22ต.ค.63-นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่หนึ่งในผู้แทนภาคีเครือข่ายเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ทำร้ายนักเรียนในกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎรซึ่งกล่าวหาว่าเป็นคนใกล้ชิดตน ว่า ตนเห็นภาพที่มีการแชร์กันในโลกออนไลน์แล้ว  ซึ่งขอยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริงถ้ารู้จักตนดีพอจะทราบว่าถ้าเป็นคนสนิทของตนจริงๆ ไม่ต้องมาแสดงความยินดีกับตนในตอนรับตำแหน่ง โดยยืนยันว่าในภาพที่มีการแชร์กันไม่ใช่คนรู้จักและให้ไปสืบหาตัวได้เลยว่าเป็นคนใกล้ชิดตนหรือไม่ ซึ่งการกระทำเช่นนี้ถือเป็นการนำข้อมูลเท็จมาสร้างความแตกแยกและสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นในสังคม โดยเฉพาะมีความตั้งใจให้เด็กและเยาวชนมีความเกลียดชังและต่อต้านกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ทั้งนี้ตนจะดำเนินการทางกฎหมายกับกรณีอย่างแน่นอน รวมทั้งขอฝากนักเรียนทุกคนให้มีสติและมีสมาธิในการเสพข้อมูลต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกโซเชียลด้วย  เพราะอะไรสาเหตุใดถึงมีคนมาสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในกลุ่มเด็กและเยาวชน 

นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้หากประเทศไทยมีเด็กที่พร้อมรับฟังข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของตัวเอง เชื่อว่าจะทำให้ประเทศไทยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับนานาประเทศได้อย่างแน่นอน แต่วันนี้มีกลุ่มที่พยายามใส่ข้อมูลที่เป็นเท็จให้แก่นักเรียนถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากขณะนี้นายกรัฐมนตรีก็พร้อมถอยคนละก้าวเพื่อรับฟังปัญหาต่างๆ แล้ว ขณะเดียวกันการชุมนุมครั้งนี้ตนมีความเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของนักเรียนที่ออกมาชุมนุมเป็นอย่างมาก และขอให้ผู้บริหารโรงเรียนดูแลความปลอดภัยของนักเรียนให้ดีที่สุดด้วย เพราะไม่รู้ว่าในการชุมนุมจะมีเหตุความรุนแรงอะไรเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งตนเห็นว่าช่วงเวลานี้ควรจะเป็นเวลาที่เด็กจะต้องตักตวงความรู้และพัฒนาตนเอง แต่หากเด็กบอกว่าการชุมนุมคือวิธีการการพัฒนาตัวเอง ตนขอตั้งคำถามว่าเป็นการพัฒนาตัวเองจริงหรือไม่ เพราะติดตามเนื้อหาสาระของการชุมนุมก็ไม่เห็นจะตรงกับการพัฒนาเด็กไทยแม้แต่น้อย ดังนั้นในการชุมนุมครั้งนี้จึงมีความเป็นห่วงนักเรียนว่าจะเสพข้อมูลที่เป็นเท็จมากกว่า 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีอาจารย์รัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเรียกร้องให้รมว.ศธ.ลาออกเพราะให้คนใกล้ชิดไปทำร้ายนักเรียนนั้น นายณัฏฐพล กล่าวว่า  อาจารย์ที่ให้ข้อมูลประชาชนก็ไม่แยกแยะว่าข้อมูลไหนถูกผิดข้อมูลไหนถูก ซึ่งอาจารย์เข้ามาพบตนด้วยตัวเองได้ พร้อมจะอธิบายข้อมูลที่ถูกต้องให้ฟัง ส่วนประเด็นที่ภรรยาตนโพสต์ข้อความผ่านโลกออนไลน์ไม่พอใจกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฏรนั้น ก็เป็นสิทธิของภรรยาในการแสดงความคิดเห็น เพราะเป็นห่วงการชุมนุมที่อาจส่อไปในทางสร้างความแตกแยกจึงเป็นห่วงบ้านเมืองในฐานะประชาชนคนหนึ่งเท่านั้น