โอบามา-ไบเดน:ความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา!


เพิ่มเพื่อน    

             ถ้าอยากจะรู้ว่าว่าที่รองประธานาธิบดีกลามา แฮร์ริส จะมีบทบาทมากน้อยแค่ไหนภายใต้การนำของโจ ไบเดน ก็ต้องย้อนไปดูว่า บารัค โอบามา กับโจ ไบเดน ทำงานร่วมกันอย่างไร

                สองคนนี้มีความสนิทสนมเหมือนพี่น้อง

                บารัค โอบามา อายุ 59 โจ ไบเดน 77

                สองคนนี้ทำงานร่วมกัน 8 ปี คนหนึ่งเป็นประธานาธิบดี อีกคนเป็นรองฯ

                วันนี้คนที่เป็นรองขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ส่วนอีกคนหนึ่งเชียร์เต็มที่ และมีส่วนช่วยหาเสียงให้อย่างเต็มกำลัง

                ปี 2015 โอบามาทาบทามไบเดนให้มาร่วมทีม หะแรกไบเดนลังเลมาก

                เพราะไบเดนอยู่วงการการเมืองสหรัฐมายาวนานพอที่จะรู้ว่าตำแหน่งรองประธานาธิบดีเป็นแค่ “ไม้ประดับ” เท่านั้น

                ถ้าประธานาธิบดีไม่ใช้งาน เบอร์สองก็แค่มีกิจกรรมพิธีกรรมเท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่งานการอะไรที่เป็นผลงานที่จะอ้างอิงได้เลย

                ไบเดนจึงตั้งเงื่อนไขกับโอบามาว่า เขาจะยอมรับตำแหน่งรองฯ ก็ต่อเมื่อเขาได้รับมอบหมายให้ทำงานอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

                “ผมบอกโอบามาว่า ถ้าผมเป็นรองฯ ผมจะต้องรับรู้กระบวนการตัดสินใจสำคัญๆ ทั้งหลายด้วย...โอบามาโอเคตามนั้น”

                ไบเดนบอกว่า โอบามามอบหมายให้เขาทำนโยบายสำคัญๆ หลายเรื่อง เช่น ยูเครน, อิรักและอเมริกาใต้

                ทั้งสองกินข้าวเที่ยงสองต่อสองทุกสัปดาห์เพื่อรับรู้ว่าต่างคนต่างมีวาระและเรื่องราวที่ต้องแบ่งปันกันอย่างไร

                “เราสองคนตกลงกันว่าในความสัมพันธ์ระหว่างเบอร์หนึ่งกับเบอร์สองนั้น หากมีอะไรในใจต้องพูดกันอย่างตรงไปตรงมา เพราะหากเราไม่เปิดใจกัน การทำงานร่วมกันก็จะมีปัญหาตามมา...” ไบเดนเล่าในบันทึกความทรงจำของเขาก่อนจะตัดสินใจสมัครแข่งขันกับโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดี

                โอบามาจะขอความเห็นจากไบเดนทุกครั้งที่เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ

                “โอบามาเคยแซวผมว่า เขาต้องการความเห็นและข้อเสนอแนะของผม แต่ขอให้ผมพูดให้จบใน 10 นาที ไม่ต้องนำเสนอถึง 60 นาที....” ไบเดนเล่า

                เพราะรู้ตัวว่าเป็นที่นินทาลับหลังเสมอว่า ไบเดนเป็นคนพูดจาเยิ่นเย้อ ไม่สรุปประเด็นให้รวบรัด

                วงในของโอบามามักจะซุบซิบกันว่าไบเดนมักจะพูดอะไรออกนอกลู่นอกทางเสมอ บางครั้งก็โพล่งออกไปก่อนที่โอบามาจะเป็นคนเปิดประเด็นด้วยซ้ำ

                แต่โอบามาไม่ถือโทษโกรธไบเดน เพราะพอทำงานร่วมกันได้ระยะหนึ่งก็กลายเป็นความสัมพันธ์ฉันพี่น้อง

                แต่ทีมงานของโอบามาพยายามจะ “จัดระเบียบ” การพูดจากับนักข่าวของไบเดนเพื่อไม่ให้ “ล้ำเส้น” บ่อยๆ

                ถึงขั้นที่ทีมงานโอบามากับผู้ช่วยไบเดนต้องประชุมกันบ่อยๆ เพื่อกำหนดให้ไบเดนต้องพูดอะไรตามบทที่กำหนดเอาไว้

                ไบเดนไม่ยอมพูดตามสคริปต์ทุกครั้ง เพราะความเก๋าทางการเมืองทำให้เขามั่นใจว่าพูดอะไรออกไป ถ้าออกนอกลู่นอกทางก็โทษเขาได้ ท่านประธานาธิบดีโอบามาไม่ต้องรับผิดชอบ

                ไบเดนบอกว่า โอบามาไม่เคยพูดกับเขาตรงๆ แต่มิเชล โอบามา เคยกระซิบกับไบเดนว่า

                “โจ, โอบามาเชื่อคุณ ไว้วางใจคุณ”

                น่าเชื่อได้ว่าไบเดนคงจะต้องมอบหมายงานที่สำคัญๆ ให้กับเบอร์สองคือ กลมา แฮร์ริส

                เพราะเธอมีบทบาทสำคัญในแวดวงผู้หญิง, คนผิวดำและนักการเมืองรุ่นใหม่

ไม่แต่เท่านั้น ยังน่าเชื่อได้ว่าเธอต้องสร้างผลงานในช่วง 4 ปีจากนี้ไปเพื่อสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีหลังจากไบเดนก้าวลง

                ต้องไม่ลืมว่าไบเดนอายุ 78 ในปีหน้า สุขภาพเขาจะดีเพียงใดก็ตาม ย่อมมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเรื่องที่คาดไม่ถึง

                ในกรณีที่ไบเดนไม่สามารถทำหน้าที่ในตำแหน่งประธานาธิบดีได้ กลามาต้องขึ้นมาเป็น “รักษาการ” ประธานาธิบดี

                เธอจึงต้องมีความพร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นหัวหน้ารัฐบาลตลอดเวลา

                และหากเธอตัดสินใจลงสมัครตำแหน่งประธานาธิบดีใน 4 ปีข้างหน้า และหากทรัมป์ก็เตรียมลงท้าชิงเพื่อทวงแชมป์กลับมาด้วย ก็จะได้เห็นภาพการประชันระหว่างกมาลากับทรัมป์

                แค่จินตนาการภาพนี้ก็ดูไม่จืดแล้ว!.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"