บอร์ด ก.ค.ศ. ไฟเขียว แนวทางการย้าย ผอ.ร.ร. สังกัด สพฐ. 


เพิ่มเพื่อน    

29ต.ค.63-นายประวิต เอราวรรณ์ รักษาราชการเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ในที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้มีมติเห็นชอบแนวทางการย้ายผู้อำนวยการสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา เนื่องจาก สพฐ. ได้ขอให้ ก.ค.ศ. กำหนดแนวทางแก้ปัญหาการพิจารณาย้ายผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัด สพฐ. กรณีที่มีตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาในสถานศึกษาขนาดใหญ่หรือขนาดใหญ่พิเศษว่างหลังจากย้ายครั้งแรกและไม่มีผู้อำนวยการสถานศึกษาในสถานศึกษาขนาดใกล้เคียงยื่นคำร้องขอย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาในสถานศึกษาขนาดใหญ่ หรือไม่มีผู้อำนวยการสถานศึกษาในสถานศึกษาขนาดใหญ่และขนาดใหญ่พิเศษ ยื่นคำร้องขอย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาในสถานศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ ทั้งในจังหวัดเดียวกันและต่างจังหวัด ซึ่ง ก.ค.ศ. เห็นว่ากรณีดังกล่าวหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายกรณีปกติไม่ได้กำหนดให้มีการย้ายข้ามขนาดสถานศึกษาเกินกว่า 1 ขนาดที่ตนเองดำรงตำแหน่งอยู่ได้  จึงต้องนำตำแหน่งว่างหลังจากการย้ายไปดำเนินการของวิธีการย้ายกรณีปกติ โดยนำไปใช้บรรจุและแต่งตั้งจากบัญชีผู้ได้รับคัดเลือก ซึ่งอาจไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษาที่ต้องการให้ผู้บริหารสถานศึกษาได้มีการสั่งสมประสบการณ์เป็นลำดับ 

นายประวิต กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของราชการ ก.ค.ศ. จึงเห็นว่า วิธีการย้ายกรณีปกติที่ระบุตำแหน่งว่างที่เกิดขึ้นภายหลังจากการพิจารณาย้ายเสร็จสิ้น   ให้หมายถึงตำแหน่งว่าง  ที่เป็นสัดส่วนการย้ายที่เหลือจากการพิจารณาย้ายครั้งแรก รวมทั้งตำแหน่งว่างที่เกิดขึ้นภายหลังการย้ายครั้งแรก ซึ่งยังไม่ได้กำหนดสัดส่วนให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ดำเนินการ ดังนี้
 1.ให้ กศจ. พิจารณากำหนดสัดส่วนของตำแหน่งว่างที่เกิดขึ้นภายหลังจากการย้ายครั้งแรกเช่น ตำแหน่งว่างที่เกิดจากการเสียชีวิต ลาออก หรือ ย้ายไปจังหวัดอื่น เป็นต้น ให้นำมารวมกับตำแหน่งว่างที่เป็นสัดส่วนการย้ายที่เหลือจากการพิจารณาย้ายครั้งแรกมาประกาศ 


2.ประกาศตำแหน่งว่างทันทีให้ทราบโดยทั่วกัน โดยวิธีปิดประกาศ ณ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รวมทั้งประกาศทางเว็บไซต์ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดและเขตพื้นที่เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 15 วัน 


3.ให้ผู้ประสงค์ขอย้ายที่ยื่นคำร้องขอย้ายประจำปีไว้ แต่ไม่ได้ระบุชื่อสถานศึกษาที่ว่างภายหลังไว้ ให้ยื่นความประสงค์ขอย้ายไปดำรงตำแหน่งในสถานศึกษาดังกล่าวได้ รวมทั้งผู้ที่ไม่ได้ยื่นคำร้องขอย้ายไว้เดิม หากประสงค์จะขอย้ายไปดำรงตำแหน่งในสถานศึกษาที่มีตำแหน่งว่างและสถานศึกษาที่ไม่มีตำแหน่งว่าง ก็ให้ยื่นคำร้องขอย้ายเพิ่มเติมได้ โดยคำร้องขอย้ายเพิ่มเติมใดไม่ได้รับการพิจารณาอนุมัติให้ย้าย คำร้องขอย้ายดังกล่าวเป็นอันยกเลิก


 และ4. ให้ดำเนินการย้ายเช่นเดียวกับวิธีการย้ายกรณีปกติทั้งนี้การพิจารณาย้ายให้พิจารณาตามสัดส่วนการย้ายตามที่กศจ. กำหนดไว้
 
“นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบแนวทางการดำเนินการขอทบทวนมติ ก.ค.ศ. กรณีผู้ไม่มีคุณสมบัติเข้ารับการประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 13/2556 ประจปี 2559 จำนวน 1,933 ราย โดย ก.ค.ศ. พิจารณาแล้วเห็นควรดำเนินการพิจารณาคำขอทบทวนฯ เฉพาะบางกรณีที่ไม่มีประเด็นฟ้องคดีปกครอง ส่วนกรณีที่มีการฟ้องคดีปกครองให้ชะลอการดำเนินการไว้ก่อนจนกว่าจะมีคำพิพากษาศาลปกครอง ซึ่งเป็นทางเลือกที่เหมาะสมในการดำเนินการให้เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรมกับผู้ขอทบทวนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อให้เกิดความรวดเร็วและเป็นประโยชน์ต่อข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา”รักษาราชการเลขาฯ ก.ค.ศ. กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"