เอโบ โมราเลส อดีตประธานาธิบดีฝ่ายซ้ายของโบลิเวียที่ลี้ภัยในต่างแดน แสดงความไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของผู้ประท้วงฝ่ายขวาที่ต้องการให้กองทัพออกมาขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาลสังคมนิยมของประธานาธิบดีฝ่ายซ้ายคนใหม่

    ลูอิส อาร์เซ ผู้สมัครจากพรรคขบวนการสังคมนิยม (เอ็มเอเอส) พรรคเดียวกับโมราเลส เพิ่งชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีโบลิเวียเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ด้วยคะแนนสนับสนุนถึง 55% ในขณะที่คู่แข่งอันดับรองจากเขา คือ คาร์ลอส เมซา ได้คะแนนเพียงแค่ 29%

    คณะกรรมการการเลือกตั้ง, จีไนน์ อาเนซ รักษาการประธานาธิบดีหัวอนุรักษ์นิยม และผู้สังเกตการณ์อีก 4 คณะ ซึ่งรวมถึงองค์การรัฐอเมริกา (โอเอเอส) ต่างยืนยันว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ใสสะอาดและโปร่งใส แต่ฝ่ายขวาในโบลิเวียไม่พอใจและพยายามหาทางขัดขวางไม่ให้อาร์เซจัดตั้งรัฐบาลฝ่ายซ้าย

    เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันจันทร์ ผู้ประท้วงนับพันคนที่ไม่เชื่อผลการเลือกตั้ง พากันเดินขบวนไปยังค่ายทหารในเมืองซันตากรูซ ฐานที่มั่นของฝ่ายขวา แล้วร้องขอ "ความช่วยเหลือทางทหาร" เพื่อป้องกันไม่ให้พรรคเอ็มเอเอสของโมราเลสก้าวขึ้นสู่อำนาจอีกครั้ง

    ต่อมาในวันอังคาร โมราเลสทวีตว่า รัฐธรรมนูญระบุบทบาทของทหารและตำรวจไว้ชัดเจน และทุกคนควรกระทำการใดๆ ด้วยความสงบและเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ

    โบลิเวียประสบวิกฤติทางการเมืองมานาน 1 ปี ภายหลังโมราเลสเพิกเฉยต่อรัฐธรรมนูญแล้วลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่ 4 ทั้งที่รัฐธรรมนูญจำกัดไว้เพียง 2 สมัย หลังจากเกิดการประท้วงต่อต้านเขายาวนานหลายสัปดาห์ และการตรวจสอบของโอเอเอสพบหลักฐานการโกงเลือกตั้ง โมราเลสก็ยอมลาออกแล้วเผ่นออกนอกประเทศ อาเนซจึงขึ้นรักษาการแทน

    ลูอิส เฟร์นันโด กามาโช ผู้นำกลุ่มพลเรือนฝ่ายขวาที่เคยนำการชุมนุมประท้วงขับไล่โมราเลสเมื่อปีที่แล้ว ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้ด้วย แต่เขาได้อันดับ 3 ด้วยคะแนน 14% ส่วนโมราเลสถูกห้ามลงเลือกตั้งครั้งนี้

    มีโอกาสมากที่โมราเลสซึ่งลี้ภัยอยู่ที่อาร์เจนตินา จะเดินทางกลับประเทศในเร็ววันนี้ หลังจากเมื่อวันจันทร์ ผู้พิพากษายกเลิกคำสั่งคุมขังเพื่อความปลอดภัยในคดีที่เขาถูกกล่าวหาเรื่องก่อการร้าย โดยอดีตผู้นำฝ่ายซ้ายรายนี้บอกเมื่อวันอังคารว่า มีความเป็นไปได้ที่เขาจะกลับประเทศภายในวันที่ 9 พฤศจิกายน.