CIA ให้โลกซื้อระบบเข้ารหัสเพื่อขโมยความลับ


เพิ่มเพื่อน    

                 แต่ไหนแต่ไรหน่วยข่าวกรองทุกชาติพยายามเข้าถึงความลับของอีกฝ่ายด้วยหลากหลายวิธี เช่น ดักฟัง ส่งคนแทรกซึมเข้าองค์กร ซื้อตัวเพื่อให้ได้ข้อมูล รัฐบาลสหรัฐกับเยอรมนีใช้อีกวิธีคือร่วมมือกับบริษัทขายระบบป้องกันความลับทางอิเล็กทรอนิกส์ ระบบเข้ารหัสข้อมูล (encryption)

                บริษัทดังกล่าวคือ Crypto AG ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เชี่ยวชาญการเก็บข้อมูลลับ CIA กับหน่วยข่าวกรองเยอรมัน (BND) เข้าไปร่วมมือกับบริษัทอย่างลับๆ ตั้งแต่ปี 1970 ในเวลาต่อมารัฐบาลสหรัฐเป็นเจ้าของเพิ่งเลิกเมื่อปี 2018 (เดิมเยอรมนีเป็นเจ้าของร่วมด้วยแต่ถอนตัวก่อน)

                ตั้งแต่แรกสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ (National Security Agency : NSA) ช่วยออกแบบอุปกรณ์เข้ารหัสเพื่อส่งขายทั่วโลก โดยที่ฝ่ายสหรัฐสามารถแอบเข้าไปถอดรหัส อะไรที่พยายามปกปิดเป็นความลับรัฐบาลสหรัฐกับเยอรมนีรู้หมด

                ด้วยความสามารถทางการตลาดทำให้ Crypto AG มีชื่อเสียงทั่วโลก ขายอุปกรณ์เข้ารหัสแก่ 120 ประเทศ ทั้งแก่หน่วยงานภาครัฐ บริษัทเอกชนใหญ่น้อย แม้กระทั่งสำนักวาติกันก็ใช้ระบบของบริษัทนี้

                มีข้อมูลว่าในทศวรรษ 1980 ระบบดังกล่าวเข้าถึงความลับร้อยละ 40 ของนานาชาติ ยกเว้นบางประเทศอย่างโซเวียตรัสเซีย จีน ที่ไม่ใช้เครื่องมือของบริษัทแบบนี้ (รัสเซียกับจีนไม่เชื่อใจแต่แรก)

                นอกจากนี้ บริษัท Crypto AG ยังได้กำไรจากการขายอุปกรณ์ ให้บริการปกปิดความลับอันแพงลิบแก่ทั่วโลก มีข้อมูลว่า CIA ใช้กำไรที่ได้ไปซื้อกิจการบริษัทคู่แข่งเพื่อให้เกิดภาวะกึ่งผูกขาด พูดอีกอย่างคือได้ทั้งความลับกับเงิน  หรือต่างชาติจ่ายเงินเพื่อให้รัฐบาลสหรัฐได้ความลับ

                ขณะนี้รัฐบาลสวิสกำลังสอบสวนและร้อนตัวเพราะตนเป็นประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นกลาง สถานะทางการเมืองกับบรรยากาศธุรกิจของสวิสมาจากความเป็นกลาง แต่ตอนนี้ชื่อเสียงเริ่มมัวหมอง เกิดคำถามว่ามีลับลมคมในระหว่างรัฐบาลสวิสกับ CIA หรือไม่ มีเรื่องอื่นๆ ที่โลกยังไม่รู้หรือไม่

                เรื่องเริ่มแดงเมื่อหลายประเทศตั้งข้อสังเกตว่าทำไมข้อมูลลับของตนจึงเข้าหูสหรัฐ และสงสัยว่าน่าจะมาจากเครื่องเข้ารหัสนั่นเอง บางประเทศมีหลักฐานความผิดปกติของเครื่อง พนักงานตัวแทนที่มาขายเครื่อง อันที่จริงเรื่องราวของบริษัท Crypto AG เป็นข่าวมาแล้วหลายปี สื่อหลายสำนักเคยเอ่ยเรื่องนี้หลายครั้งแต่ไร้ข้อสรุป ปฏิบัติการขายเครื่องเก็บความลับเพื่อให้ได้ความลับจึงดำเนินเรื่อยมา

                ด้าน CIA แถลงว่าเรื่องราวที่พูดกันเป็นเท็จทั้งสิ้น มีข้อกล่าวหาแบบนี้อยู่เสมอ

                รัฐบาลจีนใช้โอกาสนี้โจมตีรัฐบาลสหรัฐว่าชอบกล่าวหาประเทศอื่นลักลอบขโมยข้อมูล ทั้งๆ ที่สหรัฐนั่นแหละตัวดี จารกรรมข้อมูลลับทั่วโลกแต่ยังปฏิเสธหน้าตาเฉย

                ในที่สุดปี 2018 ได้เปลี่ยนมือผู้เป็นเจ้าของสู่นักลงทุน ด้วยชื่อใหม่ว่า Crypto International กับ CyOne Security AG พร้อมกับประกาศว่าบริษัทเป็นของเอกชนโดยแท้ ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยข่าวกรองสหรัฐกับเยอรมนี

                สำหรับรัฐบาลสหรัฐการขโมยความลับเป็นเรื่องดี :

                การข่าวกรองมีในทุกประเทศ รัฐบาลสหรัฐพูดว่าช่วยให้โลกปลอดภัยขึ้น เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องเข้าถึงความลับของผู้ก่อการร้าย ประเทศที่เป็นปรปักษ์ เพื่อลดเหตุร้าย ลดโอกาสเกิดสงครามใหญ่

                ยกตัวอย่าง ในสมัยรัฐบาลจิมมี คาร์เตอร์ (Jimmy Carter) ใช้ระบบดังกล่าวเพื่อล้วงความลับของคู่เจรจาอียิปต์กับอิสราเอลขณะมาประชุมสุดยอดที่สหรัฐเมื่อปี 1978 ทำให้ฝ่ายสหรัฐล่วงรู้ความคิดเห็นของอียิปต์ทั้งหมด

                รัฐบาลสหรัฐล่วงรู้ความลับความเป็นไปในเหตุปฏิวัติอิหร่านปี 1979 การจับตัวประกันในสถานทูตสหรัฐประจำกรุงเตหะราน ช่วยให้สหราชอาณาจักรเอาชนะอาร์เจนตินาในสงครามหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ (Falklands War) เมื่อต้นทศวรรษ 1980 รู้ว่าใครเป็นตัวการกลุ่มผู้ก่อการร้ายชาวลิเบียที่วางระเบิดดิสโก้เทคในกรุงเบอร์ลินเมื่อปี 1986

                เหตุเพราะรัฐบาลของประเทศเหล่านี้ใช้ระบบของ Crypto AG นั่นเอง

                ดังนั้น ไม่ว่าใครจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร รัฐบาลสหรัฐเห็นว่าต้องทำต่อไป และอีกหลายประเทศทั่วโลกคิดเช่นนี้เหมือนกัน

                ปี 2013 นายปีเตอร์ คิง (Peter King) สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกัน ประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านการต่อต้านการก่อการร้ายและการข่าว กล่าวว่า “ความจริงคือ NSA ได้ช่วยชีวิตหลายพันคนแล้ว ไม่เพียงที่สหรัฐ แต่รวมถึงฝรั่งเศสกับเยอรมนีและทั่วทั้งยุโรป ... อันที่จริงฝรั่งเศสทำการจารกรรมทั้งรัฐบาลและอุตสาหกรรมของสหรัฐ”

                เป็นความจริงที่ว่าประเทศต่างๆ พยายามล้วงความลับของอีกฝ่าย

                ปี 2013 มีกรณีตัวอย่างที่น่าสนใจ รัฐบาลเยอรมันชี้ว่าสหรัฐดักฟังโทรศัพท์มือถือของนางอังเกลา แมร์เคิล (Angela Merkel)

                ประเด็นสำคัญคือเรื่องนี้เกิดขึ้นในขณะที่ 2 ประเทศร่วมมือด้านข่าวกรอง แต่รัฐบาลสหรัฐไม่วายดักฟังโทรศัพท์มือถือนายกฯ แมร์เคิลด้วย นี่คือพฤติกรรมของรัฐบาลสหรัฐ

                นายกฯ แมร์เคิล กล่าวว่า “เรายังเป็นพันธมิตร... แต่การเป็นพันธมิตรจะต้องตั้งบนความไว้ใจต่อกัน”

                รัฐบาลโอบามา (ในขณะนั้น) ให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่ดักฟังโทรศัพท์มือถือของนายกฯ แมร์เคิลอีก แต่ไม่ได้สัญญาว่าจะไม่จารกรรม พูดอีกอย่างคือการไม่จารกรรมข้อมูลผ่านตัวนายกฯ แมร์เคิล ไม่ได้หมายความว่าจะไม่จารกรรมผ่านคนอื่นๆ เช่น ทีมงานนายกฯ รัฐมนตรี เจ้าหน้าที่อื่นๆ ดังนั้นสหรัฐอาจไม่ได้ความลับโดยตรงจากตัวนายกฯ เยอรมันอีกต่อไป แต่ไม่ปิดกั้นเรื่องได้ความลับผ่านแหล่งอื่นๆ

                สื่อ The Guardian เปิดเผยข้อมูลจากนายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ว่าในปี 2006 NSA สอดแนมผู้นำ 35 ประเทศ ประกอบด้วยประเทศที่เป็นมิตรกับสหรัฐอย่างเยอรมนี ฝรั่งเศส เม็กซิโก บราซิลและหลายประเทศในสหภาพยุโรป กับประเทศที่เป็นปรปักษ์อย่างคิวบาและเวเนซุเอลา เป็นการสอดแนมตามแผนปฏิบัติทั่วไปคือทำไปเรื่อยๆ ไม่จำต้องมีเหตุการณ์พิเศษ

                สำหรับรัฐบาลสหรัฐคำว่า “พันธมิตร” ไม่ได้แปลว่ารัฐบาลสหรัฐจะไม่เข้าไปล้วงลึกล้วงลูก

                ในอีกมุมหนึ่งปี 2013 เจมส์ แคลปเปอร์ (James Clapper) ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐกล่าวต่อคณะกรรมาธิการการข่าวกรอง สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ว่าชาติพันธมิตรสหรัฐจารกรรมข้อมูลสหรัฐ รวมทั้งผู้นำประเทศเช่นกัน

                การต่อสู้ของการข่าว :

                กลางเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลกลางสหรัฐฟ้องเพิ่มเติมต่อบริษัทหัวเว่ยของจีนอีกหลายกระทง รวมถึงขโมยความลับทางธุรกิจจากบริษัทอเมริกัน เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ พยายามกีดกันไม่ให้นานาชาติไม่ใช้ระบบ 5G ของหัวเว่ย แต่หลายประเทศไม่เห็นด้วย รวมทั้งพันธมิตรอย่างเยอรมนี สหราชอาณาจักร

                และฝรั่งเศส สาเหตุหนึ่งที่กีดกันเพราะเหตุผลเรื่องการข่าวนั่นเอง ทำให้สหรัฐยากจะเจาะเข้าระบบ ยากจะล้วงความลับของประเทศที่ใช้ระบบของหัวเว่ย

                ในภาพกว้าง การจารกรรมข้อมูลในยุคนี้ไม่เฉพาะเจาะจงเรื่องการทหาร การเมืองระหว่างประเทศ เรื่องราวของบรรษัทยักษ์ใหญ่เท่านั้น แต่สามารถเข้าถึงการติดต่อสื่อสารทุกรูปแบบ สื่อโซเชียลมีเดีย อีเมล แม้กระทั่งเข้าถึงฐานข้อมูลธนาคาร ประวัติสุขภาพของคนสามัญธรรมดาแต่ละคนที่บันทึกในโรงพยาบาล เครือข่ายสาธารณสุข สื่อ The Guardian รายงานว่าเรื่องนี้เป็นผลงานของ NSA ความก้าวล้ำของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ช่วยให้ทำงานนี้อย่างสบาย หรือด้วยการติดตั้งชิพบางตัวเข้าไปในอุปกรณ์ ละเมิดความเป็นส่วนตัวของคนทั้งโลกซึ่งรัฐบาลสหรัฐปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเช่นกัน

                ทุกวันนี้เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่ายากจะหาความเป็นส่วนตัว เพราะมีผู้ที่ล่วงรู้อย่างลับๆ เราอาจกำลังจ่ายเงินเพื่อซื้อใช้ระบบให้คนอื่นรู้ความลับของเรา.

 

--------------------------

รูป : ตัวอย่างเครื่องเข้ารหัสเสียง (voice encryption device) รุ่นเก่าของ Crypto AG

 

ที่มา : https://www.zerohedge.com/s3/files/inline-images/cryptoag1.jpg?itok=GmqKr0c1

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"