บริษัทวอลต์ดิสนีย์ประกาศเลิกจ้างพนักงานราว 28,000 คน ส่วนใหญ่เป็นพนักงานในสนุกของดิสนีย์ที่สหรัฐ ที่ระงับบริการเพราะการระบาดของโควิด-19 โดย 2 ใน 3 ของพนักงานที่เลิกจ้างทำงานแบบพาร์ตไทม์

    การระบาดของโรคโควิด-19 และมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้ดิสนีย์ปิดสวนสนุกทั่วโลก โดยขณะนี้เกือบทุกแห่งกลับมาเปิดให้บริการแล้ว ยกเว้นดิสนีย์ดิสนีย์แลนด์ที่เมืองแอนะไฮม์ รัฐแคลิฟอร์เนีย แต่สวนสนุกที่กลับมาเปิดให้บริการต้องจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวแต่ละวัน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม

    จอช ดาโมโร ประธานดิสนีย์พาร์ก, เอ็กพีเรียนเซส แอนด์โพรดักส์ กล่าวในถ้อยแถลงเมื่อวันอังคารว่า การเลิกจ้างพนังงานเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่เชื่อว่าเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ดิสนีย์แลนด์กลับมาเปิดให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเมื่อเข้าสู่ภาวะปกติ

    แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาเยือนดิสนีย์แลนด์ในเมืองแอนะไฮน์ ใกล้นครลอสแองเจลิสหลายล้านคน ถือเป็นสวนสนุกที่มีนักท่องเที่ยวอันดับ 2 ของโลกรองจากเมจิกคิงดอมในวอลต์ดิสนีย์เวิลด์ เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา แต่ดิสนีย์แลนด์ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ เนื่องจากมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ของรัฐแคลิฟอร์เนีย

    ก่อนหน้านี้ ดิสนีย์มีกำหนดเปิดดิสนีย์แลนด์ในเดือนกรกฎาคม แต่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นสั่งยกเลิกเนื่องจากมีการระบาดของไวรัสโคโรนาเพิ่มขึ้น

    รัฐแคลิฟอร์เนียมีผู้ติดเชื้อโรคนี้สะสม 805,000 ราย เป็นรัฐที่มีผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 สูงสุดในสหรัฐ วอลต์ดิสนีย์เวิลด์ในเมืองออร์แลนโดมีพนักงานประจำและพาร์ตไทม์ก่อนการระบาดของโรคโควิด-19 ราว 77,000 คน ส่วนดิสนีย์แลนด์ที่รัฐแคลิฟอร์เนียมีพนักงานราว 32,000 คน.

    การตัดสินใจปลดพนักงานของดิสนีย์เกิดขึ้นภายหลังบริษัทแจ้งรายงานขาดทุนถึง 4,700 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสล่าสุด อันเป็นผลจากการปิดสวนสนุก และการหยุดหรือเลื่อนปล่อยฉายภาพยนตร์เรื่องใหม่ แต่ดิสนีย์ยังมีรายได้ชดเชยจากลูกค้าของบริการดิสนีย์พลัสที่เพิ่มขึ้นมากในช่วงโควิด-19 ระบาด.