'พาณิชย์'เผยเงินเฟ้อก.ค.63 ปรับตัวดีขึ้นเหลือติดลบ 0.98%


เพิ่มเพื่อน    

 

6 ส.ค.2563 น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนก.ค.2563 ลดลง 0.98% เป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 จากที่เคยติดลบหนักตั้งแต่เดือนเม.ย.-มิ.ย.2563 โดยลดลง 2.99% , 3.44% และ 1.57% ตามลำดับ จึงไม่น่ากังวลในเรื่องเงินเฟ้อที่ขยายตัวติดลบ โดยมองว่าเงินเฟ้อจะยังทรงตัวอยู่ในระดับนี้ต่อไป ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับทิศทางของเศรษฐกิจในประเทศ และเงินเฟ้อรวม รวม 7 เดือนของปี 2563 (ม.ค.-ก.ค.) ลดลง 1.1% ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักอาหารสดและพลังงานออก เดือนก.ค.2563 สูงขึ้น 0.39% เฉลี่ย 7 เดือน สูงขึ้น 0.34%

สำหรับปัจจัยที่ทำให้เงินเฟ้อเดือนก.ค.2563 ฟื้นตัวดีขึ้น มาจากราคาพลังงานที่เริ่มทรงตัว ส่งผลให้การหดตัวของราคาพลังงานในเดือนนี้ลดลง จากเดิมที่ราคาพลังงานจะเป็นตัวฉุดเงินเฟ้อสำคัญ , อาหารสดกลับมาเพิ่มขึ้นในรอบ 3 เดือน จากการเปิดภาคเรียน การคลายล็อกดาวน์ที่ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาเป็นปกติ และราคาเนื้อสุกรในประเทศสูงขึ้น จากความต้องการของเพื่อนบ้าน , มาตรการลดค่าไฟฟ้าและประปา สิ้นสุดลง และผู้ประกอบการจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าน้อยลง ทำให้ราคากลับมาเป็นปกติ

ส่วนรายละเอียดเงินเฟ้อที่ลดลง 0.98% มาจากการลดลงของสินค้าอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ลด 1.87% โดยการขนส่งและการสื่อสาร ลด 5.12% กลุ่มพลังงาน ลด 10.91% เคหสถาน ลด 0.06% เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า ลด 0.04% การบันเทิง การอ่าน การศึกษา ลด 0.21% ยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ ลด 0.02% ส่วนหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 0.55% จากการสูงขึ้นของข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง 5.17% เครื่องประกอบอาหาร เพิ่ม 3.43% เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 1.63% อาหารบริโภคในบ้าน เพิ่ม 0.57% นอกบ้าน เพิ่ม 0.71% แต่ไข่ ผลิตภัณฑ์นม ผักและผลไม้ ราคาลดลง

ทั้งนี้ ในเดือนก.ค.2563 มีสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น 210 รายการ เช่น ข้าวสารเหนียว เนื้อสุกร ซี่โครงหมู ข้าวราดแกง กับข้าวสำเร็จรูป อาหารเช้า น้ำมันพืช น้ำอัดลม และค่าเช่าบ้าน เป็นต้น ไม่เปลี่ยนแปลง 75 รายการ และลดลง 137 รายการ เช่น น้ำมัน ทั้งเบนซิน และดีเซล ก๊าซหุงต้ม ส้มเขียวหวาน พริกสด และเงาะ เป็นต้น

น.ส.พิมพ์ชนกกล่าวว่า แนวโน้มเงินเฟ้อในเดือนต่อไป คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น จากมาตรการที่รัฐบาลส่งเสริมและกระตุ้นให้มีการท่องเที่ยวในประเทศ และราคาพลังงานเริ่มทรงตัว แต่อาจจะยังอยู่ในแดนลบ เพราะราคาพลังงานเมื่อเทียบกับปีก่อนยังต่ำ และยังต้องติดตามการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ราคาพลังงานโลก เศรษฐกิจโลก ซึ่งยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ยังวางใจไม่ได้ โดยกระทรวงพาณิชย์ ยังคงคาดการณ์เงินเฟ้อทั้งปี 2563 อยู่ที่ติดลบ 0.7% ถึงลบ 1.5% มีค่ากลางอยู่ที่ลบ 1.1% มีปัจจัยสนับสนุนจากจีดีพี ติดลบ 7.6% ถึงลบ 8.6% น้ำมันดิบดูไบ 35-45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยน 30.5-32.5 บาทต่อเหรียญสหรัฐ
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"