีนจะใช้เทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบ รวมไปถึงการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบไร้รอยต่อ One Belt One Road ทำให้อนาคต Fund Flow มีโอกาสไหลเข้ามาในฝั่ง A-Share  มหาศาล เพราะเป็น IT Hub ของโลกที่จะใหญ่กว่า Silicon Valley ถึง 20 เท่า จีนจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โดยการลงทุนในอุตสาหกรรม Cloud หรือ REITs พวก Data Center, Logistics และพวก Infra Fund นั้นน่าสนใจ เพราะมีรัฐบาลหนุนอยู่

                ทั้งหมดนี้เป็นการคาดการณ์ไปข้างหน้าโดยดูจากความเคลื่อนไหวที่เห็นอยู่วันนี้

                หลายประเด็นอาจเปลี่ยนเพราะความผันผวนแปรปรวนที่ไม่อาจจะพยากรณ์ได้

                ความสามารถในการบริหารความเปลี่ยนแปลงและความเสี่ยงจึงเป็นหัวใจของการคงไว้ซึ่งความสามารถในการแข่งขันในเวทีสากลของไทยได้. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"