นายกฯถกผู้นำลุ่มน้ำโขงกับเกาหลียันไทยพร้อมร่วมมือด้านสธ.ภายใต้กองทุน MKCF


เพิ่มเพื่อน    

13 พ.ย.63 - ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ร่วมการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับสาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 2 ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมีผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนจากทั้ง 10 ประเทศ และ นายมุน แช-อิน ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี เข้าร่วมด้วย ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้กล่าวสรุปสาระสำคัญของการประชุมว่า นายกรัฐมนตรีเวียดนามในฐานะประธานการประชุมได้กล่าวว่าความร่วมมือ Mekong-ROK มีความก้าวหน้าไปมาก มีปฏิญญาแม่โขง-แม่น้ำฮัน และยกระดับสู่การประชุมสุดยอด เพื่อส่งเสริมความยืดหยุ่น และการพัฒนาอย่างยั่งยืน สะท้อนผลสำเร็จของการขยายความร่วมมือนี้ รวมทั้ง ต่อยอดไปถึงความร่วมมือในอนาคตด้วย

ด้านประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ได้กล่าวถึงประชุมที่ปูซาน ซึ่งมีการสานต่อในเรื่องต่างๆ ให้มีความก้าวหน้า การรับรองปฏิญญญาแม่โขง-แม่น้ำฮันเป็นแนวทางการดำเนินการความร่วมมือในด้านต่างๆ รวมทั้ง ความร่วมมือด้านสาธารณสุข การส่งเสริมการค้าระหว่างกัน ความเชื่อมโยง รวมทั้ง การรับมือกับโควิด-19 เกาหลีจะบริจาคเงิน 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อพัฒนาวัคซีน และส่งเสริมการเดินทางข้ามแดนอย่างปลอดภัย พร้อมกันนี้ ได้ชื่นชมความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับสาธารณรัฐเกาหลี ที่มีความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ มีความไว้เนื้อเชื่อใจสูง มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน มีความร่วมมือที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ผ่านความร่วมมือด้านการศึกษาและอบรมด้านต่างๆ เช่น อาชีวะ การสาธารณสุข รวมทั้งความสามารถด้านภาษา ในปี 2021 จะเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของความสัมพันธ์ของประเทศลุ่มน้ำโขง-สาธารณรัฐเกาหลี ส่งผลให้เกิดความร่วมมือใหม่ๆ รวมทั้งการเชื่อมโยงในมิติต่างๆ การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร สนับสนุนตามความต้องการของภูมิภาค การสนับสนุน SMEs และธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งจะเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมไปถึงการบริหารจัดการน้ำ ตลอดจนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับชุมชนให้เดินไปด้วยกันได้

ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการประชุมผู้นำครั้งแรกที่นครปูซานเมื่อปีที่แล้วที่ทุกชาติได้ร่วมกันยืนยันเจตนารมณ์ผ่านการรับรองปฏิญญาแม่น้ำฮัน-แม่น้ำโขง ที่ให้ความสำคัญกับความร่วมมือ ภายใต้ 3 เสา 7 สาขา ให้สอดคล้องกับนโยบายมุ่งใต้ใหม่ของสาธารณรัฐเกาหลี และการจัดตั้งสภาธุรกิจของกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-สาธารณรัฐเกาหลี ชื่นชมสาธารณรัฐเกาหลีที่ได้สนับสนุนกองทุนความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับสาธารณรัฐเกาหลี ประกาศสนับสนุนในปีนี้ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาในสาขาความร่วมมือเป้าหมายและจะเพิ่มขึ้นทุกๆปี มีความยินดีและพร้อมสนับสนุนการยกระดับความร่วมมือสู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ผ่านนโยบายมุ่งใต้ใหม่พลัส (New Southern Policy Plus) และการสร้างความเป็นหุ้นส่วนฯ ในการขับเคลื่อนความร่วมมือทั้ง 3 เสา และ 7 สาขา ที่ยั่งยืนร่วมกัน

พร้อมได้เน้นย้ำความสำคัญ 2 เรื่องหลัก สำหรับกรอบความร่วมมือระหว่างและหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 การสร้างความร่วมมือด้านสาธารณสุข โดยการแบ่งปันประสบการณ์ที่ดีและแนวปฏิบัติอันเป็นเลิศในการรับมือกับการระบาด ซึ่งไทยเพิ่งได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการภายใต้กองทุน MKCF ครั้งที่ 4 การบังคับใช้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า การสนับสนุนให้มีวัคซีนที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ในราคาสมเหตุสมผลสำหรับประชาชนในภูมิภาคอย่างเท่าเทียม และเป็นธรรม การสร้างความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทานในอนุภูมิภาค เพื่อกลับมาเชื่อมต่อห่วงโซ่อุปทานที่หยุดชะงักลง เสริมสร้างความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคขึ้นมาแทน เพื่อให้การฟื้นฟูเศรษฐกิจในยุคหลังโควิด-19 มีความต่อเนื่อง ส่งเสริมกลุ่มเปราะบาง และผู้ประกอบการ MSMEs รวมถึงสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ และผลักดันการเจรจาช่องทางพิเศษระหว่างกัน เพื่อขยายการลงทุนที่ต่อเนื่อง ไทยพร้อมจะเป็นฐานการผลิตและเป็นโซ่ข้อกลางเพื่อเชื่อมโยงอนุภูมิภาคกับห่วงโซ่อุปทานโลกต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"