9 ส.ค.63-ที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมา เวลา 17.00 น. กลุ่มพลังมวลชนที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มนักรบเมืองย่า และคนโคราชปกป้องสถาบัน รวมกว่า 50 คน ส่วนใหญ่สวมเสื้อสีเหลือง นำโดยนายประทีป ณ นคร แกนนำกลุ่มนักรบเมืองย่า และนายสมชาย ลิขิตวรศิริ แกนนำกลุ่มคนโคราชปกป้องสถาบัน ร่วมกันจัดกิจกรรมแสดงพลังปกป้องสถาบัน โดยมีพ.ต.อ.กฤตยา เลาประสพวัฒนา ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมานำกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 20 นายคอยดูแลรักษาความเรียบร้อย 

แกนนำได้ยืนอ่านแถลงการณ์ ใจความว่า เนื่องด้วยขณะนี้ได้มีกลุ่มเคลื่อนไหวของประชาชน นักเรียน นักศึกษา หลายๆกลุ่ม มีทั้งสนับสนุนนายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชา และขับไล่นายกรัฐมนตรี ซึ่งกลุ่มที่ขับไล่ได้ยื่นข้อเสนอให้แก้รัฐธรรมนูญและถึงขั้นให้ยุบสภา ซึ่งเราเห็นว่าทุกกลุ่มมีสิทธิเรียกร้องตามรัฐธรรมนูญที่พึงจะทำได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย โดยทางเราก็ไม่เข้าไปก้าวล่วงทั้งสองกลุ่ม แต่ที่ทางกลุ่มเรากังวลคือ มีบางคน บางกลุ่ม ออกมาโจมตี ใส่ร้าย ป้ายสี จาบจ้วง สถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย ทั้งจากคำพูด แผ่นป้าย การกระทำอันออกหน้าออกตา โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายเลย จนลามปรามขยายเข้าไปสู่สถาบันการศึกษาอย่างกว้างขวาง แต่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐกับปล่อยปละละเลย ไร้ประสิทธิภาพในการออกมาห้ามปรามหรือดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิด ขณะเดียวกันกลุ่มที่รักสถาบันพระมหากษัตริย์เริ่มทนไม่ไหวกับความไม่เอาจริงเอาจังของเจ้าหน้าที่ จึงได้ทยอยออกมาเคลื่อนไหวปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์มากขึ้น 

 "พวกเราในนามกลุ่มนักรบเมืองย่าปกป้องสถาบันและกลุ่มคนรักโคราช เล็งเห็นแล้วว่าถ้าปล่อยไปอย่างนี้คงจะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าของทั้งสองกลุ่มไม่ได้ ซึ่งทางเราก็ไม่ต้องการให้เกิดขึ้น เพราะจะไม่เป็นผลดีต่อทุกคน ทุกฝ่าย ดังนั้นทางกลุ่มฯจึงขอเรียกร้องมาดังนี้ 1.ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการกับผู้กระทำผิดกฎหมายไม่ว่ากลุ่มไหน , 2.ให้บุคคลหรือกลุ่มที่กำลังจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์จงหยุดการกระทำโดยเด็ดขาด"

ท้ายแถลงการณ์ระบุว่า  ทางกลุ่มจะขอติดตามสถานการณ์และจะไม่ขออกมากระทำการใดๆที่ผิดกฎหมาย โดยเด็ดขาด เพราะถ้าพวกท่านหยุด เราก็หยุด เพราะเราถือว่าสถาบันพระมหากษัตริย์จะต้องอยู่คู่กับคนไทย และประเทศไทยไปตลอดกาล ในนาม กลุ่มนักรบเมืองย่าและคนโคราชปกป้องสถาบัน หลังจากนั้นกลุ่มฯได้ร่วมกันร้องเพลงชาติ จบต่างตะโกนคำว่า ทรงพระเจริญ 3 ครั้งก่อน สลายตัวแยกย้ายเดินทางกลับอย่างสงบ