ธ.ก.ส.ลุยจัดชั้นอุ้มลูกหนี้2ล้านรายครบกำหนดพักหนี้


เพิ่มเพื่อน    

 

22 มี.ค. 2564 นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ในปี 2563 ธนาคารได้กมาตรการช่วยเหลือประคับประคองลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ผ่านมาตรการพักหนี้ทั้งระบบ จำนวน 3.25 ล้านราย  ต้นเงินประมาณ 1.07 ล้านล้านบาท,  การเติมวงเงินสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และเสริมสภาพคล่อง ซึ่งช่วยบรรเทาความเดือดร้อน กระตุ้นการใช้จ่าย  การลงทุน  ทำให้ระบบเศรษฐกิจเกิดการหมุนเวียน เช่น เงินกู้ฉุกเฉิน ที่ไม่ต้องใช้หลักประกันวงเงิน 20,000 ล้านบาท สินเชื่อ New Gen Hug บ้านเกิด สินเชื่อพอเพียงเพื่อเลี้ยงชีพ สินเชื่อเพื่อฤดูการผลิตใหม่ วงเงินรวม 170,000 ล้านบาท จัดทำโครงการชำระดีมีคืนและโครงการลดภาระ  ซึ่งทั้ง 2 โครงการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในเรื่องดอกเบี้ย โดยสามารถคืนเงินเข้าสู่กระเป๋าเกษตรกร กว่า 1.6 ล้านราย วงเงินกว่า 3,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการส่งมอบเงินและความช่วยเหลือไปยังเกษตรกรและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เช่น การจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกร 5,000 บาทเป็นระยะเวลา 3 เดือน  ผู้พิทักษ์สิทธิ์ เราไม่ทิ้งกัน การจ่ายเงินตามโครงการประกันรายได้ 5 พืชเศรษฐกิจหลัก เป็นต้น

ทั้งนี้ มาตรการพักหนี้ของ ธ.ก.ส. จะครบกำหดในเดือน มี.ค. 2565 โดยเป็นลูกค้ากว่า 2 ล้านราย คิดเป็นมูลหนี้กว่า 9 เเสนล้านบาท โดยจากการจัดเกณฑ์ความสามารถในการชำระหนี้ของกลุ่มลูกค้าของธนาคาร เเบ่งออกเป็น สีเขียว คือ ลูกหนี้ ที่มีความสามารถชำระได้ตามปกติ สีเหลือง มีความสามรถในการชำระ เเต่ขอผ่อนผันตามฤดูกาลของผลผลิต  เเละ สีเเดง คือ หนี้เสีย โดยในกลุ่ม สีเขียวเเละเหลือง รวมกัน กว่า 1. 7 ล้านราย มูลหนี้ 7 เเสนล้านบาท
สำหรับการช่วยเหลือเกษตรกรกลุ่มสีเหลืองเเละ สีเเดง ธนาคารสามารถออกมาตรการช่วยเหลือได้ทันที

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานของ ธ.ก.ส. ในปีบัญชี 2563 (เม.ย. 63-มี.ค. 64) ว่า ธนาคารมีสินทรัพย์จำนวน 2,039,144 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4.10% เงินให้สินเชื่อจำนวน 1,572,376 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4.90%  หนี้สิน จำนวน 1,892,612 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.94% เงินรับฝาก 1,730,272 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.41%  ส่วนของเจ้าของ 146,532 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6.19%

โดยมีรายได้จำนวน 103,171 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายจำนวน 95,987 ล้านบาท กำไรสุทธิจำนวน 7,184 ล้านบาท อัตราส่วน ROA อยู่ที่ 0.36% ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่  3.09% ขณะที่ Cost to income อยู่ที่ 32.25% และ BIS ratio อยู่ที่ 11.99% และ NPLs/Loan ratio 3.57%

ขณะที่ ในปีบัญชี 2564 (เม.ย. 2564 – 31 มี.ค. 2565) ธ.ก.ส. วางเป้าหมายสินเชื่อเติบโตเพิ่มขึ้น 69,000  ล้านบาท เงินฝากเติบโตเพิ่มขึ้น 25,000 ล้านบาท ขณะที่คาดว่าหนี้เสียจะอยู่ที่ 4.23%


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"