ชาวกัวเตมาลานับพันคนชุมนุมประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีอาเลฮันโดร เจียมมัตเตย์ ครั้งใหญ่เมื่อวันเสาร์ กลุ่มหนึ่งถึงขั้นวางเพลิงอาคารรัฐสภา เพื่อแสดงความไม่พอใจที่สภาผ่านร่างกฎหมายงบประมาณเอื้อธุรกิจพวกพ้อง มากกว่าการบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโรคระบาดโควิด-19
การประท้วงเมื่อวันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน เป็นการแสดงพลังต่อต้านกฎหมายงบประมาณครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศอเมริกากลางแห่งนี้ แม้การชุมนุมของประชาชนกลุ่มใหญ่อีกแห่งหนึ่งที่ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาลเก่าใจกลางกรุงกัวเตมาลาซิตี เพื่อเรียกร้องให้ประธานาธิบดีเจียมมัตเตย์ลาออก จะดำเนินไปอย่างสันติ แต่ที่อาคารรัฐสภา กลับมาผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งวางเพลิงภายในอาคาร
รายงานบีบีซีกล่าวว่า ขณะเกิดเหตุการณ์วุ่นวาย อาคารหลังนั้นไม่มีคนอยู่ภายใน เพลิงเผาไหม้นานประมาณ 10 นาที ก่อนที่หน่วยดับเพลิงจะดับไฟได้ แต่ก็มีคนบาดเจ็บหลายคน
เปลวไฟและกลุ่มควันจากไฟไหม้มองเห็นได้ไกลหลายช่วงตึก โฆษกหน่วยงานกาชาดบอกกับนักข่าวว่า หน่วยงานรักษาผู้บาดเจ็บหลายคนจากอาการสูดควัน
เอเอฟพีรายงานว่า ตำรวจกัวเตมาลาจับกุมผู้ต้องสงสัยไว้มากกว่า 20 คน และมีคนถูกส่งโรงพยาบาลเกือบ 50 ราย หนึ่งในนี้อาการสาหัส
การชุมนุมประท้วงครั้งนี้เกิดจากความไม่พอใจและความโกรธแค้นอย่างกว้างขวางต่อรัฐบาลของเจียมมัตเตย์และสภานิติบัญญัติ ที่ผ่านกฎหมายงบประมาณเมื่อเช้ามืดวันพุธที่ 18 พฤศจิกายน ในช่วงเวลาเดียวกับที่กัวเตมาลากำลังโดนเฮอริเคนรุนแรงกระหน่ำ 2 ลูกติดภายใน 2 สัปดาห์
ผู้ชุมนุมที่จัตุรัสกลางกรุงด้านหน้าทำเนียบรัฐบาลเก่าโบกธงชาติและชูป้ายข้อความต่างๆ เช่น "เจียมมัตเตย์ ลาออกไป", "ไม่เอาคอร์รัปชันอีกต่อไป" และ "พวกเขาแหยมกับคนผิดรุ่น"
ด้านเจียมมัตเตย์ทวีตประณามการเผารัฐสภาและประกาศกร้าวว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมาย "ผมขอย้ำว่า พวกคุณมีสิทธิที่จะแสดงออกตามกฎหมาย แต่เราไม่อาจยอมให้มีการทำลายทรัพย์สินของรัฐหรือของเอกชน" ประธานาธิบดีเจียมมัตเตย์กล่าว และว่า ใครก็ตามที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่ามีส่วนร่วมในการทำผิดอาญาเหล่านี้จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
รัฐสภา ซึ่งบรรดาพรรคการเมืองหัวอนุรักษนิยมฝ่ายหนุนรัฐบาลครองเสียงข้างมาก อนุมัติงบประมาณเกือบ 13,000 ล้านดอลลาร์ (390,000 ล้านบาท) ซึ่งเป็นงบก้อนใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของกัวเตมาลา แต่งบส่วนใหญ่จัดสรรให้แก่โครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่เกี่ยวโยงกับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีเส้นสายกับรัฐบาล แต่กลับมองข้ามผลกระทบด้านสังคมและเศรษฐกิจที่เกิดจากโควิด-19 โดยตัดงบด้านสาธารณสุข, การศึกษา, สิทธิมนุษยชน และระบบยุติธรรม
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รองประธานาธิบดีกีเยร์โม กาสตีโย ที่มีความขัดแย้งกับเจียมมัตเตย์ โพสต์แสดงจุดยืนทางโซเชียลมีเดียว่า เพื่อเห็นแก่ประเทศชาติ เขาได้ร้องขอให้เจียมมัตเตย์ลาออกจากตำแหน่งพร้อมกันกับเขา
เจียมมัตเตย์ นายแพทย์วัย 64 ปี ขึ้นสู่ตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม ด้วยการให้คำมั่นว่าจะกวาดล้างการคอร์รัปชันและต่อสู้กับแก๊งอาชญากรรม แต่การทำหน้าที่ประธานาธิบดีของเขาถูกบดบังด้วยข้อขัดแย้งเรื่องการจัดการกับไวรัสโคโรนา โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนในโรงพยาบาลต่างๆ
ข้อมูลอย่างเป็นทางการเผยว่า กัวเตมาลามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 118,417 คน เสียชีวิต 4,074 คน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |