รอยเตอร์อ้างแหล่งข่าววงในว่า นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซิน เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดีเมื่อวันศุกร์เพื่อกราบบังคมทูลขอให้พระองค์ประกาศภาวะฉุกเฉิน ขณะอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้านที่หวังชิงเก้าอี้ ประณามเป็นการยึดติดอำนาจ

แฟ้มภาพ นายกฯ มูห์ยิดดิน ยัสซิน

    แหล่งข่าว 2 ราย ซึ่งปฏิเสธจะเปิดเผยตัวตน ไม่ได้เปิดเผยเหตุผลของการขอให้สมเด็จพระราชาธิบดีอัลสุลต่าน อับดุลเลาะห์ ทรงประกาศภาวะฉุกเฉิน แต่แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า ภาวะฉุกเฉินจะรวมถึงการสั่งปิดการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นการชั่วคราว แต่ด้านการควบคุมการแพร่ระบาดนั้น คำประกาศนี้จะไม่มีมาตรการห้ามเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน

    มูห์ยิดดิน ซึ่งขึ้นสู่อำนาจในเดือนมีนาคมโดยมี ส.ส.หนุนหลังเกินครึ่งสภาแค่ 2 ที่นั่ง ถูกกดดันมานับแต่เดือนที่แล้ว ที่อันวาร์ประกาศว่ามี ส.ส.สนับสนุนเพียงพอที่จะโค่นมูห์ยิดดินลงจากตำแหน่งนายกฯ การกลับมาระบาดหนักขึ้นของไวรัสโคโรนายิ่งเพิ่มปัญหากดดันเขา

    รัฐบาลมีกำหนดจะเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณปี 2564 เข้าสภาวันที่ 6 พฤศจิกายนเมื่อสภาเปิดสมัยประชุมอีกครั้ง แต่ยังมีคำถามว่ารัฐบาลมี ส.ส.สนับสนุนมากพอหรือไม่ หากร่างงบประมาณไม่ผ่านสภา จะถือเป็นการลงมติไม่ไว้วางใจมูห์ยิดดิน ซึ่งอาจนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ การประกาศภาวะฉุกเฉินอาจทำให้การลงมติร่างงบประมาณถูกเลื่อนไปก่อน

    ด้านอันวาร์ตอบโต้รายงานข่าวการเข้าเฝ้าฯ ของมูห์ยิดดินว่า เรามีรัฐบาลที่ขาดความชอบธรรม และรู้ดีว่าไม่มีสนับสนุนข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร จึงใช้วิกฤติโควิ-19 เป็นข้ออ้างในการใช้อำนาจในทางที่ผิด

    รัฐธรรมนูญของมาเลเซีย กษัตริย์สามารถประกาศภาวะฉุกเฉินได้ หากพระองค์ทรงเห็นว่ามีภัยคุกคามความมั่นคงแห่งชาติ, เศรษฐกิจ หรือความสงบเรียบร้อย ครั้งสุดท้ายที่มาเลเซียประกาศภาวะฉุกเฉินคือเมื่อปี 2512 หลังจากเกิดความไม่สงบและจลาจลข้ามเชื้อชาติ.