เช็คขนส่งฯทั้งระบบลุ้นปลดล็อค 32 จังหวัด 1 พ.ค.นี้


เพิ่มเพื่อน    


21เม.ย.63-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายอนุทินชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยมีสัญญาณที่ดี หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ในพื้นที่ 32 จังหวัดไม่มีผู้ติดเชื้อใหม่ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา และอาจนำไปสู่การปลดล็อคการทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่งของจังหวัดเหล่านี้

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.)เปิดเผยว่า หากมีสัญญาณที่ชัดเจนและมีประกาศปลดล็อค ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ออกมา ทางกรมขนส่งฯพร้อมรับไม้ต่อ โดยแนวทางปฏิบัติในเรื่องของการบริการรถโดยสารสาธารณะ นั้น กรมขนส่งฯจะต้องออกประกาศยกเลิก  การปิดเส้นทางของรถหมวด 3(วิ่งระหว่างจังหวัด) ออกมา ส่วนรถสาธารณะที่วิ่งอยู่ในภายจังหวัดในส่วนนั้น ก็เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการ สามารถประกาศให้ผู้ประกอบการกลับมาเดินรถได้ตามปกติอยู่แล้ว 

ด้านนายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส ยอมรับว่ากำลังติดตามข้อมูลในส่วนนโยบายเรื่องการปลดล็อค 32 จังหวัดจากศูนย์โควิดฯ และประกาศจากกรมการขนส่งทางบก เรื่องการเปิดให้เดินรถโดยสารสาธารณะในแต่ละเส้นทาง โดยเมื่อมีการประกาศออกมาชัดเจนแล้ว  ในส่วน ของบขส.ก็จะมีการพิจารณารายละเอียดเป็นรายจังหวัดไป อย่างไรก็ตามยอมรับว่าในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ หากมีการเดินรถก็จะเป็นในลักษณะที่ยังต้องจัดมาตรการคุมโรค  ใส่หน้ากากอนามัย และในเรื่องของระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing ในสถานีและบนรถ  ซึ่งแน่นอนก็จะทำให้ในรถโดยสารแต่ละคัน ยังต้องเว้นระยะห่าง และมีอัตราบรรทุกอยู่ที่ประมาณ 50% 

รวมทั้งการให้บริการ บขส.จะต้องพิจารณา "มอมิเตอร์" ความต้องการเดินทางของผู้โดยสารในแต่ละเส้นทาง โดยพิจารณาได้จากยอดอัตราการจองตั๋วเข้ามา ทั้งนี้บขส.ประเมินว่า หากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ควบคุมได้แล้ว ประชาชนน่าจะกลับมาใช้บริการรถโดยสารตามปกติ ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม โดยกรรมการผู้จัดการใหญ่บขส.กล่าวย้ำว่า บขส.เข้าใจในสถานการณ์ พร้อมปฏิบัติตามนโยบายรัฐโดยคำนึงถึงการแก้ปัญหาการระบาดของโควิด-19 และสุขภาพของประชาชนเป็นหลัก

ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา ซึ่ง บขส.งดจำหน่ายตั๋วโดยสารใหม่ ให้เดินทางเฉพาะผู้จองตั๋วล่วงหน้าที่ยังมีค้างอยู่ ซึ่งปกติในระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคมทุกปี จะเป็นช่วงเดินทางคับคั่ง เป็นช่วงที่บขส.ทำรายได้ของปี แต่จากการระบาดของไวรัสฯขณะนี้  ทำให้บขส.สูญรายได้ประมาณ 800-1,000 ล้านบาทในช่วง 3 เดือนดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากไวรัสโควิด-19 ในส่วนของผู้ประกอบการเดินรถร่วมบริการของ บขส. จะมีการเข้ายื่นข้อเรียกร้องขอความช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐใน 2-3 วันข้างหน้า 

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการแทนผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)กล่าวว่า มาตรการปลดล็อกดาวน์ขณะนี้ รอฟังนโยบายจากกระทรวงคมนาคม ในส่วนของการรถไฟฯต้องประเมินสถานการณ์ ค่อยๆเปิด ในจังหวัดที่ไม่มีความเสี่ยง และรอดูเงื่อนไข โดยรฟท.ก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม

สำหรับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ปัจจุบันมีผู้โดยสารมาใช้บริการ 3-4 พันคนต่อวัน จากปกติ 2 -3 หมื่นคนต่อวัน ส่วนความเสียหายยอมรับว่าสูญเสียรายได้ แต่รายจ่ายก็ลดลงด้วยเช่นเดียวกัน ในส่วนของ รฟท.จะมีการสรุปตัวเลขเป็นมูลค่ารสยได้ตัวเงินอีกครั้ง โดย รฟท.จะประเมินผลความเสียหายเป็นรายไตรมาส และรายปีเพื่อขอเงินชดเชยจากภาครัฐ ต่อไป

ด้านนายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า(จท.)กล่าวว่ากรณีที่รัฐบาลเตรียมผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หรือแผนเปิดเมืองในวันที่ 1 พฤษภาคม นั้นในส่วนของกรมเจ้าท่า ที่ดูแลการเรือเดินทั้งประเทศ มีความพร้อมที่จะปฏิบัติตาม ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่า หากจะปลดล็อคจะมีเรื่องอะไรบ้าง เช่น จะให้เรือโดยสารต่างประเทศเข้ามาได้ด้วยหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้จะต้องดูรายละเอียดต่อไป

“ในส่วนของกรมเจ้าท่ามีความพร้อม หากเข้าสู่โหมดปกติจะปฏิบัติ โดยการเตรียมเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลตรวจตรา ให้ผู้ใช้บริการต้องสวมหน้ากาก มีเจลล้างมือตามท่าเรือ รวมถึงคุมเข้มมาตรการเว้นระยะห่างทางคมคม( social distancing)เพราะเป็นที่แน่นอน เมื่อมีการปลดล็อกจะมีผู้มาใช้บริการเรือเป็นจำนวนมาก 
ปัจจุบันกรมเจ้าท่า มีรายงานการใช้บริการขนส่งทางเรือทั้งในกรุงเทพฯและภูมิภาค อยู่ที่ 3 หมื่นคนต่อวัน ยกตัวอย่าง เช่น การเดินทางจากดอนสักไปสมุยก็ไม่ได้มีปัญหา ตรงนี้ก็ยังเดินเรือปกติ”นายวิทยา กล่าว

นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท.กล่าวว่า สำหรับการบินให้บริการในเส้นทางภายในประเทศนั้น  ที่ผ่านมาสายการบินสามารถดำเนินการได้ปกติ เพราะที่ผ่านมาสายการบินแต่ละแห่งได้ประกาศหยุดทำการบินไป  เพราะเห็นว่าพื้นที่แต่ละจังหวัดมีการประกาศปิดตามอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด หากทำการบินไปลงแต่ละจังหวัด  ผู้โดยสารก็อาจไม่ได้รับความสะดวก  แต่หากวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ มีการปลดล็อคแล้ว ผู้ประกอบการสายการบินน่าจะทยอยเปิดทำการบินในเส้นทางที่มีความพร้อม ซึ่งขณะนี้ก็ทราบว่าหลายสายการบินมีแผนที่จะกลับมาทำการบินแล้ว

ส่วนเส้นทางบินระหว่างประเทศ ที่ในขณะนี้ยังถูกระงับอยู่ ตามนโยบายของศูนย์โควิดฯ และประกาศของกพท. คงต้องติดตามสถานการณ์ไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อให้สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 มีความปลอดภัยจริงๆ ตามแนวทางของนายกรัฐมนตรีเพื่อไม่ให้  ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่กลับมาเพิ่มขึ้นอีก  เพราะจะทำให้การแก้ไขปัญหาในช่วงที่ผ่านมาเกิดการสูญเปล่า  ทั้งนี้ในส่วนตัวเห็นว่าสำหรับเส้นทางบินระหว่างประเทศนั้นน่าจะมีการประเมินสถานการณ์ทุก 15 วัน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"