รร.อนุบาลทับสะแก แชมป์ลดขยะจาก15ตันเหลือ2กก./เดือนโมเดลโครงการ "ต้นกล้าไร้ถัง"


เพิ่มเพื่อน    

นักเรียนระดับประุถมรู้วิธีจัดการขยะด้วยตนเอง ทำให้ปริมาณขยะรร.อนุบาลทับสะแก ลดลงจากระดับ15ตันเหลือ 2กก./เดือน


  
    กว่า 5 ปีของโรงเรียนอนุบาลทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่พยายามแก้ปัญหาการจัดการขยะ และพยายามยกระดับการจัดการให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดโรงเรียนได้รับการคัดเลือกเป็น “โรงเรียน Best Practice” จากมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์ อีดี (CONNEXT ED) โครงการส่งเสริมสังคมของ บมจ.ซีพี ออลล์ ซึ่งดูแล โครงการ “ต้นกล้าไร้ถัง”  โดยโรงเรียนอนุบาลทับสะแก ประสบความสำเร็จลดปริมาณขยะจาก 15 ตันต่อเดือน เหลือเพียง 2กิโลบกรัมต่อเตือนเท่านั้น

คุณครูสุดารัตน์ สังข์ฤทธิ์ ผู้ดูแลโครงการ “ต้นกล้าไร้ถัง”


    สุดารัตน์ สังข์ฤทธิ์ หรือ ครูต้อ อาจารย์ชำนาญการพิเศษ โรงเรียนอนุบาลทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้ดูแลโครงการ “ต้นกล้าไร้ถัง” เล่าความสำเร็จว่า   มาจากการนำจัดการขยะแบบไร้ถัง ซึ่งได้รับความรู้มาจาก ดร.ไพบูลย์ โพธิ์สุวรรณ สถาบันพระปกเกล้า  ซึ่งจะแตกต่างจากการ  จัดการขยะที่นิยมในปัจจุบัน คือการจัดการขยะแบบแยกถัง เน้นมีถังขยะจำนวนมาก และแยกประเภทให้เรียบร้อย  ส่วนการจัดการขยะแบบไร้ถัง เป็นแนวทางที่สวนกระแส   เพราะมุ่งเน้นให้โรงเรียนจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง ลดและเลิกการใช้สิ่งที่กำลังจะกลายมาเป็นขยะ เช่น หลอด จานกระดาษ แก้วน้ำแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง การนำสิ่งที่คนมองว่าเป็นขยะมารียูส รีไซเคิล การจัดการวัสดุอินทรีย์ การสร้างความร่วมมือเพื่อลดขยะกับพ่อค้าแม่ค้าในโรงเรียน การบ่มเพาะนักเรียนในโรงเรียนกว่า 600 คนให้มีส่วนร่วมในการจัดการขยะในชีวิตประจำวันตั้งแต่ต้น โดยภายหลังจากเริ่มดำเนินการในปี 2558 โรงเรียนสามารถลดปริมาณขยะลงได้อย่างต่อเนื่อง จาก 15 ตันต่อเดือน เหลือเพียง 2 กิโลกรัมต่อเดือน โรงเรียนยังได้รับการยกระดับเป็น “ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน” เผยแพร่ความรู้ด้านการจัดการขยะไปสู่ชุมชนและโรงเรียนอื่นๆ ด้วย 
 
“เราจะโดดเด่นโดยที่รอบข้างเต็มไปด้วยขยะไม่ได้ ต้องออกโรงช่วยชุมชนโดยการสร้างต้นกล้าในโรงเรียน นั่นคือเยาวชน กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมคน กล้าที่จะสวนกระแส กล้าที่จะทำทุกอย่างที่เขาไม่ทำกันเพื่อให้ลดขยะลงได้มากที่สุด” สุดารัตน์ ย้ำ 

 

ธานินทร์ บูรณมานิต ผู้บริหาร ซีพี ออลล์ 

ด้านธานินทร์ บูรณมานิต กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า โรงเรียนอนุบาลทับสะแก ถือเป็น 1 ใน 32 โรงเรียน ที่ได้รับการยกย่องเป็นโรงเรียน Best Practice และถือเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่โรงเรียน ที่จัดทำโครงการด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างโดดเด่น สำหรับการขยายผลโครงการ"ต้นกล้าไร้ถัง" ไปสู่ทั่วประเทศนั้น จะเริ่มดำเนินการกับโรงเรียนที่อยู่ในเครือข่ายสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED ภายใต้ความดูแลของซีพี ออลล์ จำนวน 392 โรงเรียน เริ่มจากปีการศึกษา 2563 จำนวน 50 โรงเรียน ปีการศึกษา 2564 เพิ่มเป็น 100 โรงเรียน และปีการศึกษา 2565 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของโครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED เพิ่มจนครบ 392 โรงเรียน โดยโรงเรียนอนุบาลทับสะแก จะจัดทำคู่มือการดำเนินงานโครงการต้นกล้าไร้ถังให้แก่โรงเรียนต่างๆ แนะนำเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ คอยให้คำแนะนำแก่โรงเรียนต่างๆ อย่างใกล้ชิด และลงไปประเมินผลการดำเนินงาน 

ปรีดา สุขใจ นายอำเภอทับสะแก ที่กำลังหาทางลดปริมาณขยะในชุมชน เพราะเกิดปัญหาจะไม่มีบ่อทิ้งขยะในปีหน้า


ปรีดา สุขใจ นายอำเภอทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า โครงการต้นกล้าไร้ถัง เข้ามาช่วยสร้างประโยชน์ 3 ข้อให้แก่ชุมชน 1.ช่วยสร้างสูตรสำเร็จในการบริหารจัดการขยะว่าต้องมีการจัดการอย่างไร 2.ช่วยจัดการปัญหาขยะตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน 3.ช่วยปลูกฝังเยาวชนให้มีจิตสาธารณะ สร้างบุคลากรเข้ามาทำงานเรื่องขยะ สร้างการมีส่วนร่วมและนิสัยที่ดีที่จะติดตัวเด็กไปตลอด 

“ทุกวันนี้ เทศบาลตำบลทับสะแกต้องมีหน้าที่ในการเก็บขยะวันละ 7 ตันแล้วนำไปกำจัดที่อำเภอปราณบุรี ต้องเดินทางไปกลับทุกวัน วันละ 240 กิโลเมตร ยิ่งไปกว่านั้นคือในปี 2564 แหล่งกำจัดขยะที่ปราณบุรีจะปิด ซึ่งปกติพี่น้องประชาชนในเทศบาลเขาเสียค่าธรรมเนียม 20 บาท แล้วยกขยะออกมาจากนอกรั้วบ้าน ที่เหลือเป็นหน้าที่ของเทศบาล ตอนนี้เราก็ต้องสื่อสารทำความเข้าใจกับเขาว่าถึงแม้จะ 20 บาทหรือ 200 บาท แต่ว่าอนาคตข้างหน้ามันมีปัญหาเรื่องแหล่งทิ้งขยะ โครงการต้นกล้าไร้ถังจึงยิ่งมีความสำคัญที่จะช่วยลดปริมาณขยะตั้งแต่ต้นทาง” ปรีดา ระบุ 
  

ธนัญชัย สุขสว่าง ผู้นำรุ่นใหม่โครงการ  


ด้าน ธนัญชัย สุขสว่าง ผู้นำรุ่นใหม่ (School Partner) บมจ.ซีพี ออลล์ กล่าวว่า ได้พยายามเข้าไปมีส่วนร่วมว่าโรงเรียนขาดเรื่องไหน ต้องทำเรื่องอะไรเพิ่มเติม เพื่อประโยชน์ต่อน้องนักเรียน คุณครู และสังคม โดยพิจารณาจากศักยภาพและขีดความสามารถของโรงเรียนที่สามารถปฏิบัติได้จริง และส่งดีต่อส่วนรวม โดยจากการลงพื้นที่โรงเรียน พบว่า นักเรียนตั้งแต่ระดับชั้น ป.1-ป.6 สามารถเรียนรู้วิธีการจัดการขยะด้วยตัวเองอย่างน่าประทับใจ 

 

 

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"