อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐบันทึกอุณหภูมิกลางทะเลทรายในหุบเขามรณะ รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ เมื่อบ่ายวันอาทิตย์ ได้ที่ 129.9 องศาฟาห์เรนไฮต์ หรือ 54.4 องศาเซลเซียส ซึ่งอาจเป็นสถิติสูงสุดบนโลกนับแต่ปี 2456 ที่หุบเขามรณะแห่งนี้เช่นกัน

แฟ้มภาพ อุทยานแห่งชาติหุบเขามรณะ ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2563 (Photo by Karla Ann Cote/NurPhoto via Getty Images)

    สถานีตรวจวัดอากาศอัตโนมัติของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ (เอ็นดับเบิลยูเอส) ของสหรัฐวัดอุณหภูมินี้ได้ที่เฟอร์เนซครีกของหุบเขามรณะที่มีพรมแดนติดกับรัฐเนวาดา เมื่อเวลา 15.41 น.วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม ซึ่งหากอุณหภูมิ 54.4 องศาเซลเซียสนี้ได้รับการพิสูจน์ยืนยัน ก็จะเป็นอุณหภูมิสูงสุดบนพื้นโลกอย่างน้อยก็ 1 ใน 3 ครั้งที่ได้จากการบันทึกที่น่าเชื่อถือ

    แถลงการณ์ของเอ็นดับเบิลยูเอสประจำลาสเวกัสกล่าวว่า อุณหภูมิสูงสุดที่วัดได้นี้ยังเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นที่ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่หากผ่านการพิสูจน์แล้ว ก็จะเป็นอุณหภูมิสูงสุดที่ผ่านการพิสูจน์อย่างเป็นทางการนับจากอุณหภูมิที่ตรวจวัดได้เมื่อเดือนกรกฎาคม 2456 ที่หุบเขามรณะแห่งนี้เช่นกัน และยังจะทำลายสถิติอุณหภูมิสุงที่สุดของเดือนสิงหาคมในสหรัฐด้วย

    องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (ดับเบิลยูเอ็มโอ) เคยบันทึกสถิติอุณหภูมิสูงสุดบนพื้นโลกตลอดกาลไว้ที่ 134 องศาฟาห์เรนไฮต์ (56.7 องศาเซลเซียส) เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2456 ที่กรีนแลนด์แรนช์ซึ่งอยู่ในหุบเขามรณะแห่งนี้เช่นกัน ดับเบิลยูเอ็มโอยกให้อุณหภูมิปี 2456 เป็นสถิติสูงสุดของโลกหลังจากปฏิเสธบันทึกเก่า 58 องศาเซลเซียส ที่ลิเบียเมื่อปี 2465 และ 55 องศาเซลเซียสที่ตูนิเซียปี 2474 เนื่องจากปัญหาความน่าเชื่อถือ ทั้งความผิดพลาดของมนุษย์, อุปกรณ์ที่ใช้ และความไม่สัมพันธ์กันกับอุณหภูมิในภูมิภาคนั้น

    หุบเขามรณะเป็นสถานที่ที่อยู่ต่ำที่สุดและร้อนที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยชุมชนเฟอร์เนซครีกที่วัดอุณหภูมิได้เมื่อวันอาทิตย์นั้น อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 190 ฟุต อยู่ในทะเลทรายโมฮาวีทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย.