16 มี.ค.64-  นายวราวุธ​ ศิลปอาชา​ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​ ให้สัมภาษณ์ถึงการเจรจากับชาวบ้านบางกลอยว่า เมื่อวันที่ 13 และ 14 มี.ค.ตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงไปตรวจเยี่ยมชาวบ้านบางกลอยในพื้นที่ ยืนยันว่ามาตรการที่ได้ดำเนินการไป ทั้งเรื่องการบริหารจัดการน้ำและการจ้างงาน โดยช่วงเช้าวันเดียวกัน​ ได้รายงานความคืบหน้ากับนายวิษณุ​ เครืองาม​ รองนายกรัฐมนตรี และจะรายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อให้​ ​พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯทราบ ประเด็นหลักขณะนี้คือมีชาวบ้านบางกลอยส่วนหนึ่งยังขาดแคลนปัจจัยในการทำเกษตร และการพัฒนาพื้นที่ให้มีการบริหารน้ำที่อุดมสมบูรณ์ และในวันเดียวกันนี้ กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ไปขุดบ่อน้ำบาดาลให้ชาวบ้าน คาดว่าภายในสิ้นเดือน​ มี.ค.นี้​ จะมีน้ำประปาให้ชาวบ้านบางกลอยและโป่งลึก และขณะนี้กำลังศึกษาระบบจัดการน้ำเพื่อการเกษตร คาดว่าภายในอีกไม่กี่เดือนจะสามารถแก้ไขพื้นที่ทำการเกษตรได้ ประเด็นปัญหาปัจจุบันนี้คือ การไม่มีที่ทำกิน และปัจจัยการผลิต โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ดำเนินการไปทุกมิติ และประสานงานไปยังกรมพัฒนาที่ดิน เพื่อพัฒนาคุณภาพของดินให้สามารถเพาะปลูกทำการเกษตรได้อย่างเพียงพอ ต่อการดำรงชีพ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ชาวบ้านบางกลอยเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ที่เป็นกลาง เพื่อพิสูจน์สิทธิ์ชาวบางกลอย ว่ามีสิทธิ์อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว โดยจะต้องดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 30 วัน นายวราวุธ​ กล่าวว่า เรื่องการตรวจสอบสิทธิ์ เป็นสิ่งที่ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ก่อนที่กรมอุทยานฯประกาศว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อุทยานและป่าไม้ ซึ่งแต่ละฝ่ายจะต้องพิสูจน์กันไป ทั้งหลักฐานภาพถ่ายและการยึดถือกรรมสิทธิ์ต่างๆ แต่เรื่องเร่งด่วนที่เป็นประเด็นสำคัญในวันนี้ คือประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถทำมาหากินในพื้นที่บางกลอยได้ แต่ตอนนี้ปัญหาแตกออกไปหลายประเด็น แต่ท้ายที่สุดต้องกลับมาจุดเริ่มต้นที่ชาวบ้านเดินขึ้นจากบางกลอยล่างไปบางกลอยกลางและบางส่วนไปบางกลอยบน เพราะไม่มีพื้นที่ทำกินทางการเกษตร

เมื่อถามว่า นอกจากนี้​ ชาวบ้านเรียกร้องให้ชะลอการดำเนินคดี นายวราวุธ​ กล่าวว่า ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับกฎหมาย เป็นเรื่องที่ ร.อ.ธรรมนัส​ พรหมเผ่า​ รมช.เกษตรและสหกรณ์​ จะเป็นผู้ชี้แจง อย่างไรก็ตาม​ ​เมื่อไปดูในพื้นที่ใจแผ่นดินนั้นไม่สามารถใช้เป็นพื้นที่ทำการเกษตรได้ ทั้งนี้​ ทางกรมอุทยานฯได้ดูแลชาวบ้านบางกลอยและโป่งลึก​ ซึ่งชาวบ้านพอใจที่ทางรัฐดูแลให้ ยืนยันว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้ ส่วนกรณีที่มีกลุ่มคนบางกลุ่มพยายามนำประเด็นไปเป็นเรื่องอื่น ก็ต้องชี้แจงว่า ปัญหาหลักเรื่องนี้คือพื้นที่ทำการเกษตร

ถามว่า เมื่อเป็นเช่นนี้แสดงว่าชาวบ้านไม่ได้มีปัญหา​ คนที่มีปัญหาคือนักเคลื่อนไหวใช่หรือไม่​ นายวราวุธ​ กล่าวว่า ส่วนนี้คงตอบแทนไม่ได้ แต่จากการที่ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้พูดคุยกับชาวบ้านหลายๆฝ่าย ทุกคนพูดว่าอยากได้น้ำทำการเกษตรและการปรับพื้นดิน ไม่ได้พูดถึงประเด็นอื่น การที่หลายฝ่ายออกมาพูดประเด็นนั้นประเด็นนี้ ก็ต้องไปสอบถามกันว่ามีวัตถุประสงค์อะไร ยืนยันว่า เราพยายามแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด.