รัฐบาลสหรัฐอเมริกาไม่นำพาจีน อนุมัติขายระบบมิสไซล์ฮาร์ปูนป้องกันชายฝั่งมูลค่า 2,400 ล้านดอลลาร์ให้แก่ไต้หวัน เพิ่มเติมจากที่เพิ่งอนุมัติขายมิสไซล์และอาวุธมูลค่า 1,800 ล้านดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ก่อน

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันอังคารที่ 27 ตุลาคม กล่าวว่า คำประกาศของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันจันทร์ มีออกมาไม่กี่ชั่วโมงไล่หลังคำแถลงของจีนว่าจะแซงก์ชันบริษัทอเมริกันที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงขายอาวุธให้แก่ไต้หวันเมื่อวันพุธที่แล้ว ซึ่งรวมถึงมิสไซล์ครูซนำวิถีความแม่นยำสูงชนิดยิงจากอากาศ AGM-84H SLAM-ER 135 ลูก มูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์

    ในการตัดสินใจอนุมัติการขายอาวุธแก่ไต้หวันเพิ่มอีก กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอ้างว่า การขายระบบฮาร์ปูนที่เสนอมานี้จะช่วยปรับปรุงความปลอดภัยของไต้หวัน และช่วยรักษาเสถียรภาพทางการเมือง, สมดุลทางทหาร และความก้าวหน้าในภูมิภาคนี้

    ข้อตกลงมูลค่า 2,400 ล้านดอลลาร์ (ราว 74,928 ล้านบาท) นี้ สหรัฐจะขายระบบป้องกันชายฝั่งฮาร์ปูน (HCDS) 100 หน่วยแก่ไต้หวัน ซึ่งรวมถึง มิสไซล์ฮาร์ปูนบล็อก 2 ชนิดยิงจากพื้น RGM-84L-4 มีพิสัยโจมตีเป้าหมายระยะ 125 กิโลเมตร จำนวน 400 ลูก มิสไซล์ชนิดนี้ผลิตโดยบริษัท โบอิ้ง สามารถยิงจากแท่นประจำที่หรือติดตั้งบนรถบรรทุก

    สำนักงานของประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน กล่าวในแถลงการณ์ ขอบคุณสหรัฐที่ขายอาวุธนี้ให้ไต้หวัน โดยบอกว่าจะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการรบสงครามสมมาตรของไต้หวัน

    ด้านรัฐบาลจีน โดยหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงที่กรุงปักกิ่งในวันอังคารว่า จีน "คัดค้านอย่างหนักแน่น" ต่อการขายอาวุธของสหรัฐแก่ไต้หวัน และเรียกร้องให้สหรัฐล้มเลิกแผนขายอาวุธดังกล่าว เพื่อไม่ให้สร้างความเสียหายต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐและสันติภาพและเสถียรภาพข้ามช่องแคบไต้หวันมากไปกว่านี้

    เขากล่าวด้วยว่า จีนจะดำเนินมาตรการที่จำเป็นและเหมาะสมเพื่อรักษาอำนาจอธิปไตยของจีนและผลประโยชน์ด้านความมั่นคง

    เมื่อวันจันทร์ กระทรวงการต่างประเทศของจีนเพิ่งประกาศจะลงโทษบริษัทผู้ผลิตอาวุธของสหรัฐและพวกที่ประพฤติแย่ๆ ในกระบวนการขายอาวุธแก่ไต้หวันมูลค่า 1,800 ล้าน ซึ่งรวมถึงบริษัท ล็อกฮีด มาร์ติน, โบอิ้งดีเฟนซ์ และเรย์เธียน ทั้งนี้เพื่อรักษาผลประโยชน์แห่งชาติของจีน.