สหรัฐมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมเมื่อวันอาทิตย์ มากกว่า 11 ล้านคน โดยมีผู้ติดเชื้อโรคนี้รายใหม่มากถึง 1 ล้านรายในเวลาเพียง 1 สัปดาห์

    รายงานข้อมูลของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอปกินส์เมื่อเวลา 20.30 น. วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน หรือ 08.30 น.วันจันทร์ตามเวลาประเทศไทย ยืนยันว่ามีผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 สะสมในสหรัฐ 11,025,046 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้แล้ว 246,108 ราย ผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ในสหรัฐเฉลี่ยวันละมากกว่า 1,000 ราย สหรัฐเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่และเสียชีวิตจากโรคนี้สูงที่สุดในโลก

    สหรัฐเพิ่งมีรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมมากกว่า 10 ล้านราย เมื่อวันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน และใช้เวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ก็มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 1 ล้านคน

    สหรัฐพบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นมากตั้งแต่เริ่มเดือนพฤศจิกายน ทำให้หลายรัฐต้องออกมาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของโรคนี้ รัฐมิชิแกนมีคำสั่งปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัย รวมถึงปิดร้านอาหารและสถานบันเทิงต่างๆ เริ่มตั้งแต่วันพุธนี้เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ส่วนรัฐวอชิงตันมีคำสั่งปิดร้านอาหารในอาคาร, ยิมเนเซียม, โรงภาพยนตร์, โรงละครและพิพิธภัณฑ์ ตั้งแต่เย็นวันจันทร์นี้เป็นเวลา 1 เดือน

    รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาเมื่อวันศุกร์ว่า ชาวอเมริกันจะได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 20 ล้านโดสในเดือนธันวาคมนี้ และได้รับวัคซีนเพิ่มอีกทุกเดือน แม้วัคซีนยังไม่ได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการ แต่ทรัมป์ยังคัดค้านการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 แบบเดียวกับที่หลายชาติในยุโรปใช้อยู่ในขณะนี้

    นอกจากนี้ทรัมป์ยังไม่ยอมให้ความร่วมมือกับโจ ไบเดน ผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐและทีมงานของเขา ในการเริ่มงานแก้วิกฤติโรคโควิด-19 ในสหรัฐ โดยทีมงานของไบเดนไม่ได้รับอนุญาตให้เจรจากับบริษัท ไฟเซอร์ ผู้พัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และไม่ให้ปรึกษากับนายแพทย์แอนโทนี เฟาซี ที่ยังเป็นคณะทำงานโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว.