คลังกางมาตรการอุ้มSMEโต้หญิงหน่อย


เพิ่มเพื่อน    


7 ต.ค. 2563 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลดูแลผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จากการแชร์ข้อมูลของคุณหญิงสุดารัตน์  เกยุราพันธุ์ ในสื่อโซเชียลมีเดีย ที่ระบุว่า มาตรการของรัฐบาลในปัจจุบัน เช่น ซอฟท์โลน 500,000 ล้านบาท ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังมีเอสเอ็มอี กว่า 90% เข้าไม่ถึง และขอให้รัฐบาลเร่งดูแลธุรกิจเอสเอ็มอี ตั้งกองทุนเอสเอ็มอี เพื่อให้สินเชื่อกับผู้ประกอบการรายย่อยที่ไม่อยู่ในระบบธนาคารพาณิชย์ ว่า ปัจจุบันรัฐบาลได้มีมาตรการด้านการเงินเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เอสเอ็มอี ตาม พ.ร.ก. ซอฟท์โลนของ ธปท. ซึ่ง โดยแบ่งการให้ความช่วยเหลือได้ ดังนี้  

1.มาตรการสินเชื่อเพิ่มเติม วงเงินรวม 500,000 ล้านบาท โดย ธปท. ให้สถาบันการเงินกู้ยืมในอัตรา0.01% ต่อปี เพื่อให้สถาบันการเงินปล่อยกู้ให้แก่เอสเอ็มอี ที่มีวงเงินสินเชื่อรวมไม่เกิน 500 ล้านบาท วงเงินไม่เกิน 20% ของยอดสินเชื่อคงค้างของลูกหนี้ ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 2562 คิดดอกเบี้ย 2% ต่อปี เป็นเวลา 2 ปี โดยเอสเอ็มอี ไม่ต้องชำระดอกเบี้ยใน 6 เดือนแรก และ 2. การพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยให้กับเอสเอ็มอี ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 100 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2562 เพื่อให้เอสเอ็มอี ไม่ต้องมีภาระในการชำระหนี้แก่สถาบันการเงินเป็นระยะเวลา 6 เดือน 

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการจากบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ดำเนินโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS Soft Loan พลัส วงเงินค้ำประกัน 57,000 ล้านบาท โดย บสย. ค้ำประกันสินเชื่อให้กับเอสเอ็มอี ที่มีคุณสมบัติตาม พ.ร.ก. ซอฟท์โลน คิดอัตราค่าธรรมเนียม 1.75% ต่อปี ระยะเวลาค้ำประกัน 8 ปี โดยเริ่มค้ำประกันและเก็บค่าธรรมเนียมในต้นปีที่ 3 นับจากวันที่ได้รับสินเชื่อตาม พ.ร.ก. ซอฟท์โลน เพื่อให้สถาบันการเงินมีความมั่นใจในการปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอีเพิ่มขึ้น และสามารถปล่อยสินเชื่อในแก่เอสเอ็มอีได้ยาวขึ้น ทำให้เกิดความคล่องตัวในการอนุมัติสินเชื่อ และให้เอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงสินเชื่อตาม พ.ร.ก. ซอฟท์โลน ได้อย่างทั่วถึงและเพียงพอ

อีกทั้ง รัฐบาลยังได้ดำเนินมาตรการด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอี ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ดังนี้ 1. ธนาคารออมสินดำเนินโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำวงเงินรวม 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเอสเอ็มอีทั่วไปและเอสเอ็มอีในธุรกิจท่องเที่ยวกลุ่มละ 10,000 ล้านบาท โดยธนาคารออมสินให้สินเชื่อแก่สถาบันการเงิน ดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี และสถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อต่อให้เอสเอ็มอี วงเงินไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อราย ดอกเบี้ย 2% ต่อปี เป็นเวลา 2 ปี  

โดยธนาคารออมสินจะปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอี โดยตรงจำนวน 3,000 ล้านบาท และยังมีโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับเอสเอ็มอีขนาดเล็กในธุรกิจท่องเที่ยวและ Supply Chain วงเงินรวม 5,000 ล้านบาท วงเงินไม่เกิน 500,000 บาทต่อราย ดอกเบี้ย 3.99% ต่อปี ระยะเวลากู้ 5 ปี ปลอดชำระเงินต้น 1 ปี 

2. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ดำเนินโครงการสินเชื่อ Extra Cash วงเงิน 10,000 ล้านบาท สำหรับเอสเอ็มอีขนาดย่อมทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลในธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด -19 วงเงินสินเชื่อต่อรายไม่เกิน 3 ล้านบาท ดอกเบี้ย 3% ต่อปี ใน 2 ปีแรก ระยะเวลากู้ 5 ปี 

3. บสย. ดำเนินโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS ระยะที่ 8 วงเงิน 10,000 ล้านบาท โดย บสย. ค้ำประกันสินเชื่อให้กับเอสเอ็มอีทั่วไป วงเงินไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อราย ในอัตราค่าธรรมเนียม 1.75% ต่อปี ค้ำประกัน 10 ปี4. รัฐบาลยังมีโครงการช่วยเหลือเอสเอ็มอีรายย่อย ผ่านกองทุน สสว. โดยให้สินเชื่อแก่เอสเอ็มอีทั่วไป รวมถึงธุรกิจท่องเที่ยวและที่เกี่ยวเนื่อง วงเงินต่อรายไม่เกิน 3 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1% ต่อปี ระยะเวลากู้ 7 ปี ปลอดชำระเงินต้น 1 ปี 

อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลังได้ร่วมกับสมาคมสถาบันการเงินของรัฐจัดทำเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน-ด้านการเงิน.com และ ธปท. ได้จัดทำเว็บไซต์ www.bot.or.th/covid19 เพื่อรวบรวมมาตรการด้านการเงินของสถาบันการเงินในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด- 19 ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนและผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงข้อมูลและมาตรการช่วยเหลือดังกล่าวได้อย่างรวดเร็วขึ้น  

“กระทรวงการคลังได้มีติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอดจนแก้ไขปัญหาข้อติดขัดในการดำเนินมาตรการต่าง ๆ และพร้อมที่จะออกมาตรการที่เหมาะสมมาดูแลเศรษฐกิจไทยได้อย่างทันการณ์ต่อไป” สศค. ระบุ 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"