ยอมรับความพ่ายแพ้กลายๆ รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดทางการถ่ายโอนอำนาจให้แก่รัฐบาลชุดใหม่ของโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 ที่วางตัวผู้รับตำแหน่งรัฐมนตรีและหน่วยงานสำคัญไว้แล้ว

สมาชิกกลุ่มไม่ยอมรับลัทธิฟาสซิสม์ชูป้ายด้านหน้าจีเอสเอในกรุงวอชิงตันเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ประท้วงเอมิลี เมอร์ฟี ผู้อำนวยการจีเอสเอ ที่ขัดขวางกระบวนการถ่ายโอนอำนาจแก่โจ ไบเดน

    ข่าวเอเอฟพีเมื่อวันอังคารที่ 24 พฤศจิกายนกล่าวว่า การเปลี่ยนท่าทีล่าสุดของประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อวันจันทร์มีออกมาภายหลังรัฐมิชิแกน ซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐสมรภูมิ ให้การรับรองผลการเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายน ว่าอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน คือผู้ชนะในรัฐนี้ และสมาชิกคองเกรสพรรครีพับลิกันอีกหลายรายที่เคยสนับสนุนทรัมป์ ออกมาเรียกร้องให้ทรัมป์เห็นแก่ประเทศเป็นอันดับแรกและสนับสนุนการรับไม้ต่อของรัฐบาลใหม่

    ทรัมป์อ้างโดยไม่แสดงหลักฐานว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งนี้มีการทุจริต ความพยายามต่อสู้ผ่านกระบวนการทางศาลเพื่อพลิกผลคะแนนของหลายมลรัฐนั้นไร้ผล แต่จนถึงขณะนี้ทรัมป์ยังคงไม่ประกาศยอมรับว่าเป็นผู้แพ้ แม้ไบเดนจะได้คณะผู้เลือกตั้ง 306 คน เกินกว่าเกณฑ์ 270 คนอย่างมากก็ตาม  การลงคะแนนเลือกประธานาธิบดีโดยคณะผู้เลือกตั้งจากรัฐต่างๆ กำหนดไว้วันที่ 14 ธันวาคม และดูเหมือนว่า การดิ้นรนของทรัมป์เพื่อบิดพลิ้วผลเลือกตั้งผ่านคณะผู้เลือกตั้งรัฐมิชิแกน ก็ไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน

    อย่างไรก็ดี เมื่อวันจันทร์ ทรัมป์ยอมรับว่า ถึงเวลาแล้วที่สำนักบริหารงานบริการทั่วไป (จีเอสเอ) จะทำในสิ่งที่ต้องทำ ซึ่งเป็นท่าทีที่ใกล้เคียงกับการยอมรับความพ่ายแพ้มากที่สุดแล้ว แม้ว่าในข้อความทวีตเดียวกัน ทรัมป์ยืนกรานว่า เขาไม่ได้ยอมรับว่าตนแพ้ และจะต่อสู้ต่อไป โดยเขาเชื่อว่าจะเป็นผู้ชนะ

    เอมิลี เมอร์ฟี ผู้อำนวยการจีเอสเอที่ทรัมป์เป็นผู้แต่งตั้งเมื่อปี 2560 กล่าวในจดหมายเมื่อวันจันทร์ว่า ไบเดนสามารถเริ่มกระบวนการรับมอบงานบริหารจากรัฐบาลของทรัมป์ได้อย่างเป็นทางการแล้ว คณะทำงานของว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่จะสามารถเข้าถึงงบประมาณส่วนกลาง และมีสถานที่ทำงานเพื่อรับมอบการถ่ายโอนอำนาจ จนกว่าจะถึงพิธีสาบานตนรับตำแหน่งวันที่ 20 มกราคม

    การตัดสินใจของจีเอสเอยังจะเปิดทางให้ไบเดน และนางคามาลา แฮร์ริส ว่าที่รองประธานาธิบดีคนใหม่ ได้รับฟังรายงานสรุปด้านความมั่นคงแบบเดียวกับทรัมป์ด้วย

    เมอร์ฟียอมรับในจดหมายถึงบุคลากรของจีเอสเอว่า เธอเผชิญกับการข่มขู่คุกคามที่ไม่ยินยอมเริ่มกระบวนการถ่ายโอนอำนาจเร็วกว่านี้ และว่า เธอตัดสินใจครั้งนี้ด้วยตนเอง ขณะที่จีเอสเอยืนกรานว่า เมอร์ฟีจะสืบจนแน่ใจ หรืออนุมัติการถ่ายโอนอำนาจอย่างเป็นทางการ เมื่อมีความชัดเจนว่าใครคือผู้ชนะ

    ไบเดนมีกำหนดเปิดเผยรายชื่อรัฐมนตรีและตำแหน่งสำคัญๆ ในรัฐบาลของเขาวันอังคาร โดยรายนามที่เปิดเผยล่วงหน้านั้น ประกอบด้วยผู้ที่มีประสบการณ์ช่ำชองในงานด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงจากรัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ไบเดนเป็นรองประธานาธิบดีนาน 8 ปี เช่น แอนโทนี บลิงเคน จะเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ, เจเน็ต เยลแลน จะเป็นรัฐมนตรีคลังหญิงคนแรก, แอฟริล เฮนส์ เป็นผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองที่เป็นผู้หญิงคนแรก และอาเลฮันโดร มายอร์กัส ที่มีเชื้อสายคิวบา จะเป็นรัฐมนตรีความมั่นคงมาตุภูมิ.