'คลัง'เตรียมแจกของขวัญปีใหม่จับกลุ่มคนว่างงาน


เพิ่มเพื่อน    

 

14 ต.ค. 2563 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง กล่าวว่า ได้เรียกประชุมเพื่อมอบนโยบายให้ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงการคลัง และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ โดยให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปศึกษาแนวทางการออกมาตรการเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากที่คลังได้ออกนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศผ่านโครงการคนละครึ่ง เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านค้า และมาตรการช้อปดีมีคืน ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภค ส่วนลักษณะมาตรการที่จะเป็นของขวัญปีใหม่ที่จะออกมาจะเป็นอย่างไร และ จะแจกให้ใครบ้าง ขอเวลาพิจารณาก่อน 

นอกจากนี้ ได้รับทราบการรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2563 และแนวโน้มของเศรษฐกิจในปี 2564 โดย สศค. โดยคาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ภาครัฐจะต้องเพิ่มการใช้จ่ายเพื่อเยียวยาและช่วยเหลือประชาชนกลุ่มต่าง ๆ อย่างเร่งด่วนเพิ่มขึ้น  

“นโยบายการคลังที่จะต้องเน้นการประสานนโยบายและมาตรการภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังอย่างยั่งยืน (Fiscal Sustainability) ในระยะสั้นจะให้ความสำคัญกับการบริหารเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวโดยเร็ว ตามมติของคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากการระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 (ศบศ.) โดยเฉพาะเรื่องเร่งด่วน คือ การกระตุ้นการบริโภค และการลงทุนภายในประเทศ รวมถึงการแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องของภาคธุรกิจต่างๆ” นายอาคม กล่าว  

โดยการแก้ไขปัญหาสภาพคล่องของทั้งภาคธุรกิจเอกชนและภาคประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี เช่น มาตรการซอฟท์โลน การเร่งรัดการปรับโครงสร้างหนี้ รวมถึงมาตรการการพักชำระหนี้ ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 22 ต.ค.นี้ โดยกระทรวงการคลังต้องประสานธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อกำหนดมาตรการที่เหมาะสมในระยะต่อไป ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรต้องรอความชัดเจนจาก ธปท. อีกครั้ง 

นายอาคม กล่าวว่า อีกภารกิจสำคัญของกระทรวงการคลังคือต้องพยายามให้เอกชนรักษาการจ้างงานขององค์กรไว้ให้ได้มากที่สุด โดยขณะนี้รัฐบาลได้อนุมัติโครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่โดยภาครัฐและเอกชนไว้แล้ว รวมทั้งสร้างความเข้มแข็งให้ฐานะการคลังอย่างยั่งยืน ดูแลกระแสเงินสดของภาครัฐ ให้เพียงพอต่อการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยให้ความสำคัญกับการจัดเก็บรายได้  ให้ได้ตามเป้าหมาย ยังไม่มีการปรับเป้าหมายจัดเก็บใหม่ 

นอกจากนี้ ต้องเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณในปี 2564 ทั้งงบประมาณรายจ่ายและงบลงทุนโดยเฉพาะงบการจัดประชุมสัมมนาในต่างจังหวัดซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคได้ รวมถึงการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบฟื้นฟูเศรษฐกิจ วงเงิน 4 แสนล้านบาท ภายใต้ พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว เพื่อเร่งนำเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็วที่สุด 

สำหรับมาตรการระยะปานกลาง เป้าหมาย คือ การปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจและดูแลให้เศรษฐกิจไทยสามารถกลับมาเติบโตได้ตามศักยภาพหลังจากวิกฤตโควิด-19  โดยมีประเด็นเร่งด่วน คือ การเตรียมมาตรการฟื้นฟูหลังเศรษฐกิจเปิด (Reopening economy) ทั้งมาตรการด้านการเงินการคลังเพื่อรองรับการดำเนินการดังกล่าว และการเร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ โดยชูจุดแข็งว่าไทยเป็นประเทศที่ปลอดภัยในการลงทุน (Safe Heaven) ของการลงทุน เพราะเป็นประเทศปลอดเชื้อ ซึ่งอาจจะเจาะกลุ่ม Investment Travel หรือ การท่องเที่ยวเพื่อการลงทุน จากเดิมท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ 

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การแจกของขวัญปีใหม่ จะเน้นกลุ่มที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือในช่วงที่ผ่านมา เป็นคนละส่วนกับมาตรการช้อปดีมีคืน และ คนละครึ่ง ซึ่งขอเวลาไปศึกษาว่า จะแจกอย่างไร  เบื้องต้นอาจจะเจาะกลุ่มผู้ว่างงาน ซึ่งขณะนี้มีตัวเลขอยู่ราว 1 ล้านคนที่เข้าไปช่วยก่อน โดยไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องบประมาณที่นำมาใช้ เพราะยังเหลือเงินจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท อีกประมาณ 5 แสนล้านบาท ที่ยังนำมาใช้ได้ 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"