ทั่วโลกสังเวยโควิด-19 เกิน 1.5 ล้านราย ขณะผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 65 ล้านคน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ 3 คนอาสาฉีดวัคซีนโควิดต่อหน้าสาธารณะเพื่อช่วยรณรงค์สนับสนุนการฉีดวัคซีน ขณะโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่บอกเริ่มงานวันแรกจะขอให้ชาวอเมริกันสวมแมสก์ 100 วัน

จากซ้าย อดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา, จอร์จ ดับเบิลยู.บุช และบิล คลินตัน

    สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เป็นทางการถึงเวลา 14.50 น.ของวันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ก่อโรคโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มเป็น 65.084 ล้านคนแล้ว และมีผู้ป่วยเสียชีวิต 1,504,984 คน

    จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตที่ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นผลจากการตรวจเชื้อเพิ่มขึ้น และหลายประเทศกำลังเผชิญกับคลื่นการระบาดระลอกใหม่ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอปกินส์กล่าวว่า ช่วงเวลา 24 ชั่วโมงถึงช่วงค่ำวันพฤหัสบดี สหรัฐมีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 210,000 คน เป็นสถิติสูงสุดนับแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐ และยังมีผู้ป่วยเสียชีวิตในช่วงเวลาเดียวกันอีกมากกว่า 2,900 คน จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมของสหรัฐถึงวันศุกร์อยู่ที่ 14.14 ล้านคนแล้ว เสียชีวิตมากกว่า 276,000 คน

    วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา อิตาลีซึ่งเป็นชาติแรกของยุโรปที่เกิดการระบาด ก็สร้างสถิติใหม่มีจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตรายวันมากที่สุดที่ 993 ราย ทำลายสถิติ 969 รายเมื่อต้นเดือนนี้

    โจ ไบเดน ผู้ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นว่า วันแรกในการทำงานของเขาหลังสาบานตนรับตำแหน่ง 20 มกราคม เขาจะร้องขอชาวอเมริกันสวมหน้ากากอนามัยเป็นเวลา 100 วัน เพื่อช่วยลดการแพร่เชื้อ นอกจากนี้เขายังจะขอให้แอนโทนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อซึ่งทำหน้าที่ที่ปรึกษาของรัฐบาลปัจจุบัน เข้าร่วมกับคณะทำงานโควิดของเขาในฐานะหัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์

    ขณะเดียวกัน อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก็แสดงความเชื่อใจต่อผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการนับถือรายนี้ โดยให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุซีเรียสเอ็กซ์เอ็มว่า เขาพร้อมจะฉีดวัคซีนโควิดถ้าหากเฟาซีมีความเห็นว่าวัคซีนนั้นมีความปลอดภัย โดยพร้อมจะกระทำอย่างเปิดเผยต่อหน้ากล้องเพื่อให้ผู้คนได้เห็นว่าเขามีความเชื่อมั่นต่อวิทยาศาสตร์

    ต่อมาตัวแทนของอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช และบิล คลินตัน ก็ประกาศเช่นกันว่าพร้อมจะให้ฉีดวัคซีนต่อหน้ากล้องโทรทัศน์ เพื่อสนับสนุนการฉีดวัคซีนโควิดหากมั่นใจแล้วว่าปลอดภัย ส่วนไบเดนก็แสดงความจำนงว่า เขาพร้อมจะฉีดวัคซีนโชว์ต่อสาธารณะในแบบเดียวกัน หลังจากวัคซีนผ่านการอนุมัติจากรัฐบาล และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเฟาซีกล่าวว่าวัคซีนนั้นปลอดภัย
 
    "สิ่งสำคัญคือการสื่อสารกับคนอเมริกันว่ามันปลอดภัย" ว่าที่ผู้นำสหรัฐคนใหม่วัย 78 ปีกล่าว พร้อมกับยกย่องอดีตประธานาธิบดีทั้ง 3 คนว่าเป็นแบบอย่างที่ดีว่าควรทำอะไร

    คาดว่า วัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัท ไฟเซอร์ร่วมกับไบออนเทค และบริษัท โมเดอร์นาร่วมกับเอ็นไอเอฟ จะได้รับการอนุมัติจากทางการสหรัฐในไม่ช้านี้ โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลสหรัฐรายหนึ่งกล่าวไว้เมื่อวันพุธว่า สหรัฐหวังว่าจะฉีดวัคซีนให้ประชาชน 100 ล้านคนได้ภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า

    เมื่อวันพุธ อังกฤษเป็นชาติแรกของโลกตะวันตกที่อนุมัติการใช้วัคซีนแก่ประชาชนทั่วไป ซึ่งบีบให้อีกหลายประเทศตัดสินใจแบบเดียวกัน โดยรัฐบาลฝรั่งเศสประกาศว่า จะฉีดวัคซีนให้ประชาชนฟรี โดยจะเริ่มต้นฉีดให้คนชรา 1 ล้านคนในเดือนมกราคม และฉีดให้กลุ่มเสี่ยงอีก 14 ล้านคนในเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนประชาชนที่เหลือจะได้รับวัคซีนช่วงฤดูใบไม้ผลิ รัฐบาลเบลเยียมแถลงเหมือนกันว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนให้กลุ่มที่มีความเสี่ยงที่สุดตั้งแต่เดือนมกราคม.

\