ภาคเอกชนผนึกกำลัง มอบหน้ากาก 4 แสนชิ้น กระตุ้นคนบริจาคโลหิต หลังคลังสำรองเลือด ขาดแคลนหนักในช่วงโควิด  


เพิ่มเพื่อน    

7 ส.ค.63- ที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย และบริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) แถลงโครงการ สนับสนุนหน้ากาก “Mask for Blood Hero” ภายใต้แคมเปญ  Plus One เพิ่มจำนวนครั้ง เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต โดยจัดสรรงบประมาณ 20 ล้านบาท สมทบโครงการฯ สำหรับผลิตหน้ากากอนามัย Mask for Blood Hero จำนวน 400,000 ชิ้น/ 1 คน 1 สิทธิ์ เพื่อมอบเป็นของที่ระลึกให้ผู้บริจาคโลหิต และกระตุ้นเชิญชวนรณรงค์ชวนให้บริจาคโลหิตเพิ่มจำนวนจำนวนครั้ง

 โดยเฉพาะผู้ที่บริจาคโลหิตปีละ 1 ครั้ง เพิ่มขึ้นอีก 1 ครั้ง และเป็นผู้บริจาคต่อเนื่องทุก 3 เดือน เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ต้องการเลือดได้ทันที โดยผู้บริจาคโลหิตที่มีสิทธิ์ได้รับหน้ากาก Blood Hero สามารถลงทะเบียนผ่าน QR Code ณ จุดบริจาคโลหิตเท่านั้น ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่ง และโรงพยาบาลสาขาบริการโลหิตทั่วประเทศ ในระหว่างวันที่ 10 สิงหาคม-31 ตุลาคม 2563 

ชนินท์ ว่องกุศลกิจ


นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เนื่องด้วยสถานการณ์ของสภากาชาดไทยประสบภาวะโลหิตสำรองไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา และประชาชนอาจจะกังวลถึงความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ในขณะเดียวกัน ความต้องการใช้โลหิตก็ไม่ได้ลดลง ส่งผลให้ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมานี้ สถานพยาบาลต้องใช้เลือดในคลังจนโลหิตสำรองลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ จนเกิดวิกฤติขาดแคลนเลือด  จึงเล็งเห็นความจำเป็นในการรณรงค์ให้ประชาชนมาร่วมกันบริจาคเลือดเพื่อให้มีโลหิตสำรองเพียงพอที่จะสามารถช่วยชีวิตคนไทย หวังว่าโครงการฯ ที่ได้ร่วมจัดทำหน้ากากMask for Blood Hero ขึ้นมา จะเป็นตัวช่วยให้ประชาชนอยากมาบริจาคโลหิตเพิ่มขึ้น เพราะในยุคที่ทุกคนต้องใช้ชีวิตแบบ New Normal หน้ากากจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในการใช้ในชีวิตประจำวัน


นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการ บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน)  กล่าวเสริมว่า นับว่าเป็นเรื่องที่พร้อมจะสนับสนุนโดยเฉพาะการผลิตหน้ากาก ซึ่งได้ใช้ความเชี่ยวชาญจากทักษะที่เราผลิตสิ้นค้าถ้าเนื้อผ้า หรือสรีระรูปหน้าที่ได้ทำหน้ากาออกมาให้สวมใส่ได้พอดี  โดยจะใช้เส้นใย Nylon ขนาดเล็กระดับ Microfiber พิเศษ จากประเทศญี่ปุ่น ทำให้เนื้อผ้ามีความละเอียดสูง และมีความอ่อนนุ่มกระชับเข้ากับรูปหน้า ประกอบด้วยคุณสมบัติช่วยป้องกันการกระจายของเชื้อโรค สามารถซักทำความสะอาดและนำกลับมาใช้ซ้ำได้ โดยหน้ากากที่ผลิตครั้งนี้มีความพิเศษเพราะเป็น Limited Edition ไม่มีจำหน่ายทั่วไปด้วย 

รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ


ด้านรองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติสภากาชาดไทย ให้ข้อมูลว่า จากสถานการณ์การบริจาคโลหิตปัจจุบัน ยังพบว่าการบริจาคโลหิตยังไม่สม่ำเสมอ มีการขาดแคลนโลหิตบางช่วงเวลาส่งผลกระทบทำให้ปริมาณโลหิตสำรองคงคลังไม่เพียงพอทั้งในภาวะปกติและในภาวะวิกฤติที่ต้องใช้โลหิตในการรักษาอย่างเร่งด่วนจำนวนมาก จะเห็นได้ว่าในช่วงของการระบาดของโรค COVID-19 ที่ผ่านมามีการบริจาคโลหิตที่ลดน้อยลงมากเนื่องจากผู้บริจาคโลหิตมีความวิตกกังวลในการเดินทางมาบริจาคโลหิต จนเกิดภาวะวิกฤติโลหิตขาดแคลนทั่วประเทศ และอีกปัจจัยคือ การบริจาคโลหิตยังไม่สม่ำเสมอทุก 3 เดือน ทำให้โลหิตสำรองมีเพียงพอใช้เพียงต่อวันเท่านั้น จึงควรจะมีสำรองไว้ใช้ประมาณถึง 2 วัน โดยในแต่ละปีได้รับการบริจาคโลหิตอยู่ที่ 2.6-2.7 ล้านยูนิต/ปี และจากสถิติการบริจาคโลหิตทั่วประเทศปี 2562 มีผู้บริจาคโลหิตปีละ 1 ครั้ง มีจำนวนมากกว่า 1 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 67.6 และในครึ่งปี 2563 มีการบริจาคโลหิตเข้ามาแล้วประมาณ 2 ล้านยูนิต ก็ได้นำออกไปรักษาแล้วทั้งหมด ดังนั้นทั้งประเทศควรมีโลหิตสำรองไว้ในคลังอย่างน้อย 3 ล้านยูนิต/ปี ในทุกกรุ๊ปเลือด 


“โดยการนำโลหิตสำรองมาใช้จะแบ่งเป็นร้อย 77 สำหรับผู้ป่วยที่เกิดภาวะสูญเสียโลหิตเฉียบพลัน และร้อยละ 23 สำหรับผู้ป่วยโรคเลือด อาทิ ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับโลหิตในการผ่าตัด อุบัติเหตุ ฯลฯ ที่มีการสูญเสียโลหิตอย่างเฉียบพลันซึ่งการรักษาผู้ป่วยต้องมีโลหิตสำรองระหว่างการผ่าตัดจำนวน 2-3 ยูนิต ในกรณีที่มีอาการรุนแรงต้องใช้โลหิตจำนวน 5-10 ยูนิตหรือ กลุ่มผู้ป่วยโรคเลือดจำเป็นที่ต้องใช้โลหิตในการรักษาเป็นประจำ ได้แก่ โรคธาลัสซีเมียโลหิตจางเกล็ดเลือดต่ำต้องได้รับโลหิตในการรักษาอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ยูนิตและในรายที่เป็นรุนแรงจำเป็นต้องได้รับโลหิตในการรักษาอย่างทันท่วงที ดังนั้นการรณรงค์เพิ่มผู้บริจาคโลหิตใหม่และคงไว้ซึ่งผู้บริจาคประจำส่งเสริมและกระตุ้นให้บริจาคเพิ่มจากปีละ 1 ครั้งเป็น 2 ครั้งจาก 2 ครั้งเป็น 3 ครั้งและจาก 3 ครั้งเป็น 4 ครั้งจะช่วยทำให้มีปริมาณโลหิตที่สม่ำเสมอและเพียงพอแก่ผู้ป่วยในโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศ” รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ กล่าว 


อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนใจสามารถร่วมบริจาคโลหิตได้ที่ จุดบริจาคโลหิตเท่านั้น ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่ง และโรงพยาบาลสาขาบริการโลหิตทั่วประเทศ ในระหว่างวันที่ 10 สิงหาคม-31 ตุลาคม 2563 สอบถามเพิ่มเติมที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติสภากาชาดไทยโทรศัพท์ 0 2263 9600 ต่อ 1760, 1761

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"