ไทย – คิงส์เกต เปิดศึกเข้าอนุญาโตตุลาการฟ้องเหมืองอัครานอก ลุ้นจบนอกรอบ


เพิ่มเพื่อน    

 

3 ก.พ. 2563 รายงานข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรม นำทีมโดยนายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ในวันที่ 3 ก.พ.นี้ เพื่อเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลากร กรณีบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด ประเทศออสเตรเลีย บริษัทแม่ของบมจ.อัครา รีซอร์สเซส ผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรี ในพื้นที่รอยต่อจ.พิจิตร จ.พิษณุโลก และจ.เพชรบูรณ์ ฟ้องร้องรัฐบาลไทย กรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44  สั่งระงับการประกอบการกิจการเหมืองแร่ทองคำทั่วประเทศ ทำให้เหมืองแร่ทองคำชาตรี ต้องระงับการประกอบกิจการไปตั้งแต่ปี 60 ซึ่งการเดินทางครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เข้าสู่อนุญาโตตุลาการ คาดว่า เป็นการไต่สวนรายละเอียดข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าเป็นอย่างไร ยังไม่ใช่กระบวนการชี้ขาดตัดสินว่า ใครผิดใครถูก ฝ่ายไหนจะต้องชดเชยเท่าไร จะต้องใช้ระยะเวลา คาดว่า ใช้เวลาตัดสินในช่วงปลายปี 63

“ ตามกระบวนการของคณะอนุญาโตตุลาการ ก็ต้องดำเนินตามกระบวนการต่อไป ยังต้องใช้ระยะเวลาในการไต่สวนอีกหลายเดือน ซึ่งที่ผ่านมากรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ก็ได้ทำทุกอย่างอย่างรัดกุม ยื่นเอกสารหลักฐานต่างๆ ไปแล้ว ซึ่งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ก็ได้กำชับคณะทำงาน ให้ทำทุกอย่างให้เต็มที่ ให้กระทบกับประเทศชาติน้อยที่สุด และประชาชนในพื้นที่ต้องไม่เดือดร้อนด้วย”รายงานข่าวกล่าว

ส่วนที่มีกระแสข่าวนักลงทุนไทย ที่อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมพลังงานรายหนึ่ง สนใจที่จะซื้อกิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรี ประเด็นนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการเจรจาของทั้ง 2 ฝ่ายว่า ตกลงกันได้หรือไม่ อาจอยู่ในรูปแบบขายขาด หรือดึงเป็นผู้ร่วมทุนร่วมกันก็ต้องติดตามต่อไป แต่ในนามกระทรวงอุตสาหกรรม ต้องเดินหน้าเข้าสู่คณะอนุญาโตตุลาการตามระบบ หากทั้ง 2 ฝ่ายเจรจาตกลงกันได้ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะต่อไปอาจขอถอนฟ้อง มาตกลงกันนอกรอบได้ แต่เชื่อว่า นักลงทุนไทย ที่จะเข้ามาซื้อกิจการ ก็ต้องรอดูแนวโน้มผลการพิจารณาของคณะอนุญาโตฯ ด้วยว่า มีแนวโน้มอย่างไร เพื่อพิจารณาการลงทุนได้ถูก โดยกพร.ยืนยันว่า หากผู้ประกอบการรายใด สนใจเข้ามายื่นขอขอประกอบกิจการ สามารถดำเนการได้ ตามพ.ร.บ.แร่ฉบับใหม่ ที่จะเข้มงวดในเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ถ้าได้รับอนุญาตก็สามารถประกอบกิจการต่อได้ทันที  

รายงานข่าวจากบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดดเต็ด ลิมิเต็ด บริษัทแม่ของบมจ.อัครา รีซอร์สเซส กล่าวว่า บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นในพยานหลักฐาน ที่ได้ฟ้องร้องรัฐบาลไทย เนื่องจากการใช้คำสั่งมาตรา 44 ให้ระงับการดำเนินกิจการเหมืองแร่ทองคำทั่วประเทศ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างประเทศไทยและออสเตรเลีย จึงใช้สิทธิฟ้องร้องดังกล่าวต่ออนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ และจะมีการพิจารณาคดีให้ปากคำในวันวันที่ 3 – 12 ก.พ.นี้ ที่ประเทศสิงคโปร์ ต่างๆ ซึ่งบริษัทฯ ยืนยันว่า ยังยินดีเจรจาหาทางออกร่วมกันกับรัฐบาลไทย ทั้งก่อนและหลังการอนุญาโตตุลาการ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทุกฝ่ายร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมาทางบมจ.อัครา รีซอร์สเซส ได้ประเมินตัวเลขความเสียโอกาสของเหมืองอัครา โดยวัดจากปริมาณสำรองแร่ทอง 8.9 แสนออนซ์ คิดเป็นวงเงินปริมาณ 37,020 ล้านบาท และเงิน 8.3 ล้านออนซ์ คิดเป็นวงเงินประมาณ 3,984 ล้านบาท ซึ่งสามารถผลิตได้ในช่วง 8-10 ปีข้างหน้า รวมมูลค่าทั้งสิ้น 41,004 ล้านบาท  แต่ไม่ได้เป็นตัวเลขที่จะมีการฟ้องร้องรัฐบาลแต่อย่างใด เป็นการชี้ให้เห็นว่า บมจ.อัคราฯ ยังมั่นใจว่า พื้นที่นี้ยังมีแร่ทองคำเหลือยู่ที่ยังไม่ขุดขึ้นมา


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"