ทั่วโลกยังระบาดไม่หยุด ยอดติดโควิดรายวันเกิน5แสนคน


เพิ่มเพื่อน    

จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ทั่วโลกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมามีมากกว่า 500,000 รายเป็นสถิติใหม่ ขณะรัฐบาลฝรั่งเศสและเยอรมนีเตรียมออกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 เข้มงวดขึ้นอีก หลังจากผู้ติดเชื้อรายวันยังเพิ่มไม่หยุด ด้านนครเมลเบิร์นของออสเตรเลียประกาศยุติล็อกดาวน์แล้วในวันพุธ

แฟ้มภาพ เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างเพื่อตรวจเชื้อโควิด ที่เมืองตูรินของอิตาลี

    การรวบรวมข้อมูลอย่างเป็นทางการของสำนักข่าวเอเอฟพีเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม เผยว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 516,898 คน และเสียชีวิตอีก 7,723 คน เหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มมากขึ้นเป็นเพราะมีการตรวจหาเชื้อมากขึ้นนับแต่การระบาดระลอกแรกในเดือนมีนาคมและเมษายน

    ทวีปยุโรปกลับมาเป็นศูนย์รวมการระบาดรุนแรงอีกครั้ง ในช่วง 7 วันที่่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อรายวันเฉลี่ยมากกว่า 220,000 ราย เพิ่มขึ้น 44% จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ส่วนผู้เสียชีวิตเฉลี่ยรายวันอยู่ที่เกือบ 2,000 ราย แม้จะไม่เท่ากับยอดเฉลี่ยมากกว่า 4,000 รายในช่วงพีคของเดือนเมษายน แต่ก็พอทำให้รัฐบาลหลายประเทศเพิ่มมาตรการควบคุมโรคเพื่อพยายามยับยั้งคลื่นการระบาดระลอกที่สองนี้

    สหรัฐอเมริกาก็มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเช่นกัน ช่วง 7 วันที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกที่สหรัฐมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 500,000 คน เปรียบเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่มีผู้ติดเชื้อ 370,000 คน

    ในจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่า 500,000 คนเมื่อวันอังคารนั้น เกินครึ่งพบใน 10 ประเทศที่สถานการณ์หนักที่สุด ได้แก่ สหรัฐ, อินเดีย, บราซิล, รัสเซีย, ฝรั่งเศส, สเปน, อาร์เจนตินา, โคลอมเบีย, สหราชอาณาจักร และเม็กซิโก โดยจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกถึงวันพุธเพิ่มเป็นมากกว่า 44 ล้านคนแล้ว และเสียชีวิตกว่า 1.16 ล้านคน

    ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสมีกำหนดแถลงช่วงเย็นวันพุธของฝรั่งเศส ถึงมาตรการใหม่ที่จะออกมาใช้ควบคุมโรคโควิด-19 โดยมีรายงานว่าเขาอาจประกาศขยายชั่วโมงเคอร์ฟิวในเวลากลางคืนที่ปัจจุบันบังคับใช้กับชาวฝรั่งเศส 46 ล้านคน และให้ล็อกดาวน์เต็มรูปแบบในช่วงสุดสัปดาห์หรือให้ล็อกดาวน์เฉพาะภูมิภาคที่มีการระบาดของโรคนี้หนักที่สุด

    ส่วนนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี มีกำหนดประชุมกับมุขมนตรีรัฐต่างๆ ของเยอรมนีในวันพุธเพื่อผลักดันมาตรการที่เข้มงวดขึ้น หนังสือพิมพ์บิลด์รายงานว่า มาตรการที่แมร์เคิลเสนอ เช่น ให้ปิดภัตตาคาร, บาร์และจำกัดจำนวนคนที่รวมตัวกันทั้งของเอกชนและงานสาธารณะต่างๆ แต่ยังให้เปิดโรงเรียน, สถานรับเลี้ยงเด็กและร้านค้าต่างๆ

    ส่วนที่รัสเซียเริ่มบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากในที่สาธารณะ, เมื่อใช้บริการขนส่งสาธารณะ และในลิฟต์ เริ่มตั้งแต่วันพุธ ในอิตาลีประชาชนบางกลุ่มออกมาประท้วงมาตรการควบคุมโรคของรัฐบาลต่อเนื่องมาหลายวัน โดยเฉพาะที่เมืองมิลานและเมืองตูริน เมื่อคืนวันจันทร์ ผู้ประท้วงที่เป็นวัยรุ่นขว้างระเบิดขวดและก้อนหินใส่รถตำรวจและทุบกระจกร้านค้า

    ตรงกันข้ามกับนครเมลเบิร์น เมืองใหญ่อันดับ 2 ของออสเตรเลีย ที่มีประชากรราว 5 ล้านคน หลังประกาศล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 มาแล้วหลายเดือน ประชาชนในเมืองต่างดีใจเมื่อทางการประกาศยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์แล้วเมื่อวันพุธ อนุญาตให้ประชาชนไปซื้อของที่ร้านค้าต่างๆ และไปร้านอาหารได้

    ที่อินเดียประชาชนหลายล้านคนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งท้องถิ่นในรัฐพิหาร เป็นการเลือกตั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีการระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งราว 70 ล้านคน หน่วยเลือกตั้งต่างๆ ในรัฐพิหารมีผู้เข้าแถวรอใช้สิทธิ์เลือกตั้งจำนวนมาก และหลายคนไม่เชื่อคำแนะนำของทางการที่ให้สวมหน้ากากและเว้นระยะห่างทางสังคม.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"