'อสมท'หนัก9เดือนขาดทุน1,168ล้านเร่งลดพนักงาน-พัฒนาที่ดินรัชดา


เพิ่มเพื่อน    

 

12 พ.ย. 2563 นายสิโรตม์ รัตนามหัทธนะ กรรมการ และ รักษาการในตำแหน่ง กก.ผอ.ใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)   เปิดเผยว่า “อสมท รายงานงบการเงินในไตรมาส 3 ปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 บริษัทมีผลขาดทุนสำหรับงวดในไตรมาสที่ 3 จำนวน 106 ล้านบาท โดยคิดเป็นการเปลี่ยนแปลงดีขึ้นถึงร้อยละ 42  เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตามในงวดเก้าเดือนของปี 2563 ขาดทุนจำนวน 1,168 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้ภาคธุรกิจต้องควบคุมค่าใช้จ่ายการใช้งบโฆษณาและประชาสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม ในงวดเก้าเดือนแรกของปี 2563  อสมท มีรายได้จำนวน 1,086 ล้านบาท โดยเป็นรายได้ในไตรมาสที่สามปี 2563 จำนวน 402 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 จากไตรมาสก่อนหน้า สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2563 ธุรกิจโทรทัศน์และธุรกิจวิทยุยังคงเป็นธุรกิจหลักที่สามารถสร้างรายได้สูงสุดให้กับ อสมท ในสัดส่วนร้อยละ 62 ในขณะที่ธุรกิจให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิตอล (BNO) มีสัดส่วนรายได้สูงเป็นลำดับสองรองจากธุรกิจโทรทัศน์

ธุรกิจโทรทัศน์ มีรายได้ในช่วงเก้าเดือนแรกจำนวน 314 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 โดยเป็นรายได้ในไตรมาสที่สามจำนวน 131 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 37 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

ธุรกิจวิทยุ มีรายได้ในช่วงเก้าเดือนแรกจำนวน 345 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 34 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 โดยเป็นรายได้ในไตรมาสที่สาม จำนวน 115 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากไตรมาสก่อนหน้า ในไตรมาสที่สาม คลื่นวิทยุทั้งส่วนกลางและภูมิภาค มีรายได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า โดยคลื่นลูกทุ่ง    มหานคร FM 95 MHz. ยังแสดงผลงานได้โดดเด่นสามารถทำรายได้สูงสุดในคลื่นวิทยุของ อสมท เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา สำหรับคลื่นวิทยุอื่นๆ เช่น คลื่นความคิด FM 96.5 MHz, Mellow FM 97.5 MHz, Active Radio FM 99 MHz คลื่นข่าว FM 100.5 MHz และคลื่น MET 107 MHz รักษาฐานผู้ฟังและกลุ่มลูกค้าด้วยกิจกรรมการตลาดใหม่ๆ เช่น การใช้เทคโนโลยีสื่อสารผ่านโปรแกรม Zoom รวมถึงการจัดกิจกรรมร่วมกับลูกค้าผู้สนับสนุนรายการและผู้ฟัง    

ธุรกิจการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ระบบดิจิทัล (BNO) และให้เช่าช่องรายการบนดาวเทียมในระบบ C-Band มีรายได้ในเก้าเดือนแรกปี 2563 จำนวน 326 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.รายได้ธุรกิจการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ระบบดิจิทัล และ 2. รายได้จากธุรกิจการให้เช่าช่องสัญญาณดาวเทียม โดยเป็นรายได้ใน   ไตรมาสที่สามปี 2563 จำนวน 130 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า 

ธุรกิจดิจิทัล  มีรายได้ในเก้าเดือนแรกปี 2563 จำนวน 35 ล้านบาท เป็นรายได้ในไตรมาสที่ 3 จำนวน 13 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 54 จากไตรมาสก่อนหน้า โดยรายได้ธุรกิจดิจิทัล ประกอบด้วยรายได้จาก เว็บไซต์ www.mcot.net หรือแพลตฟอร์มโซเชียลที่ได้รับความนิยมต่างๆ เช่น Youtube และ Facebook

นอกจากนี้ อสมท ได้เปิดตัวบริการใหม่ทางด้านดิจิทัล รวมถึงการให้บริการ Digital Solution แก่หน่วยงานต่างๆ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่ง ปัจจุบัน อสมท ได้ปรับปรุงทั้งเชิงเทคนิค และ Content เพื่อให้สามารถเพิ่มอัตราการเข้าถึงเว็บไซต์ได้อย่างมีนัยสำคัญ พร้อมเร่งพัฒนาและต่อยอดใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการสร้างรายได้จากการนำเนื้อหาจากพันธมิตร และ Content ของบริษัทไปเผยแพร่บนแพลตฟอร์มต่างๆ ให้แพร่หลายยิ่งขึ้น และพร้อมสนับสนุนงานด้านดิจิทัลให้กับหน่วยงานต่างๆ

นายสิโรตม์ กล่าวถึงแนวทางในการสร้างแหล่งรายได้ใหม่ให้กับองค์กรว่า ฝ่ายบริหารพยายามเร่งสร้างแหล่งรายได้ใหม่ทั้งจากธุรกิจดิจิทัล รวมถึงการพัฒนาสินทรัพย์ที่ดินให้เกิดมูลค่าทางธุรกิจ โดยล่าสุด อสมท   อยู่ระหว่างการเปิดรับข้อเสนอสำหรับการพัฒนาโครงการบนที่ดิน 50 ไร่ ย่านรัชดา จากนักลงทุนและบุคคลที่สนใจ เพื่อทดแทนรายได้กิจการสัมปทานที่สิ้นสุดลงตั้งแต่ไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมา พร้อมกับการพัฒนาธุรกิจหลักเช่นโทรทัศน์และวิทยุ ให้ผลิตเนื้อหารายการที่มีความน่าเชื่อถือ เป็นประโยชน์ต่อสังคม  สำหรับโครงการร่วมใจจากองค์กร ประจำปี 2563 (Mutual Separation Plan : MSP) ซึ่ง อสมท ได้เริ่มดำเนินการมาแล้วนั้น    ผลจากการดำเนินโครงการดังกล่าวจะทำให้ อสมท สามารถลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรกว่าร้อยละ 20 จากค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรในปี 2563 ซึ่งจะมีผลในปี 2564 เป็นต้นไป 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"