3ธ.ค.62-นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังการจัดทำบันทึกข้อตกลงการปฏิบัติหน้าที่รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และศึกษานิเทศก์ ว่า การจัดทำบันทึกข้อตกลงเรื่องดังกล่าว เพื่อต้องการให้ผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งรองผอ.สพท.และศึกษานิเทศก์ ได้เข้าสู่ระบบของการอบรมพัฒนาก่อนการบรรจุและตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้วางไว้ ดังนั้นในช่วงระยะเวลาของการอบรมพัฒนา 1 ปี ตนหวังว่ารองผอ.สพท.และศึกษานิเทศก์ป้ายแดงจะมีโอกาสได้รับการพัฒนาตัวเองมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ทักษะด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี เพราะทักษะเหล่านี้คือเรื่องจำเป็นอย่างมากในยุคนี้และศตวรรษที่ 21 โดยการทำข้อตกลงครั้งนี้ถือเป็นนโยบายใหม่ที่ตนต้องการให้การขับเคลื่อนการศึกษาไทยได้รับการพัฒนาตรงกับการเปลี่ยนแปลงการศึกษาของโลก อีกทั้งหวังว่ารองผอ.สพท.และศึกษานิเทศก์ จะเข้าใจและเห็นถึงความสำคัญและร่วมกันผลักดันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อไป เพื่อให้ทุกคนได้มีศักยภาพเต็มที่ในตำแหน่งงานที่จะมาเป็นผู้นำขององค์กรในอนาคต

“การอบรมและพัฒนาครั้งนี้จะมีความเข้มข้นมากขึ้น เพราะอยากให้การอบรมและพัฒนาผู้บริหารได้ตรงกับเนื้องานที่ทำ และเป็นไปตามตลาดการศึกษาที่ควรจะเป็น และผู้บริหารในอนาคตคือผู้เผยแพร่การศึกษาระบบใหม่ๆ ได้เป็นคนที่สามารถทำงานเชื่อมต่อกับ ศธ.ได้  โดยหากความเชื่อมต่อไม่มีความแข็งแรง หรือบุคลากรเรายังไม่มีความสามารถอย่างเต็มที่แน่นอนว่าการศึกษาคงไม่สามารถพัฒนาล้อกันไปได้แน่  ดังนั้นผมไม่อยากให้กังวลว่านโยบายการอบรมและพัฒนาผู้บริหารจะเป็นการสร้างภาระ แต่อยากให้คิดว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่เราจะต้องพัฒนาเพื่อนำพาการศึกษาไปสู่อนาคต ทั้งนี้การอบรมและพัฒนาดังกล่าวจะเน้นทักษะความเป็นผู้นำด้วย เพราะในอนาคต รองผอ.สพท.หรือศึกษานิเทศก์ก็จะต้องมีโอกาสก้าวไปสู่เส้นทางการเป็นผู้บริหารระดับสูงได้ ซึ่งความเป็นผู้นำจะต้องมีและเข้าใจบริบทของการบริหารจัดการเรื่องต่างๆ เพื่อจะได้แยกแยะได้ว่าคนไหนมีความสามารถขับเคลื่อนได้ตามศักยภาพได้”รมว.ศธ.กล่าว