สหรัฐอนุมัติขายอาวุธให้ไต้หวัน1,800ล้าน$ จีนขู่ตอบโต้


เพิ่มเพื่อน    

รัฐบาลสหรัฐอนุมัติขายอาวุธมูลค่ารวม 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐแก่ไต้หวันเมื่อวันพุธ รวมถึงมิสไซล์ชนิดยิงจากอากาศสู่พื้นมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ รัฐมนตรีกลาโหมไต้หวันอ้างซื้อเพื่อสร้างขีดความสามารถในการสู้รบที่น่าเชื่อถือ หาได้คิดแข่งขันอาวุธกับจีน แต่จีนยัวะขู่จะตอบโต้

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม อ้างคำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันพุธว่า รัฐบาลสหรัฐตกลงจะขายอาวุธแก่ไต้หวัน 3 ชุดด้วยกัน มูลค่ารวม 1,800 ล้านดอลลาร์ หรือราว 56,270 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยมิสไซล์ครูซนำวิถีความแม่นยำสูงชนิดยิงจากอากาศ AGM-84H SLAM-ER 135 ลูก, กระเปาะลาดตระเวนทางอากาศ MS-10 จำนวน 6 ตัว และเครื่องยิงจรวดเบาเคลื่อนที่ M142 อีก 11 หน่วย

    คำแถลงกล่าวว่า มิสไซล์ SLAM-ER จะช่วยให้ไต้หวัน "รับมือกับภัยคุกคามในปัจจุบันและอนาคตได้ เนื่องจากมีขีดความสามารถในการโจมตีที่แม่นยำในทุกสภาพอากาศทั้งกลางวันและกลางคืน ทั้งกับเป้าหมายที่เคลื่อนที่หรืออยู่กับที่" บนพื้นดินหรือพื้นผิวมหาสมุทร

    ด้านเหยียน เต้อฟา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไต้หวัน ชี้แจงเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ไต้หวันไม่ได้ต้องการเผชิญหน้ากับจีนหรือยุ่งเกี่ยวกับการแข่งขันอาวุธกับจีน แต่อาวุธเหล่านี้มีความจำเป็นต่อการสร้างขีดความสามารถในการสู้รบที่น่าเชื่อถือ และเสริมสร้างการพัฒนาการรบแบบอสมมาตร

    คำประกาศของสหรัฐเมื่อวันพุธไม่รวมถึงการขายโดรนรบ MQ9 Reaper ซึ่งมีรายงานว่าไต้หวันขอซื้อจากสหรัฐด้วย

    การใช้จ่ายด้านกลาโหมของดินแดนปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตยอย่างไต้หวันนั้นเทียบไม่ติดกับงบประมาณด้านกลาโหมจำนวนมหาศาลของจีนแผ่นดินใหญ่ และถึงแม้สหรัฐจะขายอาวุธให้ แต่ไต้หวันกับสหรัฐไม่มีสนธิสัญญาด้านการป้องกันประเทศในแบบเดียวกับที่สหรัฐมีอยู่กับญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์

    การตกลงขายอาวุธแก่ไต้หวันซึ่งจีนถือว่าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีนและพร้อมจะใช้กำลังผนวกดินแดน ทำให้รัฐบาลจีนเดือดดาล และขู่ว่าจะตอบโต้ "ตามกฎหมายและความจำเป็น" กระทรวงการต่างประเทศของจีนแถลงที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันพฤหัสบดี กล่าวหาสหรัฐว่าละเมิดข้อตกลงสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตที่สองฝ่ายลงนามกันไว้ในทศวรรษ 1970

    จ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงกล่าวว่า การขายอาวุธส่งสัญญาณที่หนักแน่นมากต่อพวกกองกำลังแบ่งแยกดินแดนเพื่อเอกราชของไต้หวัน และทำร้ายความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐอย่างร้ายแรง จีนจะตอบโต้ตามความจำเป็นและชอบด้วยกฎหมาย ขึ้นอยู่กับว่าสถานการณ์จะพัฒนาไปอย่างไร

    นับแต่ไช่ อิงเหวิน ซึ่งไม่ยอมรับหลักการ "จีนเดียว" และมองว่าเกาะไต้หวันคือรัฐอธิปไตย ชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีไต้หวันเมื่อปี 2559 รัฐบาลจีนกดดันทางการทูตและการทหารต่อไต้หวันมากขึ้น ยิ่งปีที่แล้วเครื่องบินขับไล่และเครื่องบินทิ้งระเบิดของจีนรุกล้ำเขตป้องกันภัยของไต้หวันเพิ่มขึ้นมาก และสื่อทางการจีนยังช่วยผสมโรงอวดโอ่แสนยานุภาพ

    สัปดาห์ที่แล้ว จีนเผยแพร่วิดีโอการฝึกทหารจำลองการบุกดินแดนที่ดูคล้ายกับไต้หวัน มีทั้งการโจมตีด้วยมิสไซล์และการยกพลขึ้นบกด้วยยานสะเทินน้ำสะเทินบก และไม่นานมานี้ กองทัพปลดแอกประชาชนจีนยังเผยแพร่วิดีโอโฆษณาชวนเชื่อ จำลองการโจมตีไต้หวัน ที่รวมถึงการยิงมิสไซล์โจมตีฐานทัพสหรัฐบนเกาะกวมในมหาสมุทรแปซิฟิก

    รัฐบาลของสหรัฐ 3 ชุดที่ผ่านมาระมัดระวังกับการขายอาวุธราคาแพงแก่ไต้หวัน ด้วยหวั่นเกรงว่าจะทำให้รัฐบาลจีนเดือดดาล แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มิได้สะทกสะท้าน ถึงแม้ว่าการทุ่มเทที่ทรัมป์มีต่อการป้องกันตนเองของไต้หวันจะก่อคำถามถึงหลักนิยม "อเมริกามาก่อน" ของเขา และความพึงใจแบบเดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิกที่เขามีต่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"