มานูเอล เมริโน ประธานาธิบดีรักษาการของเปรู ยินยอมลาออกจากตำแหน่งแล้วเมื่อวันอาทิตย์ ภายหลังโดนกดดันอย่างหนักกรณีตำรวจใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วงจนเสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย รัฐสภายังเลือกตัวแทนไม่ได้ทำให้เปรูไร้ประธานาธิบดี

ผู้ประท้วงร้องตะโกนต่อต้านมานูเอล เมริโน ประธานาธิบดีรักษาการ ที่จัตุรัสปลาซาซันมาร์ตินในกรุงลิมาเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563

    อดีตประธานรัฐสภา มานูเอล เมริโน วัย 59 ปี ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้ไม่ถึง 1 สัปดาห์ ประกาศผ่านโทรทัศน์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายนว่า เขาลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว สิ้นเสียงคำลาออกของเขา ประชาชนพากันออกมาเฉลิมฉลองกันอย่างอึกทึกในกรุงลิมา เสียงบีบแตรรถและเคาะหม้อเคาะกระทะดังรัว

     ในฐานะประธานรัฐสภาและไม่มีรองประธานาธิบดีปฏิบัติหน้าที่ เมริโนจึงได้ขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีรักษาการเมื่อวันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน หลังจากสภาคองเกรสถอดถอนประธานาธิบดีมาร์ติน บิซการ์รา หนึ่งวันก่อนหน้านั้น ด้วยข้อกล่าวหารับสินบนเมื่อครั้งเป็นผู้ว่าการแคว้นโมเกกัวในปี 2547 บิซการ์ราปฏิเสธคำกล่าวหานี้ ผู้สนับสนุนบิซการ์ราพากันชุมนุมประท้วงในหลายเมือง รวมถึงที่กรุงลิมา ตลอดหลายวันที่ผ่านมา

    เมื่อวันเสาร์ ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนปืนลูกซองสลายการชุมนุม เป็นเหตุให้ผู้ประท้วงเสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน ตามข้อมูลของเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข และมีผู้บาดเจ็บ 94 คน แต่ผู้ประสานงานสิทธิมนุษยชนแห่งชาติกล่าวว่า มีคนบาดเจ็บ 112 ราย และเตือนว่าอาจมีอีก 12 ราย "สูญหาย" ระหว่างการประท้วง

    การใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วงที่ชุมนุมอย่างสันติทำให้ประธานรัฐสภายื่นคำขาดเมื่อคืนวันเสาร์ให้เมริโนลาออกจากตำแหน่งทันที และรัฐมนตรีในรัฐบาลของเขายื่นลาออก 12 ราย ต่อมาสภาคองเกรสเรียกประชุมในวันอาทิตย์และเรียกร้องให้เขาลาออก มิเช่นนั้นจะโดนลงมติไม่ไว้วางใจ

    หลังจากเมริโนลาออกแล้ว สภาลงมติเลือกประธานาธิบดีรักษาการคนใหม่ แต่ที่ประชุมเมื่อคืนวันอาทิตย์ไม่สามารถหามติเอกฉันท์ได้ โดยโรซิโอ ซิลบา ซันติสเตบัน ผู้แทนฝ่ายซ้ายอดีตนักเคลื่อนไหวด้านสุทธิมนุษยชน ที่ได้รับการเสนอชื่อ กลับได้เสียงสนับสนุนไม่ถึง 60 เสียง

    เมริโน ซึ่งเคยพยายามถอดถอนบิซการ์ราแต่ไม่สำเร็จเมื่อเดือนกันยายน กล่าวว่า เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ "สุญญากาศทางอำนาจ" รัฐมนตรี 18 คนในรัฐบาลของเขาที่เพิ่งสาบานตนรับตำแหน่งเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปชั่วคราว

    ตามกำหนดนั้น เปรูจะจัดการเลือกตั้งครั้งถัดไปในเดือนเมษายน 2564 และเมริโนจะต้องพ้นจากตำแหน่งในเดือนกรกฎาคมปีหน้าเมื่อวาระเดิมของบิซการ์ราสิ้นสุดลง ประธานาธิบดีคนใหม่ที่จะเลือกโดยรัฐสภาจะเป็นประธานาธิบดีคนที่ 3 ในช่วงเวลา 1 สัปดาห์.