อดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐแล้ว ภายหลังคว้าชัยชนะในรัฐเพนซิลเวเนียได้ แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ปฏิเสธยอมรับความพ่ายแพ้

แฟ้มภาพ โจ ไบเดน และนางจิล ไบเดน ภริยา ขึ้นเวทีด้วยกันในคืนวันเลือกตั้งที่เมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ เช้ามืดวันที่ 4 พฤศจิกายน 2563

    ไบเดนวัย 77 ปีจะได้เป็นประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐ ภายหลังผลการนับคะแนนทั้งหมดของรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็นรัฐสมรภูมิช่วงชิงที่สำคัญและมีคณะผู้เลือกตั้ง 20 คน ยืนยันเมื่อวันเสาร์ว่าเขาเป็นผู้ชนะ ทำให้มีจำนวนคณะผู้เลือกตั้งเพิ่มเป็น 273 คน เกินครึ่งหนึ่งที่ต้องการที่ 270 คน ต่อมาเขายังชนะได้ที่รัฐเนวาดา ซึ่งมีผู้เลือกตั้งอีก 6 คน ทำให้จำนวนรวมคณะผู้เลือกตั้งของไบเดนเป็น 279 คน ส่วนทรัมป์ได้ 214 คน

    ถ้อยแถลงครั้งแรกของว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ ไบเดนให้คำมั่นว่าเขาจะ "เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกันทุกคน ไม่ว่าคุณจะเลือกผมหรือไม่ก็ตาม"

    ผู้สนับสนุนเขาออกมาเฉลิมฉลองกันตามท้องถนนในเมืองใหญ่ทั่วสหรัฐ ไบเดนมีกำหนดแถลงทางโทรทัศน์ในเวลา 20.00 น.ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 08.00 น.วันอาทิตย์ของไทย

    บรรดาผู้นำประเทศทั่วโลกต่างแสดงความยินดีต่อชัยชนะของไบเดน ไม่ว่าจะเป็นนายกฯ บอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ, นายกฯ จัสติน ทรูโด ของแคนาดา และนายกฯ อังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี ซึ่งทำให้คำกล่าวอ้างโดยไร้หลักฐานของทรัมป์ว่าเขาโดนโกงเลือกตั้งนั้นมีน้ำหนักน้อยมาก

    ด้านทรัมป์ ซึ่งออกรอบตีกอล์ฟอยู่ขณะที่เครือข่ายสถานีโทรทัศน์ช่องใหญ่ๆ ของสหรัฐรายงานว่าไบเดนเป็นผู้ชนะ กล่าวหาไบเดนทันทีว่า รีบสวมรอยเป็นผู้ชนะอย่างผิดๆ "การเลือกตั้งครั้งนี้ยังไม่จบ" เขากล่าว