คนละครึ่งลงทะเบียนครบ10ล้านฟุ้งยอดใช้จ่ายขยับแตะ 1.2 พันล้านบาท


เพิ่มเพื่อน    

 

28 ต.ค.2563 นางสาวสุภัค ไชยวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าววถึงความคืบหน้าของโครงการคนละครึ่ง ว่า ขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนรับสิทธิ์ครบตามจำนวนที่ 10 ล้านคนแล้ว ภายหลังจากเปิดให้ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนี้ระบบจะทำการตรวจสอบคุณสมบัติ หากผ่านเกณฑ์ผู้ลงทะเบียนจะได้รับเอสเอ็มเอสแจ้งยืนยันสิทธิโดยเร็ว ส่วนยอดลงทะเบียนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบและยอดผู้ได้รับสิทธิ์ที่ถูกตัดสิทธิ์จากการไม่ใช้จ่ายภายใน 14 วัน จะมีการรวบรวมมาเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนใหม่ต่อไป

ทั้งนี้ จากข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 28 ต.ค. 2563 เวลา 12.00 น. มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 4.03 แสนร้านค้า แบ่งเป็นร้านหาบเร่แผงลอย 5 หมื่นร้านค้า ร้านค้าที่มีหน้าร้าน 1.7 แสนร้านค้า ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 1.25 แสนร้านค้า ร้านธงฟ้า 4.23 ร้านค้า ร้านโอท็อป 1.05 หมื่นร้านค้า และร้านประเภทอื่น ๆ อีก 4.64 หมื่นร้านค้า โดยในส่วนนี้มีร้านค้าที่ลงทะเบียนสำเร็จ ประมาณ 2 แสนร้านค้า และมีร้านค้าที่เริ่มมีการใช้จ่ายจริงตามโครงการ ทั้งสิ้น 1.32 แสนร้านค้า และมียอดการใช้จ่ายสะสม 1.25 พันล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 626.97 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 598.47 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 229 บาทต่อครั้ง และมีการใช้จ่ายครบทุกจังหวัด โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กระทรวงการคลังกับธนาคารกรุงไทย ในฐานะผู้ดูแลระบบของโครงการคนละครึ่งได้มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดเพื่อติดตามตรวจสอบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติที่เกิดขึ้นในโครงการคนละครึ่ง โดยธนาคารกรุงไทย ได้นำระบบการป้องกันการทุจริตในกิจกรรมที่เกี่ยวกับการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรฐานสากลมาสนับสนุนโครงการเพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้

ทั้งนี้ ยอมรับว่าได้มีการดำเนินการตรวจสอบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติที่เกิดขึ้นตามการใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่งอยู่ แต่ยังไม่สามารถระบุในรายละเอียดได้ เพราะมีระบบและกระบวนการตรวจสอบซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และมาตรฐานในระดับสากล ซึ่งการตรวจสอบต้องเป็นไปโดยละเอียด ลงไปดูเป็นรายกรณี โดยยืนยันว่าหากพบการกระทำความผิดจริง พร้อมส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายทันที

“หากพบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติ หรือมีการใช้จ่ายที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ จะมีการระงับการใช้แอปพลิเคชันตลอดจนการจ่ายเงินทั้งฝั่งร้านค้าและประชาชนทันที และหากตรวจสอบพบว่าการใช้จ่ายผิดเงื่อนไขโครงการจริงจะดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป จึงขอให้ประชาชนและร้านค้าโปรดอย่าหลงเชื่อการเชิญชวนตามโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ ในการช่วยดำเนินการโดยไม่มีการใช้จ่ายซื้อสินค้าจริงอย่างเด็ดขาด เพราะอาจตกเป็นเหยื่อในการสนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมาย

ที่เกี่ยวข้องได้ และประชาชนที่พบธุรกรรมปิดปกติ สามารถแจ้งเบาะแสการกระทำผิดเงื่อนไขโครงการสามารถส่งข้อมูลมาที่[email protected] หรือ โทร. 02 273 9020 ต่อ 3697 3527 3548 3509” นายผยง กล่าว
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"