สสส.หนุนนวัตกรรมงานครอบครัวอบอุ่นเปลี่ยนเงินหวยเป็นเงินออม


เพิ่มเพื่อน    

สสส.สนับสนุนนวัตกรรมขับเคลื่อนงานครอบครัวอบอุ่นในระดับพื้นที่เป็นหนังสือคู่มือ ร่วมกับสมาคมครอบครัวศึกษาแห่งประเทศไทย เจาะลึกพฤติกรรมสมาชิกในครอบครัว 900 ครัวเรือนจาก 1,309 ครัวเรือน ที่บ้านทัพม่าน ต.บัวใหญ่ จ.น่าน ซื้อหวยรัฐบาล หวยใต้ดินขั้นต่ำ 200 บาททุกงวด เสี่ยงโชคหวังรายลัด แถมนำเงินครอบครัวไปซื้อถึงขั้นทะเลาะเบาะแว้งกัน ซื้อแล้วไม่ถูกสร้างหนี้เพิ่มขึ้น เกิดไอเดียใหม่ MOU ครอบครัว เปลี่ยนเงินหวยเป็นเงินออม เครื่องมือสร้างวินัยการออมสู่ความพอเพียง

 

               

ณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว (สำนัก 4) สสส. มีบทบาทสนับสนุนนวัตกรรมขับเคลื่อนงานครอบครัวอบอุ่นในระดับพื้นที่ จัดทำเป็นหนังสือคู่มือร่วมกับสมาคมครอบครัวศึกษาแห่งประเทศไทย หน่วยสร้างการเรียนรู้ครอบครัวศึกษา จำนวน 11 พื้นที่ ลำปาง พะเยา น่าน เลย กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี สุรินทร์ สงขลา ตรัง พัทลุง สระบุรี ที่เข้าร่วมโครงการ

               

MOU ครอบครัว เปลี่ยนเงินหวยเป็นเงินออม เครื่องมือสร้างวินัยการออมสู่ความพอเพียง โดย ศุภรัตน์ เสาร์แดน, อนงค์ อินแสง หน่วยสร้างการเรียนรู้เพื่อครอบครัวศึกษา จังหวัดน่าน, วิจิตรา รพีทัศนพงศ์ และคณะ นักพัฒนาชุมชนชำนาญการ องค์การบริหารส่วนตำบลบัวใหญ่ เป็นงานหนึ่งในหนังสือนวัตกรรมขับเคลื่อนงานครอบครัวอบอุ่นในระดับพื้นที่ ซึ่งสนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สมาคมครอบครัวศึกษาแห่งประเทศไทย โดยมียุทธนา วงศ์โสภา ทำหน้าที่บรรณาธิการ

 

              

การเปลี่ยนแปลงความคิด หรือทัศนคติของชาวบ้านในเรื่องการซื้อหวยเป็นโจทย์ยาก เพราะการเล่นหวยเป็นความเสี่ยงและเป็นความหวังหนึ่งของชาวบ้าน หลายๆ คนที่ซื้อแล้วหวังจะได้ผลรางวัล “การซื้อหวยเป็นการหวังผลที่จะรวยทางลัด เผื่อเราอาจจะโชคดี” มีความเชื่อเรื่องความฝันว่ามีคนมาบอกโชค เชื่อและศรัทธาว่าเมื่อไหว้เจ้าที่เจ้าทาง ศาลพระภูมิ ต้นตะเคียน หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เมื่ออธิษฐานแล้วขอให้โชคดีถูกหวย

               

บ้านทัพม่าน ต.บัวใหญ่ จ.น่าน มีอายุกว่า 200 ปี เริ่มต้นจากคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาทำไร่ในหมู่บ้านแห่งนี้ ทำเพิงพักที่อยู่อาศัย ในระหว่างทำไร่ 5-6 ครอบครัว มีกองทัพพม่าเข้ามาบุกหมายจะมายึดเอาเมืองนาน้อยตั้งกองทัพอยู่ที่นี่ หน่วยสอดแนมของ อ.นาน้อยพบเห็นจึงได้นำเรื่องนี้ไปแจ้งแม่ทัพเมืองนาน้อย เจ้าเมืองนาน้อยจึงได้ยกทัพทหารเข้ามาโจมตีก่อน แม่ทัพพม่า (ม่าน) ไม่ทันระวังตัวจึงพ่ายแพ้และหนีกลับไปทางทิศตะวันตก ไปทางจังหวัดแพร่ มีชาวบ้านอพยพเข้ามาทำไร่เพิ่มขึ้นอีก จึงได้ตั้งเป็นหมู่บ้าน หมู่บ้านทัพม่าน มีอาณาเขตทิศเหนือติดต่อกับ ต.น้ำตก บ้านไทรงาม ทิศใต้ติดต่อกับบ้านห้วยส้ม ต.สันทะ ทิศตะวันออกติดต่อกับบ้านต้นม่วง ม.6 ต.บัวใหญ่ และทิศตะวันตก ติดต่อกับบ้านแสนสุข ต.สันทะ อ.นาน้อย

               

การซื้อหวยในพื้นที่พบว่า ต.บัวใหญ่ มีจำนวนครัวเรือน 1,309 ครัวเรือน มีการซื้อหวย ทั้งหวยใต้ดินและหวยรัฐบาลมากกว่า 900 ครัวเรือน โดยจะมีการซื้อเดือนละ 2 งวด งวดละ 200 บาท มีค่าซื้อหวยเดือนละ 180,000 บาท/เดือน ถ้าคิดเป็นปีจะมีค่าใช้จ่ายในการซื้อหวย 2,160,000 บาท บางครอบครัวนำเงินไปซื้อหวยของคนในครอบครัว ยังเป็นชนวนเหตุให้เกิดการถกเถียง ทะเลาะเบาะแว้งกันด้วย ถ้ามีการเล่นและเสียเงินเป็นจำนวนมากในแต่ละครั้ง และซื้อแล้วไม่ถูกอีกเป็นเหตุให้มีหนี้สินเพิ่มขึ้นอีก

               

ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน ต.บัวใหญ่ ได้ทำกิจกรรมครอบครัวบัวใหญ่ ร่วมด้วยช่วยกันเปลี่ยนเงินหวยมาเป็นเงินออม โดยอาศัยข้อมูลจากการสำรวจ และจากสถานการณ์ที่พบในชุมชน จึงได้ลงความเห็นว่าควรจะมีกิจกรรมที่เป็นแนวทางเพื่อลดการพนันเรื่องหวยใต้ดิน และส่งเสริมการออมเงินเพื่ออนาคตให้กับครอบครัว มีกลุ่มเป้าหมายเข้ามาร่วมกิจกรรมทั้งหมด 80 คนจาก 40 ครอบครัวในหมู่บ้าน

               

ด้วยกระบวนการเรียนรู้ที่น่าสนใจ คือ 1.การวิเคราะห์รายจ่ายของครอบครัว ใช้เทคนิคโอ่งรั่ว ทำให้สมาชิกในครอบครัวได้เห็นสถานการณ์การใช้จ่ายของครอบครัวร่วมกัน

               

2.การชวนคุยและวิเคราะห์เรื่อง “หวยใต้ดิน” ดีอย่างไร ไม่ดีอย่างไร โดยแบ่งกลุ่มพ่อแม่ลูก เสียงสะท้อนที่ได้จากการแบ่งกลุ่มบอกว่า “การเล่นหวยเป็นการพนันที่ทำให้เรามีความหวัง เช่น หวังว่าจะถูก ถูกแล้วจะมีเงินไปซื้อสิ่งที่อยากได้ หวังว่าถูกแล้วจะมีเงินเก็บได้ แต่ขณะเดียวกันหวยก็ทำให้เราเสียเงินแบบไม่รู้สึกตัว ซื้อไม่มากก็จริง แต่ต้องซื้อทุกเดือน เดือนละ 2 งวด

               

ครอบครัวหนึ่งซื้อหวย 2-3 คน รวมกันแล้วก็เป็นเงินจำนวนมากพอที่จะเอาไปเก็บหรือนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้เช่นกัน ที่สำคัญบางครอบครัวการนำเงินไปซื้อหวยของคนในครอบครัวยังเป็นชนวนเหตุให้เกิดการถกเถียง ทะเลาะกัน ถ้ามีการเล่นและเสียเงินเป็นจำนวนมากในแต่ละครั้ง และซื้อแล้วไม่ถูกอีกเป็นเหตุให้มีหนี้สินเพิ่มมากขึ้นไปอีก

               

3.การวิเคราะห์โอกาสในการถูกหวย ทีมกระบวนการได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในเชิงตัวเลข เพื่อชี้ให้เห็นโอกาสการถูกหวยและไม่ถูกหวยให้คนในเวทีได้เรียนรู้ร่วมกัน โดยหวังว่าข้อมูลการนำเข้าครั้งนี้จะนำไปเป็นข้อมูลเพื่อนำสู่การตัดสินใจ “ลด ละ เลิก การซื้อหวยใต้ดิน” ของคนในครอบครัว

                การซื้อหวยใต้ดิน 2 ตัวบน/ล่าง โอกาสถูกมีเพียง 1.0000% โอกาสที่จะถูกเจ้ามือกิน 99.000%

                การซื้อหวยใต้ดิน 3 ตัวบน (เต็ง) โอกาสถูกมีเพียง 0.1000% โอกาสที่จะถูกเจ้ามือกิน 99.900%

                การซื้อหวยใต้ดิน 3 ตัวบน (โต๊ด) โอกาสถูกมีเพียง 0.6000% โอกาสที่จะถูกเจ้ามือกิน 99.400%

                การซื้อสลากรัฐบาล รางวัลที่ 1 โอกาสถูกมีเพียง 0.0001% โอกาสที่จะไม่ถูก 99.9999%

                การซื้อสลากรัฐบาลเลขท้าย 3 ตัว โอกาสถูกมีเพียง 0.400% โอกาสที่จะไม่ถูก 99.60%

                การซื้อสลากรัฐบาลเลขท้าย 2 ตัว โอกาสถูกมีเพียง 1.0000% โอกาสที่จะไม่ถูก 99.000%

                ด้วยกระบวนการเรียนรู้ การวิเคราะห์รายจ่าย ผลดี-ผลเสีย สู่การทำข้อตกลง

               

ถ้าเราจะเปลี่ยนแปลงความคิดหรือทัศนคติของชาวบ้านในเรื่องการซื้อหวยนั้น เป็นโจทย์ที่ยากพอสมควร เพราะ “การเล่นหวย” เป็นความเสี่ยง และยังเป็นความหวังหนึ่งของชาวบ้านหลายๆ คน ที่ซื้อแล้วหวังจะได้ผลรางวัล จึงได้มีการกำหนดแนวทางในการดำเนินงาน การลดรายจ่ายในครอบครัว การให้ความรู้เรื่องการพนัน โดยมีการจัดเวทีเรียนรู้และวิเคราะห์สถานการณ์ด้านการเงินของแต่ละครอบครัว การจัดเวทีเรียนรู้ร่วมกัน หัวข้อ “เปลี่ยนเงินหวยเป็นเงินออม” โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ พ่อแม่ลูก ปู่ย่าตายาย มาร่วมกันทำกิจกรรม และการทำบันทึกข้อตกลงครอบครัว การลดการเล่นหวยเปลี่ยนมาเป็นการออมเงินร่วมกัน

               

การทำข้อตกลงคือ “การสร้างวินัยทางการออม” ของคนในครอบครัว เพราะเมื่อมีการทำข้อตกลงแล้ว คนในครอบครัวจะเป็นคนคอยช่วยเตือนสติว่า การซื้อหวยทำให้มีรายจ่ายเพิ่ม ควรเก็บเงินไว้ไปใช้จ่ายในส่วนที่มีประโยชน์ “เอาเงินซื้อหวยได้แต่กระดาษ เอาเงินไปตลาดได้ผักกาดมาแกง” คุณยายผู้เข้าร่วมเวทีกล่าวเตือนสติครอบครัวในช่วงของการเก็บข้อมูล

               

คนเล่น/คนซื้อหวยจะบอกว่า การซื้อหวยเป็นการหวังผลที่จะรวยทางลัด เผื่อเราอาจจะโชคดี มักจะมีความเชื่อส่วนตัว เช่น เชื่อเรื่องความฝันว่ามีคนมาบอกโชค เชื่อและศรัทธาว่าเมื่อไหว้เจ้าที่ ศาลพระภูมิ ต้นตะเคียน ต้นไม้ใหญ่ หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ อธิษฐานขอให้โชคดีถูกหวย

               

คนไม่เล่น/ไม่ซื้อหวยก็มักจะเตือนสติตนเองได้หรือมีคติเตือนใจตนเอง เช่น คุณยายท่านหนึ่งที่มาร่วมเวทีกล่าวไว้ว่า เอาเงินซื้อหวยได้แต่กระดาษ เอาเงินไปตลาดได้ผักกาดมาแกง ซึ่งการเตือนสติตนเองแบบนี้ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะสามารถยับยั้งชั่งใจไม่ให้ซื้อได้

               

จากการระดมสมองและแชร์ประสบการณ์ของแต่ละกลุ่ม ซึ่งบางคนเคยเป็นเจ้ามือขายหวยมาก่อน บางคนหมดเงินไปเป็นจำนวนมากในการซื้อหวยแต่ละงวด บางคนตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยซื้อหวยเลยก็มี บางคนมีเงินก็ซื้อ ไม่มีเงินก็ไม่ซื้อ คนที่ซื้อหวยหรือเล่นหวยไม่มีใครประสบผลสำเร็จหรือร่ำรวยเพราะหวย ที่ทุกกลุ่มสรุปมาทั้งหมด ผลเสียของการเล่นหวยมีมากกว่าผลดี

 

               

ผู้ร่วมประชุมก็มีหลายเหตุผลที่ทำให้การออมของคนในครอบครัวไม่สามารถทำได้หรือทำได้ไม่ต่อเนื่อง เช่น ระบบเศรษฐกิจของครอบครัว ภาระหนี้สินที่เกิดจากการลงทุนทำการเกษตร และการศึกษาของบุตรหลาน การปรับพฤติกรรมลด ละ เลิก ค่าใช้จ่ายที่สิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น การซื้อหวยใต้ดินแต่ละงวด เปลี่ยนเป็นการนำเงินมาเก็บออมไว้เพื่ออนาคตนั้น ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากหรือเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ ดังนั้นครอบครัวอาสามีข้อตกลงร่วมกันว่าจะช่วยกันสร้างนิสัยรักการออมให้เกิดขึ้นในครอบครัวและชุมชนของตนเองให้ได้ จึงได้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกันดังนี้

               

1.เด็ก เยาวชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ผู้สูงอายุ ณ ที่นี่จะลดการเล่นหวย 2.อนาคตจะละ เลิกการเล่นหวย 3.เราจะออมเงินเพื่อครอบครัวและตัวเอง 4.เราจะอยู่อย่างพอเพียง 5.เราจะดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง เมื่อมีข้อตกลงร่วมกันแล้ว คนในครอบครัวจะเป็นคนคอยช่วยเตือนสติว่าการซื้อหวยทำให้มีรายจ่ายเพิ่ม ควรเก็บเงินไว้ไปใช้จ่ายในส่วนที่มีประโยชน์ เป็นเส้นทางสู่ความพอเพียง และมีความสามารถพี่งตนเองของครอบครัว ผลจากการดำเนินการทำให้มีการขยายผลโครงการครอบครัวบัวใหญ่ร่วมด้วยช่วยกันเปลี่ยนเงินหวยเป็นเงินออม จาก 1 หมู่บ้านเพิ่มเป็น 8 หมู่บ้าน โดยมีครอบครัวที่เข้าร่วม MOU 75 ครอบครัว กลุ่มเป้าหมาย ผู้สูงอายุ กลุ่มแม่บ้าน/สตรี เด็กและเยาวชน ซึ่งมีการทำงานเชิงบูรณาการมากในพื้นที่ก็จะมี พมจ.น่าน กสจ.จ.น่าน โรงเรียนชุมชนบ้านอ้อย อบต.บัวใหญ่ ผู้นำท้องถิ่น/ท้องที่มีกระบวนการแบ่งกลุ่มระดมสมอง มีประเด็นคำถามก็คือ หวยดีอย่างไร หวยไม่ดีอย่างไร และถ้าไม่เล่นหวยจะทำอะไรดี

               

กลุ่มเด็กและเยาวชนคิดว่าการเล่นหวยดีก็คือ รวยทางลัด ทำให้มีเงินใช้ รวยชั่วคราว มีกำลังใจ มีเงินซื้อสิ่งของที่อยากได้ หวยไม่ดีก็คือ ทำให้ยากจน มีหนี้สิน เครียด ผิดกฎหมาย เกิดปัญหาขึ้นในครอบครัว ถ้าไม่เล่นหวยแล้วหันมาออมเงินกันเถอะ เอาเงินหยอดกระปุกออมสิน ไปออกกำลังกาย หากิจกรรมอื่นๆ ทำยามว่าง ช่วยพ่อแม่ทำงาน

               

กลุ่มสตรี/แม่บ้าน คิดว่าการเล่นหวยดีก็คือ พอถูกหวยที่แน่ๆ ก็ได้รับเงิน ดีใจได้เงินมาจุนเจือครอบครัว ครอบครัวมีเงินไปทำบุญ การเล่นหวยไม่ดีก็คือ กลุ่มแม่บ้านคิดว่าทำให้ติดการพนัน เกิดการทะเลาะเบาะแว้งขึ้นในครอบครัว มีหนี้สินเพิ่มขึ้น เกิดความเครียด ถ้าไม่เล่นหวยแล้ว กลุ่มสตรี/แม่บ้านคิดว่าจะไปทำอาชีพเสริม การจักสาน ทอผ้า พาครอบครัวปลูกผักสวนครัว ช่วยกันประหยัดในครอบครัว ทำให้ครอบครัวมีเงินออม

               

กลุ่มผู้สูงอายุคิดว่าการเล่นหวยดีก็คือ ถูกหวยมีเงิน ได้ลุ้น ตื่นเต้น หวังได้รับเงินก้อนใหญ่ เล่นหวยไม่ดีก็คือ เสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ เล่นหวยเถื่อนอาจถูกจับหรือโดนโกง ทำให้ครอบครัวเกิดความขัดแย้ง บางคนบอกว่าซื้อหวยได้กระดาษ ไปตลาดซื้อผักกาดมาแกง ถ้าไม่ซื้อหวย ทำกิจกรรมเข้าวัด ฟังธรรม ปลูกผักสวนครัว เลี้ยงสัตว์ ออมเงินในกระปุกออมสิน เป็นบุคคลตัวอย่างแก่ลูกหลาน และทำให้ครอบครัวอบอุ่น


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"