นิเทศก์จุฬาฯ ปรับเนื้อหาหลักสูตรป.โท-เอก เน้นเข้าสู่ยุคดิจิทัล สนองตลาดแรงงาน


เพิ่มเพื่อน    

10-เม.ย.61-นิเทศ จุฬาฯ ปรับเนื้อหาหลักสูตรป.โท-เอก เบนเข็มเข้าสู่ยุคสื่อสารดิจิทัลเต็มตัว เน้นสนองความต้องการตลาดแรงงาน จบแล้วสามารถเป็นทั้งฝ่ายทรัพยากรบุคคล นักการตลาด นักคิดวิเคราะห์ได้ 

    ที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศาสตราจารย์ ดร.ปาริชาต สถาปิตานนท์ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ ได้เปิดเผยว่า จากการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยในสังคมยุคดิจิทัลส่งผลกระทบต่อหลายด้าน ทั้งทางธุรกิจ สังคม รวมไปถึงระบบการศึกษา ทำให้เกิดการตื่นตัวขึ้นเพื่อปรับตัวให้ทันยุคสมัย ในส่วนของคณะนิเทศศาสตร์จึงได้มีการปรับตัวเช่นกัน ด้วยการปรับหลักสูตรเนื้อหารายวิชาของคณะในระดับปริญญาโท และเอกให้มีเนื้อหาที่เข้มข้นข้นขึ้น   โดยหลักสูตรทั้งสองระดับจะแบ่งเนื้อหาวิชาออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่ 1.ด้านวารสารศาสตร์ นโยบายและดาต้าศึกษา ที่มุ่งเน้นไปในเรื่องของการศึกษาสื่อดิจิทัลมากขึ้น ทั้งด้านดิจิทัลเศรษฐกิจ สังคม และจิตวิทยาในโลกไซเบอร์ เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาบริหารจัดการชุดข้อมูลมาวิเคราะห์ใช้ให้เกิดประโยชน์สำำหรับการประกอบอาชีพแต่ละด้านในอนาคต 


    2.ด้านการจัดการการสื่อสารแบบบูรณาการ ในสาขานี้ก็เกิดจากการรวมเอาการประชาสัมพันธ์ โฆษณา แบรนด์ดิ้ง มาบูรณาการเรียนรู้การสื่อสารเชิงปฏิสัมพันธ์และดิจิทัล แล้วก็เรียนรู้ด้านการตลาดเชิงเนื้อหา และการจัดการภาวะวิกฤตในยุคดิจิตอล เพื่อที่จะสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ องค์กร 


    3.ด้านสื่อและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ สาขาวิชานี้จะเน้นไปด้านอุตสาหกรรมที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นหลัก เพื่อผลิตสื่อ สร้างสรรค์สาร เนื้อหาให้มีความน่าสนใจ และทำให้แพร่หลายไปยังต่างประเทศ ซึ่งจะต้องร่วมกันตอบโจทย์ว่าจะทำอย่างไร ให้สื่อในสังคมเรากลายเป็นอุตสาหกรรมของประเทศ เหมือนกับการท่องเที่ยวที่เป็นอุตสาหกรรมหลักได้ และอุตสาหกรรมสื่อของเราสามารถขายให้กับต่างประเทศได้ ซึ่งอุตสาหกรรมในที่นี้อาจไม่ใช่แค่อุตสาหกรรมบันเทิง แต่รวมไปถึงข้อมูลข่าวสารอื่นๆ ด้วย ก็มุ่งหวังที่อยากจะให้อุตสาหกรรมสื่อของไทยสร้างรายได้ให้กับประเทศเหมือนอย่างเกาหลี 


     และ 4. กลุ่มวิชาวาทนิเทศ วิชานี้สำคัญตราบใดที่เรายังต้องสื่อสารกัน คำถามคือเราจะทำอย่างไรให้การสื่อสารมันสอดคล้องกับปัจจุบัน สาขาวิชานี้ก็จะเหมาะกับคนที่จะทำงานด้าน HR พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ หรือบุคคลที่คิดว่าอนาคตจะไปเป็นคนให้คำปรึกษาทางด้านบุคลิกภาพ การสื่อสารกับบรรดาผู้นำที่อยู่ในภาคส่วนต่างๆ ของสังคม


    " วิชาทั้ง 4 กลุ่มนำไปใช้ได้กับทุกอาชีพไม่จำเป็นต้องอาชีพธุรกิจสื่อ อีกอย่างคือ วิชาที่กำลังตื่นตัวขณะนี้มองว่าเป็นวิชาอินโฟรกราฟิก ซึ่งเป็นพื้นฐานของคณะนิเทศที่ต้องเรียนอยู่แล้ว และอีกวิชาคือวิชาการค้าขายในยุคดิจิทัล เหมาะกับผู้ประกอบการ SME เพราะมีผู้ประกอบการและค้าขายทางออนไลน์เป็นจำนวนมาก"ศ.ดร.ปาริชาติกล่าว  


    ศ. ดร.ปาริชาต กล่าวต่อว่า หลักสูตรใหม่เริ่มใช้ในปีนี้ และพร้อมที่จะเปิดรับคนที่สนใจอยากจะศึกษาไม่ว่าจะเรียนจบสาขาใดมาก็ตาม ไม่ว่าจะทันตแพทย์ วิศวกรรมศาสตร์ หรือจะประกอบวิชาชีพอะไรก็ได้ ฯลฯ จุดมุ่งหวังคืออยากให้วิชาด้านนิเทศศาสตร์ เป็นทักษะทางวิชาการช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับวิชาชีพของนิสิต หรือนิสิตที่ประกอบธุรกิจก็นำเอาทักษะการสื่อสารไปใช้ต่อยอดได้ สำหรับผู้ที่จะเข้ามาก็รับจำนวนตามเกณฑ์ของมหาวิทยาลัย แต่อาจจะไม่มากเพราะต้องการนิสิตที่จบไปอย่างมีคุณภาพ ฉะนั้นจึงต้องมีการคัดกรองนิสิตก่อนเข้ามา ต้องผ่านการทดสอบวิชาภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และความรู้พื้นฐานเฉพาะก่อน เพื่อต้องการคนที่สนใจจริงมาเรียน และคนที่จะเข้ามาอย่างน้อยต้องวางแผนชีวิตเอาไว้แล้ว รู้หัวข้อที่จะวิจัยด้วยในทั้งสองระดับ


    ด้านผศ.ดร.ธาตรี ใต้ฟ้าพูล รองคณบดีฝ่ายบัณฑิตศึกษา จุฬาฯ กล่าวต่อว่า หลักสูตรที่ปรับทำให้ชัดเจนและได้เรียนครบด้าน ไม่มีวิชาซ้ำซากเหมือนเดิมอีก นิสิตป.โท ต่อไปนี้จะเน้นไปที่การวิจัยเชิงวิเคราะห์มากขึ้นไม่ใช่แค่สำรวจความเห็น ส่วนป.เอกก็จะเน้นไปที่การสัมมนา หาหัวข้อมาพูดคุยร่วมกัน ส่วนของนิสิตเดิมทั้งป.ตรี โท เอก ก็ไม่ได้ทอดทิ้งยังคงเรียนหลักสูตรเก่าแต่เพิ่มเนื้อหาที่มีประเด็นสำคัญของปัจจุบันมากขึ้น  ตอนนี้นิเทศไม่ใช่แค่สื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์เท่านั้น แต่นิเทศคือศาสตร์ของการสื่อสาร ที่จะเรียนและนำไปใช้ได้กับคนทุกอาชีพ ที่ผ่านมาก็มีผู้คนทุกช่วงวัย ช่วงอายุ จบการศึกษามาจากหลากหลายสาขา และประกอบอาชีพต่างกันก็มาเรียน.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"