ตร.เรียก “เสก โลโซ” รับทราบข้อหาเสพยาเสพติด 12 ม.ค.นี้ เร่งขยายผลแหล่งขายยานรก ด้านนายกฯ สั่งการให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นพิเศษ

    จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าจับกุมนายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือเสก โลโซ ร็อกสตาร์ชื่อดัง ภายในบ้านย่านสุขาภิบาล 5 หลังจากถูกศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชออกหมายจับจากกรณีไลฟ์สดยิงปืนขึ้นฟ้า ภายหลังถูกจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจหาสารเสพติดทางปัสสาวะ พบว่าเป็นสีม่วง ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

    ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 มกราคม 2561 ที่ สน.คันนายาว พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว ได้เรียก พ.ต.ต.ยุทธศิลป์ พละสาร สว. (สอบสวน) สน.คันนายาว เจ้าของคดี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับคดีดังกล่าว โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง

    พ.ต.อ.สิงห์เปิดเผยว่า ทางพนักงานสอบสวน สน.คันนายาวได้ออกหมายเรียกเพื่อให้นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือเสก โลโซ มารับทราบข้อกล่าวหาในฐานความผิดเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย หลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันและปราบปรามนำหมายเรียกไปส่งที่บ้านพักซึ่งอยู่ในพื้นที่ สน.คันนายาว ทั้งนี้ ได้มีการนัดหมายให้นายเสกมาพบพนักงานสอบสวนที่ สน.คันนายาว ในวันที่ 12 ม.ค.61 เวลา 13.00 น. เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา

    หากนายเสกสรรค์เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาแล้วไม่จำเป็นจะต้องประกันตัวออกไป เนื่องจากเคยได้รับอนุญาตให้ประกันตัวที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ในข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตไปก่อนหน้านี้ ถ้าไม่มาตามหมายเรียก 2 ครั้งก็จะไปยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดมีนบุรีเพื่อถอนประกันต่อไป

    ในส่วนของการตรวจสอบอาวุธปืนที่ตรวจยึดได้ภายในบ้าน ได้มีการสอบสวนเจ้าของอาวุธปืนไปแล้วส่วนหนึ่ง อีกทั้งยังได้ส่งอาวุธปืนให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจว่ามีการลบหรือแก้ไขหมายเลขประจำปืนหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบใบอนุญาตว่าตรงกันหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างรอผลการตรวจ

    พ.ต.อ.สิงห์กล่าวต่อว่า สำหรับข้อหาเสพยาเสพติด ตาม พ.ร.บ.ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ผู้เสพถือว่าเป็นผู้ป่วยตามนโยบายต้องไปรักษาและบำบัดเพื่อให้หายป่วย แต่กรณีของนายเสกสรรค์ เท่าที่ทราบเคยสมัครใจไปบำบัด ซึ่งไม่ปรากฏในฐานข้อมูลว่าเคยถูกจับในคดีเกี่ยวกับยาเสพติดมาก่อน มีเพียงประวัติทำร้ายร่างกายและอยู่ระหว่างรอลงอาญา ซึ่งในคดีเสพยาเสพติดของนายเสกสรรค์ ถ้ารับสารภาพก็ไม่สามารถส่งตัวไปบำบัดได้ เนื่องจากมีการกระทำผิดพร้อมกับข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงคดีทำร้ายร่างกายที่อยู่ระหว่างรอลงอาญา จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ในการส่งบำบัด

    พ.ต.อ.สิงห์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ได้มีการส่งข้อมูลไปยัง บช.ปส.และสำนักงาน ป.ป.ส. เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูล ถึงจะไม่ใช่รายสำคัญ แต่ก็เป็นผู้มีชื่อเสียงที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก หลังจากนี้ก็จะต้องติดตามสืบสวนสอบสวนว่าสารเสพติดที่อยู่ในร่างกายนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร ใครเป็นผู้ขายให้ต่อไปด้วย

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้นำหมายไปส่งยังบ้านเลขที่ 9/27 หมู่บ้านนันทวัน-วัชรพล ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ซึ่งเป็นบ้านพักของนายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือเสก โลโซ อายุ 43 ปี ซึ่งระหว่างเจ้าหน้าที่นำหมายไปส่งมอบได้มีผู้ดูแลบ้านออกมารับหมาย แต่ไม่พบตัวเสก โลโซ แต่อย่างใด

    รายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญสำคัญในเรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยได้ให้คนใกล้ชิดประสานงานมายัง สน.คันนายาว ให้รายงานชี้แจงกรณีดังกล่าวอย่างละเอียดตั้งแต่ต้น เนื่องจากเป็นคนที่มีชื่อเสียง มีประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

    ขณะเดียวกันมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีสถานีทีวีช่อง NEW โดยรายการ “NEW อรุณสวัสดิ์” นำภาพจากเฟซบุ๊กของ “เสก โลโซ” เป็นภาพกลุ่มบุคคลรับประทานอาหารในร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีข้อความระบุว่า “ผกก.รังสรรค์&สารวัตรธี&สจ.แทน เป็นตัวแทนตำรวจนครฯ มาสังสรรค์ตามประสาพี่น้องกัน@ร้านอีสานบ้านสวน”

    จากภาพดังกล่าวทำให้โซเชียลมีเดียตั้งคำถามถึงการปฏิบัติตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายที่ถูกระบุชื่อพร้อมภาพถ่าย ว่าเป็นการเหมาะสมหรือไม่ เพราะ “เสก โลโซ” ยังอยู่ใน “สถานะผู้ต้องหาตามหมายจับ” เลขที่ 478/2560 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2560 ของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร และไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน” และอยู่ระหว่างตำรวจนครบาลคันนายาวแจ้งข้อหาเพิ่มเติม “เสพยา” อาจเข้าข่ายขัดคำสั่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีหนังสือคำสั่งถึงข้าราชการตำรวจเลขที่ 0001 (ศปก.ตร.)/96 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2560

    “ข้อที่ 2.3 ห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงกิริยาอาการในลักษณะที่อาจทำให้บุคคลอื่นเข้าใจในทำนองว่ามีความใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ต้องหาเป็นการส่วนตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้” โดยจากกระแสภาพดังกล่าวยังไม่มีความเคลื่อนไหวหรือปฏิกิริยาจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่อย่างใด.