นักร้องรุ่นใหญ่ แต๋ม-ชรัส เฟื่องอารมย์ มาเผยจุดพลิกผันจากพนักงานแบงค์สู่อาชีพนักร้องชื่อดัง ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow พร้อมซัดกลับคำครหาไม่แมนว่าตัวเองย่อมรู้ตัวเอง!

 

ทุกคนติดอยู่บ้านกับโควิด เบื่อแล้วหรือยัง?

อาแต๋ม : เผอิญงานมันจะหมดเมื่อเดือนมีนา มันจะมีอะไรที่ค้างคากันอยู่ พอช่วงที่มีเคอร์ฟิวที่เริ่มหยุดอยู่กับที่ก็ดูแลตัวเอง ดูแลคนอื่น เซฟตัวเอง เซฟคนอื่น เว้นระยะห่าง แต่มันเป็นสิ่งที่ดีนะ มันไม่น่าเบื่อเลย ที่บ้านมีอะไรทำเยอะแยะ

 

อาเริ่มต้นจากการเป็นพนักงานธนาคาร?

อาแต๋ม : ทำงานแบงค์ เป็นคนคีย์ฝาก-ถอน เงิน พอเสร็จก็ไปทำสายต่างประเทศต่อ อยู่แบงค์กรุงเทพฯ 14 ปี ตอนนั้นเกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ก็ออกไปอยู่บริษัทเงินทุน มีอยู่ช่วงนึงที่มันแย่ที่สุดคือ ช่วงต้มยำกุ้ง ปี 35-40 ตอนนั้นแบงค์ล่มไปหมด ตอนนั้นทำงานไปด้วย ร้องเพลงไปด้วย

 

แล้วเข้ามาในวงการเพลงได้ยังไง?

อาแต๋ม : ก็คุณไพโรจน์ สังวริบุตร ก็ไปเจอเขา เขาไปซื้อต้นไม้ วันหนึ่งเขาก็บอกว่า เขาอยากมีเพลงในหนังเขา ผมบอกว่าผมแต่งเป็นนะ ก็มีโอกาสได้แต่งเพลง แต่ไม่ร้องเอง หลังจากนั้นระย้า รถไฟดนตรีไปดูหนัง เอ๋ก็เลยบอกว่าเพื่อนผมเองชรัล ก็เลยได้ร้องเพลงตั้งแต่ตอนนั้นมา  เพลงแรกๆที่น่าจะรู้จักก็คือ รู้อยู่แก่ใจ, ผีเสื้อ, ช้ำเอง, ทะเล จนมาวันหนึ่งก็มาอยู่แกรมมี่

 

มีคนเม้าท์มามากมายว่าอาแต๋มไม่แมน?

อาแต๋ม : ก็แล้วแต่จะคิดแล้วกัน คนเรามันอยู่ที่ใจ เราต้องรู้ตัวเองว่าเราเป็นยังไง เป็นนาย เป็นนาง หรือเป็น น.ส. อันนี้อยู่ที่ตัวเรา เป็นเรื่องส่วนบุคคลไม่มีใครรู้ว่าเราเป็นอะไร เพราะฉะนั้นเขาก็คาดการณ์กันไป แต่ตัวเองย่อมรู้ตัวเอง