'จตุพร'ปลุกคนไทยสามัคคีพังกำแพงอำนาจผลประโยชน์


เพิ่มเพื่อน    

17 ม.ค.64- นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการลมหายใจพีซทีวี เวทีทัศน์  ตอนหนึ่งว่า ในฐานะที่เป็นคนเกิดเดือนตุลาคม แต่เป็นคนพฤษภา 2535  และมาในเหตุการณ์เมษา-พฤษภา 2553 ต่างเห็นปรากฎการณ์มากมาย จนมาสู่สถานการณ์ปัจจุบันนี้เห็นว่า ความทุกข์ของประชาชนใน พ.ศ. 2564 เป็นความทุกข์ที่รุนแรง เป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทย คนที่เกิดมาเป็นคนไทยได้เห็นถึงความทุกข์อันนี้และเป็นความรับผิดชอบของคนไทยทุกคนที่ต้องกล้าลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ตลอดเวลาที่ผ่านมา เชื่อว่าทุกผ่านต่างพยายามใช้ความอดทน แต่ความอดทนนี้ ไม่สามารถตอบสนองให้มีการแก้ไขปัญหาได้ จึงชวนคนไทยทุกฝ่าย จะต้องช่วยกันคิดหาทางออกให้กับประเทศไทยได้อย่างไร หากคนไทยต่างรู้ว่า เรามีความยากลำบากและแทบสิ้นหวัง 

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ดังนั้นอยากชวนว่า เรามาสร้างความหวังกันใหม่ จะทลายกำแพงเเห่งความเลวร้ายนี้ด้วยตัวเราเอง ยืนยันว่าทุกอย่างก็จะปฏิบัติตามกฎหมาย ที่ผ่านมาเราจะมีความเชื่อทางการเมืองอย่างไร หากทนกับความอยุติธรรมที่เราเคยทนกันมากว่า 7 ปีนี้ แล้วทนไม่ได้ ก็มาร่วมมือกัน และความหายนะของประเทศภายใต้เศรษฐกิจปากท้องที่เป็นผลมาจากเผด็จการเศรษฐกิจ นายทุนผูกขาด สมคบกับผู้มีอำนาจ เราทนไม่ได้และต้องคิดร่วมกัน ซึ่งเดินมาถึงจุดที่เราต้องร่วมมือกับทุกฝ่าย อยากให้เป็นการบ้านของแต่ละฝ่ายว่า จะร่วมมือกันอย่างไร เพื่อให้ช่วยกันคิดนำพาของประเทศไทยฝ่าวงล้อมในสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้    

นายจตุพรกล่าวว่า หากทุกฝ่ายสามัคคีกันพาประเทศฝ่าวงล้อม จะไม่มีใครทัดทานขวางประชาชนได้ วิถีแห่งการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ แต่ละฝ่ายก็คิด เพียงแต่ที่ผ่านมาเรามีกำเเพงระหว่างกัน  หากทลายกำเเพงนี้ได้ ความเป็นคนไทยทั้งปวง สามัคคีไปพังกำแพงแห่งอำนาจและผลประโยชน์ รวมถึงความเป็นรัฐที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้ เหล่านี้เป็นเรื่องใหญ่เราอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ที่ซีกการเมืองก็แทบจะไม่มีความหวัง ฝ่ายรัฐก็ไม่มีความหวัง ดังนั้นเราอยู่ท่ามกลางความสิ้นหวังกันจริงๆ มีเพียงตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ซึ่งหมายถึงประชาชนพึ่งพาประชาชนด้วยกันเอง ว่า สุดท้ายแล้ว หากทนต่อสภาพเช่นนี้ไม่ได้ เราก็จำเป็นต้องลุกขึ้นมา  ส่วนจะลุกขึ้นมาอย่างไรนั้นตนเองเชื่อว่าวันเวลาต่อไปนี้จะได้อธิบายกันซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเรื่องรักชาติบ้านเมือง และต้องการเปลี่ยนแปลงให้ชาติบ้านเมืองได้พบกับทางรอด   

นายจตุพร ระบุด้วยว่า  อยากชวนคนไทยว่า ต้องร่วมแรงร่วมใจกันสักครั้ง ก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ แต่เราไม่สามารถทนต่อความ หายนะของประเทศนี้อีกต่อไปได้ เพราะสุดท้ายแล้วหากเราไม่ทำอะไรเลย ประเทศก็จะอยู่แบบนี้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น ตนเองไม่มีอคติหรือมายาคติกับใครเป็นการส่วนตัว เพียงแต่การคิดอ่านบนถนนการต่อสู้ที่ผ่านมาและผลลัพธ์ที่เรากำลังคิดอ่านกันต่อไปนั้นคือ สิ่งที่เราต้องการจะเห็นการตื่นของคนไทยที่จะร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ร่วมกัน และจะผ่านความทุกข์ยาก ลำบากนี้ไปด้วยกันในทุกๆด้าน บัดนี้ได้เวลาแล้ว ภายใต้หลักคิดสามัคคีประเทศไทยเพื่อการเปลี่ยนแปลง. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"