พรรคฝ่ายค้านไต้หวันประท้วงการตัดสินใจของรัฐบาลประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ที่อนุมัติการนำเข้าเนื้อสุกรสหรัฐที่ใช้สารเร่งเนื้อแดง จนเกิดเป็นความโกลาหลวุ่นวายระหว่างการประชุมสภาเมื่อวันศุกร์ เมื่อ ส.ส.พรรคก๊กมินตั๋งนำเครื่องในหมูมาสาดในห้องประชุมและวางมวยกัน

    ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ประกาศเมื่อเดือนสิงหาคมว่า รัฐบาลจะอนุญาตให้นำเข้าเนื้อสุกรจากสหรัฐที่ใช้สารเร่งเนื้อแดงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปีหน้า การตัดสินใจของไต้หวันสร้างความยินดีแก่สหรัฐและถือเป็นการขจัดอุปสรรคขัดขวางการทำความตกลงการค้าเสรีระหว่างสหรัฐกับไต้หวัน แต่ชาวไต้หวันและพรรคฝ่ายค้านไต้หวันคัดค้านอย่างรุนแรง ด้วยความกังวลต่อความปลอดภัยด้านอาหาร

    นับแต่สภาผู้แทนราษฎรไต้หวันเปิดประชุมเมื่อกลางเดือน พรรคก๊กมินตั๋ง (เคเอ็มที) ประท้วงต่อต้านการตัดสินใจของรัฐบาลโดยพยายามขัดขวางนายกฯ ซู เจิงชาง ไม่ให้กล่าวรายงานต่อที่ประชุมและตอบกระทู้ถามด้วยการยึดแท่นปราศรัยระหว่างที่ซูพูด แต่คราวนี้ พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ตั้งใจมั่นว่าจะปกป้องซูให้ได้มีโอกาสแถลงต่อสภาและได้ตั้งแถวโอบล้อมเขาไว้ ระหว่างที่ซูเดินไปที่แท่นปราศรัยนั้น ส.ส.เคเอ็มทีพากันเป่าปาก ชูป้ายประท้วง และเป่าแตร

    เมื่อซูเริ่มพูด ส.ส.เคเอ็มทีหลายคนก็โยนเครื่องในหมูลงพื้นสภา แล้วนำไส้หมู, หัวใจ, ตับ และเครื่องในอื่นๆ ขว้างปาใส่ ส.ส.คู่ปรับ ส.ส.เคเอ็มดีบางคนแลกหมัดกับเฉิน ป๋อเว่ย ส.ส.พรรคสร้างรัฐไต้หวันที่เป็นพรรคขนาดเล็ก เหตุวุ่นวายทำให้ซูล่าถอยออกไปโดยเร็ว แต่ต่อมาเขากลับมารับฟังคำถามโดยเสียงของเขาโดนเสียงโห่ของ ส.ส.ก๊กมินตั๋งรบกวน

    พรรคดีพีพีประณามการประท้วงครั้งนี้ว่า การเอาเครื่องในหมูมาปาทิ้งนั้นทำให้อาหารเสียของโดยเปล่าประโยชน์ และทำให้ห้องประชุมสภาเหม็นและน่าขยะแขยง พร้อมเรียกร้องให้สภากลับไปอภิปรายกันอย่างมีเหตุมีผล

    ด้านเคเอ็มทีกล่าวว่า การตัดสินใจของรัฐบาลที่อนุญาตให้นำเข้าเนื้อหมูสหรัฐกระทำอย่างเร่งรีบและคุกคามสุขภาพของประชาชนและความปลอดภัยด้านอาหาร พรรคจึงไม่อาจยอมทนได้.