ชุ่มฉ่ำทั่วไทย เที่ยวที่ไหนดี


เพิ่มเพื่อน    

    "สงกรานต์" วันปีใหม่ไทยปีนี้หยุดยาว 6 วันเต็มๆ ตั้งแต่วันที่ 12-16 เมษายน เป็นโอกาสดีที่จะกลับไปรดน้ำดำหัวขอพรผู้หลักผู้ใหญ่ในครอบครัว พร้อมกับเล่นน้ำสงกรานต์ให้คลายร้อน สุขกายสบายใจ ซึ่งทุกจังหวัดเตรียมจัดงานสงกรานต์ไว้ให้พี่น้องชาวไทยกันอย่างชุ่มฉ่ำคึกคัก
    นอกจากสงกรานต์ถนนข้าวสาร สีลม หรือย่านสยามสแควร์ที่สร้างชื่อกระฉ่อนโลกแล้ว ในกรุงเทพฯ อีกหลายแห่งยังมีการจัดงานสงกรานต์ด้วย เช่น ที่สวนลุม ซอยรางน้ำ ยิ่งปีนี้กระแส "ออเจ้า" หรือละครบุพเพสันนิวาสมาแรง พร้อมๆ กับการแต่งชุดไทย ก็เลยทำให้วัดวาอารามในกรุงเทพฯ ย่านริมน้ำเจ้าพระยาตั้งแต่วัดแจ้ง, วัดโพธิ์, วัดประยูรฯ, วัดกัลยาณมิตร, ชุมชนกุฎีจีน, ท่าเรือยอดพิมาน, ท่าเรือมหาราช, ท่าเรือริเวอร์วอล์ค, ท่าเรือเอเชียทีค, ท่าล้ง 1919  ก็ร่วมจัดเทศกาลสงกรานต์ย้อนยุคเชื่อมเกี่ยวกันอย่างคึกคักทั้งทางบกและทางน้ำ
    ส่วนทางรถไฟ ททท.ก็มีการนำเที่ยวช่วงสงกรานต์โดยรถไฟไปได้ทั้งขอนแก่น-กาฬสินธุ์-อุดรฯ-นครพนม-หนองคาย-ร้อยเอ็ด-บึงกาฬ-เลย..และยังพานั่งรถต่อไปสงกรานต์ลาวที่ไซยะบุรีและหลวงพระบาง..ได้อีกด้วย โดย ททท. และการรถไฟไทยในอีสาน จัดเที่ยวสงกรานต์รวม 6 เส้นทางอีกด้วย นอกจากได้เที่ยวแบบอิ่มอกอิ่มใจแล้ว ค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวเมืองรอง เช่น ใบเสร็จจากโรงแรมที่จดทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทยตามกฎหมายโรงแรมยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตลอดปี 2561 นี้ได้อีกด้วย

(สงกรานต์ที่ภูเขาทอง วัดสระเกศ สักการะพระศรีมหาโพธิ์อายุกว่า 100 ปี เพื่อเสริมสิริมงคล)

    ในกรุงเทพฯ ถ้าเจาะลึกไปแต่ละที่ก็มีสถานที่ไปทำบุญ สาดน้ำ หรือทำกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย เริ่มจาก วัดภูเขาทอง มหาสมัยสูตร 205 ปี ศรีมหาโพธิ์ สถานที่เป็นสิริมงคล ททท.ร่วมกับวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร เชิญชวนผู้สนใจร่วมงาน สงกรานต์ ภูเขาทอง มหาสมัยสูตร 205 ปี ศรีมหาโพธิ์ โดยมีกิจกรรมสำคัญคือ ร่วมสรงน้ำต้นพระศรีมหาโพธิ์ อายุกว่า 200 ปี พร้อมรับน้ำพระพุทธมนต์มหามงคลพิธีมหาสมัยสูตร หนึ่งเดียวในประเทศไทย ในระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2561 ณ วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร (ภูเขาทอง) กรุงเทพมหานคร โดยพิธีสมโภชเจริญพระพุทธมนต์ “มหาสมัยสูตร” เพื่อทำน้ำพระพุทธมนต์แจกจ่ายให้ประชาชนนำไปประพรมที่บ้านเรือนเพื่อความเป็นสิริมงคลสืบเนื่องมาแต่สมัยรัชกาลที่ 3 จนถึงปัจจุบันนับเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 170 ปี โดยพิธีสวดตรงกับวันที่ 15 เมษายน เวลา 18.00 น.ของทุกปี บทสวดมหาสมัยสูตรเป็นบทพระพุทธมนต์ที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศถึงการประชุมเทวดาครั้งยิ่งใหญ่ หากประชาชนได้นำน้ำมนต์ไปบูชาก็จะเกิดความร่มเย็นเป็นสุขเมื่อเปลี่ยนศักราชขึ้นปีใหม่ไทย
    เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น.ของการจัดงานทุกวัน ผู้มาเที่ยวชมสามารถสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมประทับตราลงบน Postcard ครบ 8 จุด รอบภูเขาทอง ได้แก่ 1.ต้นพระศรีมหาโพธิ์ 2.พระอุโบสถ 3.พระวิหารหลวงพ่ออัฏฐารส 4.พระบรมบรรพต (ภูเขาทอง) 5.หลวงพ่อดำ 6.หลวงพ่อโต 7.ศาลาการเปรียญ และ 8.ลานกิจกรรมพระเจดีย์ทราย เจดีย์ข้าวสาร เพื่อรับหนังสือ “เป็นบุญจริงๆ นะ” รวมคำสอนของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร สัมผัสกับบรรยากาศตลาดย้อนยุคการแสดงทางวัฒนธรรม สลับสับเปลี่ยนกันไปในแต่ละวัน

(บรรยากาศสงกรานต์ที่คิง เพาเวอร์)

    ถัดมา งานสงกรานต์ "คิง เพาเวอร์ สงกรานต์ รางน้ำนครา" เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ไทย และร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ผ่านการแต่งชุดไทยที่มีเสน่ห์อันเป็นอัตลักษณ์ไทยให้คงอยู่สืบไป ตั้งแต่วันนี้-15 เมษายน 2561 ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น กิจกรรมไฮไลต์ พบกับการจำลองบรรยากาศวิถีไทยที่โดดเด่นด้วยโทนสีแบบไทย อาทิ สีแดงชาด สีเหลืองไพร สีเขียวใบแค สีรงทอง และวิถีชีวิตที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทยเสนอผ่าน 5 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 โซนวัด ได้มีการอัญเชิญพระพุทธรูปยุคต้นรัตนโกสินทร์ประจำวัดอภัยทายาราม (วัดมะกอก) ที่มีอายุกว่า 200 ปี มาประดิษฐานยังบริเวณลานเรารักพระเจ้าอยู่หัว ให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมสรงน้ำพระ ขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องในโอกาสปีใหม่ไทย และสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทยอันดีงาม อาทิ การก่อเจดีย์ทราย โซนที่ 2 โซนตลาด ที่รวบรวมร้านอาหารดังมาไว้ทั้งตลาดบกและตลาดน้ำกลางกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก ในส่วนที่ 3 โซนทุ่ง สัมผัสวิถีการดำรงชีวิตแบบท้องถิ่น โซนที่ 4 โซนสวน เป็นโซนที่มีการแสดงต่างๆ มาสลับหมุนเวียนให้รับชม ปิดท้ายด้วยโซนที่ 5 ซึ่งได้นำบ้านที่นำเอกลักษณ์ของรูปแบบวิถีไทยทั้ง 4 ภาค รวมทั้งอาหารดังประจำแต่ภาคมารวมไว้ให้ได้ลิ้มรสกัน ยังมีขบวนแห่ตามประเพณีต่างๆ มากมายสุดอลังการสลับกันไปทั้ง 6 วัน ติดตามกิจกรรมในวันต่างๆ ได้ที่ https://www.facebook.com/Kingpowerofficial/

(ซุ้มดอกมะลิที่ “ล้ง 1919”)

    “ล้ง 1919” ท่าประวัติศาสตร์ศิลป์ไทย-จีนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมสืบสานประเพณีในแบบฉบับไทย จัดสงกรานต์ครั้งแรกของล้ง ขึ้นกับ งาน “SONGKRAN @ LHONG 1919” (สงกรานต์ แอท ล้ง 1919) โดยจะเริ่มกิจกรรมพร้อมเปิดให้คนทั่วไปได้มาร่วมชมและสืบสานประเพณี ตั้งแต่วันที่ 11-15 เมษายน 2561 ณ โครงการล้ง 1919 กิจกรรมไฮไลต์เสริมสิริมงคลในประเพณีปีใหม่ไทย ได้แก่ การสรงน้ำหลวงพ่อสมปรารถนา นามอย่างเป็นทางการว่า "พระสิทธารถ" เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย หน้าตัก 3 ศอก 1 คืบ จากวัดพิชยญาติการาม

(สรงน้ำหลวงพ่อสมปรารถนา ที่ล้ง 1919)

    ถ้าอยากเปียกก็ไปลอดอุโมงค์ดอกมะลิรับความเป็นสิริมงคลให้ชุ่มฉ่ำ ตามความเชื่อเขาว่ากันว่าดอกมะลิเป็นเครื่องหมายของความบริสุทธิ์ ส่งกลิ่นหอมได้ไกลและยาวนาน ฉะนั้นถ้าใครได้เดินผ่านอุโมงค์นี้ก็จะเหมือนเดินทางข้ามปีด้วยความชื่นบานและเป็นสิริมงคล ละอองน้ำที่ลงมาเป็นน้ำพระพุทธมนต์จากพิธีเทวาภิเษกเหรียญเจ้าแม่หม่าโจ้ว ซึ่งสมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เมตตารับเป็นประธานฝ่ายสงฆ์

(เจดีย์ทราย 3 องค์ ผลงานของแทน โฆษิตพิพัฒน์ บุตรชายอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์)

    นอกจากนี้ ในล้งก็มีพระเจดีย์ทรายแบบร่วมสมัย 3 องค์ สูง 4 เมตร ที่เพิ่งสร้างขึ้นรับสงกรานต์ ออกแบบโดยศิลปินรุ่นใหม่ แทน โฆษิตพิพัฒน์ บุตรชายของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ซึ่งศิลปินกระซิบบอกว่า ผุดไอเดียมาจากแนวคิดเรื่องพุทธศาสนา ประเพณี ความเชื่อของไทยนี่แหละ เอาเม็ดทรายแต่ละเม็ดมาประกอบกันเป็นแผ่นๆ เรียงซ้อนฐานกันขึ้นไปเป็นเจดีย์ ส่วนยอดทำตามความรุ่งเรืองตามยุคสมัยของแผ่นดิน ทั้งทรงบัวตูมจากสุโขทัย ทรงระฆังจากอยุธยา และเจดีย์เพิ่มมุมทรงเครื่องจากธนบุรี และก็รัตนโกสินทร์ การรวมกันของทราย รวมความเชื่อการอยู่ร่วมกันของคนไทยและชาวจีนร้อยพันแซ่ ใครอยากเห็นก็มาชมที่ล้งที่เดียว
    ถ้าไม่อยากออกไปไกล ย่านการค้าราชประสงค์ก็มีงานสงกรานต์ให้รื่นเริง โดยจับมือร่วมกับ ททท. และศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า จัดงาน “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ โก โลคัล แอท ราชประสงค์” ชวนออเจ้ากิน-ดื่ม-เที่ยววิถีไทย ยกของดีจากเมืองรองให้ชิม ช็อป แชะไม่อั้น ใจกลางกรุง 8-16 เมษายนนี้ โดยพลิกโฉมย่านใหญ่ใจกลางกรุงเป็นมหานครแห่งโลคอลฟู้ด โลคอลช็อปปิ้ง สุดอะเมซิ่งกับของดีของอร่อยจาก 55 เมืองรองทั่วประเทศ อาทิ สมุทรสงคราม เพชรบุรี นครปฐม กำแพงเพชร สุพรรณบุรี ราชบุรี จันทบุรี ตรัง ศรีสะเกษ ลำปาง ฯลฯ มารวมไว้ในย่านราชประสงค์ ทั้งการแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่นร่วมสมัย (Local Link) ขนม ผลไม้และอาหารขึ้นชื่อจากท้องถิ่น (Eat Local) และผลิตภัณฑ์สินค้ารวมถึงการสาธิตวิธีการทำผลิตภัณฑ์ตามวิถีของแต่ละท้องถิ่น (Our Local) มาเสิร์ฟให้เพลิดเพลินกันเต็มอิ่มตลอดช่วงสงกรานต์ของไทย พร้อมเสิร์ฟความอร่อยแบบไทยแท้กับสุดยอดเมนูเด็ดประจำถิ่นทั้งคาวหวานกว่า 100 รายการ ช็อปเสื้อผ้า ของใช้ ของดีจากท้องถิ่นไทย ชุดไทย ในราคาสุดพิเศษ ดูรายละเอียดแคมเปญหรือโปรโมชั่นต่างๆ ได้ที่ www.bkkdowntown.com และ www.facebook.com/HeartOfBangkok

(แต่งชุดไทยเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์ฟรี 9 แห่ง)

    หรือถ้าอยากจะออกนอกเมือง กรมศิลปากรจัดกิจกรรมเปิดให้เข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์ทั่วประเทศ โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมเข้าชมสำหรับผู้ที่แต่งกายด้วยชุดไทย ระหว่างวันที่ 12-16 เมษายน เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมไทยอันดีงาม ในอุทยานประวัติศาสตร์ทั้ง 9 แห่ง ได้แก่ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จ.สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย จ.นครราชสีมา อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ จ.กาญจนบุรี อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ และอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จ.อุดรธานี กรมศิลปากร

(การแสดงจาก จ.กาฬสินธุ์)

    ขอขยายอีกนิดว่า ในต่างจังหวัดเมืองรองที่ ททท.จัดอันดับไว้ และมีการจัดงานที่เด่นกันมากๆ ก็มี 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ ณ ลานวัฒนธรรมวัดสว่างคงคา อำเภอเมือง ในแนวคิด "สงกรานต์ดีโน่สินธุ์ ถิ่นคนน่ารัก" ในระหว่างวันที่ 12-15 เมษายน โดยจะมีกิจกรรม อาทิ สรงน้ำหลวงพ่อองค์ดำ กิจกรรมเล่นน้ำกับไดโนเสาร์, จังหวัดกำแพงเพชร ณ ถนนริมแม่น้ำปิงเชื่อมโยงถึงเกาะกลางแม่น้ำปิง อำเภอเมือง ในแนวคิด "สงกรานต์มงคล ก่อพระทรายน้ำไหล ยิ่งใหญ่พวงมโหตร" ในระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน กับกิจกรรมขบวนแห่ผ้าห่ม ห่อพระธาตุตามประเพณีโบราณการก่อเจดีย์ทราย

(เทพทั้ง 3 องค์ จ.นครศรีธรรมราช)


    ส่วนของจังหวัดจันทบุรี ณ บริเวณวัดตะปอนน้อย วัดตะปอนใหญ่ และวัดเกวียนหัก อำเภอขลุง ในแนวคิด "มหาสงกรานต์ตะปอน ตำนานแห่เกวียนพระบาท จันทบุรี" วันที่ 13-17 เมษายน มีกิจกรรม อาทิ พิธีบวงสรวงพระบาทผ้า ขบวนเกวียนแห่ผ้าพระบาท, จังหวัดนครศรีธรรมราช ณ บริเวณถนนราชดำเนิน อำเภอเมือง ในแนวคิด "เทศกาลมหาสงกรานต์ แห่นางดานเมืองนครศรีธรรมราช" วันที่ 11-15 เมษายน กิจกรรม อาทิ การแสดงแสง สี เสียง ในพิธีโล้ชิงช้า ขบวนแห่นางดาน และจังหวัดสิงห์บุรี ณ วัดโพธิ์เก้าต้น อำเภอค่ายบางระจัน ในแนวคิด "นุ่งโจง ห่มสไบ เล่นน้ำแบบไทยๆ ณ สิงห์บุรี" ในหว่างวันที่ 12-15 เมษายน มีกิจกรรมพิธีสรงน้ำพระอาจารย์ธรรมโชติ รดน้ำดำหัวพ่อปู่แม่ย่าบางระจันด้วย
    นักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ในจังหวัดต่างๆ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://thai.tourismthailand.org


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"