นักแสดงรุ่นใหญ่มากความสามารถ ปู-กรองทอง รัชตะวรรณ เผยเส้นทางการเป็นนางงามสายเซ็กซี่ แถมตอนนี้มีหนุ่มในเครื่องแบบดูแลหัวใจ แต่เจ้าตัวบอกเลยว่าไม่เปิดตัว อีกทั้งยอมรับแบบแมนๆว่า50 ปีสมรรถภาพทางเพศก็ต้องเสื่อมแล้ว โดยเจ้าตัวมาเผยทุกประเด็นผ่านทางรายการคุยแซ่บshow ทางช่องวัน31

 

หลายคนเห็นหน้าพี่ปูคิดว่าเป็นดาราอย่างเดียวหลายคนยังไม่ทราบว่าพี่ปูมีตำแหน่งมีมงกุฎด้วย?

ปู: สมัยก่อนมีมงเป็นรองอันดับ1 มิสไทยแลนด์เวิลด์ เป็นนักเรียนการแสดง เป็นนางงาม เป็นดารา เป็นนางแบบ เป็นหมดเลย 

 

ณ ตอนนั้นที่เราได้รางวัลรองอันดับ1 เป็นยังไงบ้าง?

ปู: ก็สนุกดีแทบจะเหมือนทำงานคนเดียว คือตัวมิสแกก็ไม่ค่อยพูดแกเป็นลูกครึ่ง เวลาไปรับแขกบ้านแขกเมืองกรองทองไปแทนตลอด รอง2 ก็ลูกครึ่งอเมริกัน

 

เห็นบอกว่าตอนที่เข้าไปประกวดโดนคำดูถูกโดนยังไง?

ปู: คือวันที่ไปสมัครเพื่อนเป็นคนไปสมัครแล้วชวนเราไปเป็นเพื่อนหน่อย แล้วพี่ปูก็ไปเป็นเพื่อนเพื่อนเขาก็กรอกใบสมัครกันทีนี้ก็มีนักข่าวมาบอกว่าเนี่ยสวยจังเลยน้องน่าประกวดน้องน่าเป็นนางงาม เราก็เลยบอกไม่เอาไม่ชอบ อุ้ย...อย่าไปชวนเขานะ มีเสียงดังจากข้างหลังเป็นนักข่าวคนนึง พี่อ้วนอรชร เป็นนักข่าวไทรัฐเอ่ยชื่อได้เพราะแกก็ด้วยความจริงใจทำให้เราได้ตำแหน่งมา ก้นอย่างกับกาละมังขนาดนี้ประกวดก็คงไม่ได้หรอกเราก็เลยบอกว่าสมัครนี่ต้องเอาอะไรบ้าง เอาเลย พี่ไม่ได้ อย่ามาสบประมาทคนอย่างกรองทอง ทำได้ยังไงนักเลงขนาดนี้ 

 

ตอนนั้นโกรธไหม?

ปู: ก็เคืองสุด นึกในใจยังไงก็ต้องเข้ารอบให้ได้ ลดความอ้วนให้ได้ เมื่อก่อนหนัก65 สูง170 เช้าขึ้นมากินแต่น้ำส้ม ไข่ต้ม ช่วง20 วันที่เก็บตัว

 

พอเราได้รอง1 ขึ้นมาคนที่สบประมาทเราได้เดินกลับมาพูดกับเราไหม?

ปู: เขาบอกว่าดีนะแกวันแรกก็สั่งเป็ดพะโล้เลย คือเขาถามเราว่าอยากกินอะไรเราก็อยากกินเป็ดพะโล้มากที่สุดตอนนี้เราอดมา30 วันแล้วพี่อ้วนก็เดินมาแซวยิ้มๆแหม...พอประกวดเสร็จก็อยากกินเป็ดพะโล้เลยนะ พี่ก็เลยตอบค่ะ 

 

เห็นว่าพอได้รับตำแหน่งพี่ปูฉีกกฎความเป็นนางงามเลย เป็นนางงามคนเดียวที่ถ่ายแบบเซ็กซี่เลย?

ปู: ตอนนั้นคือมีน้องแล้ว แล้วทีนี้นึกในใจว่าเขามาชวนแปลว่าเราก็ต้องโอเค คุณหมอเห็นของเราแล้วก็ผ่าคลอดความอายก็ไม่น่าจะเหลือเท่าไหร่

 

เตรียมตัวยังไงบ้างพอเรารู้ว่าเราจะต้องถ่ายเซ็กซี่?

ปู: อดข้าวเหมือนเดิม ใช้ฟิลเดียวกับนางงามไข่ต้มน้ำส้ม

 

กระแสตอบรับเป็นยังไงบ้าง?

ปู: ก็ดีพอสมควร ตอนนั้นถ่ายTHE FACE ที่เป็นหนังสือนะคะก็เปลือยท่อนบน พอมันมีเล่มแรกก็จะมีเล่มที่2 ที่3 ไปเรื่อยๆ 

 

บางคนที่ถ่ายแบบนี้จะโดนวิจารณ์ว่าโป๊ไปแต่ของพี่ปูเขาบอกว่าโป๊น้อยไปคืออะไร?

ปู: คือหนังสือสมัยก่อนเล่มนี่แพงด้วยแล้วเล่มนี้เป็นเล่มที่1 ทุกคนคิดว่ามันต้องโป๊มาก แต่พอเปิดมาไม่เห็นนมอะไรเลยเสื้อที่เราเอาไปถ่ายคือเสื้อเราเองหมดเลยเราแบบขอนะไม่อยากโป๊มากแล้วเพราะตอนนี้ลูกเริ่มจะโต 

 

 

พอเราตัดสินใจจะเข้าสู่วงการเซ็กซี่คุณสามีว่ายังไง?

ปู: เดินหน้าเลย ใครชวนถ่ายถ่ายหมด ไปด้วยกันทั้งครอบครัว แต่ว่าเล่มนั้นเป็นเล่มที่ผิดหวัง พอออกมาได้ไม่สวยเท่าTHE FACE อาจจะด้วยสรีระมุมถ่ายไม่ดีเลยแล้วสีก็ไม่ดี

 

ใช่งานครั้งนี้ไหมที่พี่ปูถึงกับมีน้ำตา?

ปู: ใช่ค่ะร้องไห้แล้วไม่พูดกับแฟนเลยเป็นอาทิตย์  คือเหมือนเราเสียใจว่าเห้ย..แทนที่ถ่ายแล้วมันออกมาดีกว่าเดิมทำไมมันแย่กว่าเดิมทำไมตัวเราทำขนาดนี้มันไม่ใช่

 

หรือว่าเหตุการณ์วันนั้นมันเกิดแอคซิเดนมีปลิงมาเกาะขา?

ปู: ใช่ค่ะเรารู้สึกแบบเราอุตส่าห์ทุ่มเทเนอะไปโดนปลิงเกาะดึงกันเลือดสาด  มันไม่คล่องตัวในการทำงานแล้วผลงานยังออกมาแย่อีกเราก็เลยไม่พอใจมาก  คือไม่ว่างานแสดงถ่ายแบบต้องออกมาดีที่สุด 

 

แต่ก็ไม่วายมีข่าวเม้าท์ว่าพี่ปูรับงานถ่ายนู้ดเพราะต้องการปลดหนี้?

ปู: คนเราทำงานคอนเด็กๆเราก็ต้องมีหนี้อยู่แล้ว ค่าบ้านค่ารถค่าอะไรแต่ว่าเรื่องปลดหนี้พี่ว่าเขาสร้างกระแสให้หนังสือมันดูน่าซื้อมากกว่าพี่ก็เป็นคนทำงานธรรมดาหากินเลี้ยงตัวเอง

 

แปลว่าพี่ปูได้ยินมาตลอดว่ามีกระแสแบบนี้?

ปู: ใช่ค่ะอาจจะเป็นเพราะโดนบูลลี่มาตั้งแต่เด็กก็เลยมีความเฉยตอนเด็กๆก็อ้วนหน้าคอสั้นผมก็หยักศกนี่ยืดแล้ว 

 

พี่ปูโกรธไหมเวลาโดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์เขาพูดกันไม่จริง?

ปู: น้อยใจมากกว่าไม่ใช่คำว่าโกรธคิดในใจว่าตราบใดที่มีคนอุดหนุนมีคนซื้อมีคนที่แบบเชียร์เราคือตัวเองจะเป็นคนคิดบวกตลอดไม่ค่อยสนใจใครอยู่แล้วอยากพูดอะไรพูดไปเลยคนอื่นเขาโดนมากกว่าเราพระพุทธเจ้ายังโดนนินทาตัวเราเป็นคนธรรมดาเราโดนอยู่แล้วแต่เราไม่ได้ยินไม่เป็นไร

 

เราลุกขึ้นมาฉีกกฎนางงามเพราะอะไรพี่ปูถึงกล้าทำอย่างนั้น?

ปู: เป็นคนคิดไม่เหมือนชาวบ้านมั้งคะแล้วมีความรู้สึกว่าการถ่ายนู้นถ่ายโป๊พวกนี้ไม่ใช่เป็นการอนาจารเราไม่ได้มีภาพที่เราเมคเลิฟอะไรอย่างนี้เพียงแค่เราโชว์สรีระให้คนเห็นอาจจะเป็นเพราะว่าเราจบวิจิตรศิลป์ด้วยมั้งเรียนวาดรูปมาก่อนเราเลยรู้สึกว่าเรื่องสรีระของคนมันเป็นศิลปะ

 

 

พี่ปูอายุเท่าไหร่?

ปู: 54 ย่าง55 ทุกวันนี้ก็ออกกำลังกายไปฟิตเนสบ้างเข้าคลาสคาดิโอ้ไม่ได้รุนแรงหนักหน่วงเพราะว่าด้วยกระดูกแล้วเบอร์นี้ไม่มีรักษาแล้วก็จะดูแลตัวเองแบบนี้ไปเรื่อยๆเลยก็คุมเรื่องอาหารแต่ไม่ให้ผอมเพราะทุกคนวิจารณ์ว่าหน้าเป็นกระดูกไม่สวยเลยแต่พุงจะไปสุดท้ายซึ่งตรงนี้ลำบากมาก 

 

ตอนนี้แฟนยังหวงอยู่ไหมถ้ารับงานถ่ายเซ็กซี่?

ปู: เขายินดีสิคะเป็นคนโชคดีมากแฟนคนที่เป็นพ่อน้องที่เสียไปแล้วก็ไม่ว่าคนปัจจุบันก็ไม่ว่า

 

พอเราอายุเข้าเลข5 เรามีความรักสวยรักงามแบบนี้เรากลัวเกี่ยวกับเรื่องอายุไหม?

ปู: พี่ไม่กลัวเพราะเพื่อนที่คบกันตอนนี้60 กว่านางยังสวยอยู่เลยเพื่อนยังสวยอยู่เพราะฉะนั้นเรายอมไม่ได้

 

สามีคนปัจจุบันเป็นหนุ่มในเครื่องแบบด้วย?

ปู: ใช่ค่ะคือมันพูดกันเข้าใจอาจจะเป็นเพราะเขาใจดีเป็นคนน่ารักคบกันมาจะ7 ปีแล้ว

 

ได้ข่าวว่าคนนี้สายเปย์ด้วย?

ปู: ก็นิดนึงคนนี้เด็กกว่า6 ปีเขาชอบที่เราถ่ายหนังสือเซ็กซี่ทั้งหลายเขาเป็นแฟนคลับเรามาก่อนตอนเรียนนายร้อยเขาก็ไฝ่ฝันอยากเป็นแฟนเราเขาก็ทักมาในเฟซแล้วตอนนั้นเหมือนมีหลอกเยอะเราก็แบบไม่เป็นไรเดี๋ยวยังไงให้เพื่อนเราไปด้วยไปดูสิมันมีจริงหรือเปล่าแล้วหน้าเหมือนในโปรไฟล์หรือเปล่าเขาถามเราว่าอันนี้ปูกรองทองตัวจริงหรือเปล่าดิฉันก็แบบกล้าถามก็ต้องตัวจริงป่ะคนตามขนาดนี้ก็ไม่ได้ตามเยอะเรารับเพื่อนเราก็ดูอะงั้นไปเจอกันเลยคุยวันนั้นไปวันนั้นเลยคุณแม่ไฟแลบ

 

วันนั้นพี่ปูไปเจอปล้ำ?

ปู: เจอมอมยังไม่ทันปล้ำ

 

ตอนไปเจอเขาครั้งแรกชอบเขาเลยไหม?

ปู: ไม่ชอบนางก็พยายามมอมเหล้าเราเบียร์มีกี่กระป๋องสั่งมาให้หมดแต่เรากินอะไรที่เป็นฟองๆไม่ได้เลยเป็นคนท้องอืดง่ายนางก็กินไปคนเดียวแล้วนางก็เขินด้วยวันนั้น30 กว่าขวดมั้งหมดร้านเขาเลย

 

เขามอมเราสำเร็จไหมเขาปล้ำเราไหม?

ปู: ไม่ได้ปล้ำเขาบอกว่าร้านปิดละเนอะกลับเถอะเขาเหมือนทำเป็นว่าไม่ไหวขอไปนอนบ้านหน่อยแยกย้ายเถอะคะแหม...ไวไฟเหลือเกิน

 

นานแค่ไหนที่ตกลงแล้วคบกันมายาวนานขนาดนี้?

ปู: ก็เป็นเดือนๆเหมือนกันคุยกันไปเรื่อยๆ 

 

ไปแพ้ใจตรงไหน?

ปู: คนเรามีความดีคุยกันถูกคอรสนิยมใกล้เคียงกัน

 

แต่ไม่เปิดตัว?

ปู: ไม่เปิดตัวเพราะว่ากลัวนางอาย

 

เขารับได้ไหมที่เราผ่านการมีลูกมีสามีมาแล้ว?

ปู: เขาทราบอยู่แล้วตามหน้าเฟซบุ๊กเขาก็เห็นอยู่แล้ว

 

ระหว่างทางที่คบกันเคยมีปัญหามือที่สามบ้างไหม?

ปู: ไม่มีเพราะว่าแฟนเป็นคนที่มีอะไรเล็กๆอยู่แล้วเลี้ยงเด็กอยู่แล้วเราเนี่ยเป็นคนหลังสุดล่าสุด

 

พี่ปูรับได้?

ปู: ก็รับได้ก่อนหน้านี้คบคนเจ้าชู้แล้วเราต้องมาอกหักผิดหวังเพราะฉะนั้นยอมรับไปเลยจะได้สบายใจเปลี่ยนทัศนคติบางอย่างแบบถ้าเกิดอยากอยู่กับคนนี้แบบสบายๆคุณก็ต้องรับให้ได้ว่าเขามีอย่างนี้ถึงขนาดเดี๋ยวต้องไปนอนบ้านนี้นะเพราะต้องติวหนังสือให้เขาเขาจะสอบเราก็บอกตามสบายแต่หลังๆเขาไม่ค่อยพูดถึงเท่าไหร่พี่ก็ไม่รู้อะไรยังไง

 

เรื่องตรงนี้เกี่ยวไหมพี่ปูบอกว่า50 กว่าแล้วเรื่องฮอร์โมนในร่างกายเราไม่ปกคิแล้วก็เลยทำให้ยอมรับในเรื่องของสถานะแบบนี้?

ปู: ตอนคบกันใหม่ๆยังได้อยู่นะแต่เพิ่งมาเป็นทุกวันนี้มันเหมือนกับไม่รู้จับกันแล้วมันไม่สปาร์คเรื่องเซ็กส์

 

ก็คือเหมือนฮอร์โมนทางเพศหมด?

ปู: มันเหมือนแบบเซ็กส์เสื่อม

 

พี่ปูเริ่มรู้สึกมานานหรือยัง?

ปู: นานแล้วเหมือนกันนะปีสองปีแล้วนะ 

 

อาการมันเป็นยังไง?

ปู: แบบจับแล้วมันไม่มีอารมณ์ถ้าธรรมดาแค่กอดก็ไอ้นี่แล้วก็ระทวยแล้วแต่เดี๋ยวนี้

 

วัยทองหรือเปล่าพี่ปู?

ปู: วัยทองมันน่าจะเลยไปแล้วนะเพราะว่าพี่หมดประจำเดือนไปหลายปีแล้วนะคะเกือบ4 ปี 

 

พี่ปูวิเคราะห์ไหมว่ามันเกิดจากอะไร?

ปู: พี่ว่ามีสิทธิ์เรื่องงานเครียดเรื่องงานแล้วแบบเป็นคนจริงจังกับงานตั้งแต่เด็กแล้วตั้งแต่มีแฟนคนแรกไปทำงานแล้วแบบแฟนต้องงอแง

 

หรือว่าเราปลงทำให้เราไม่รู้สึกแบบนั้นไม่ต้องการแล้ว?

ปู: แต่จริงๆมันน่าจะรู้สึกบ้างสิสมมติเห็นผู้ชายหล่อหืมหล่อดีแต่ไม่นึกไปถึงฉากต่างๆมันก็เลยแบบกูแน่แล้ววะแบ่แล้ว

 

มันเป็นป้ญหากับเรื่องความรักที่เราคบอยู่ไหม?

ปู: ไม่ค่ะทุกวันนี้จับมือตอนนอนใช่ไหมอะๆแยกย้ายนอนเถอะเขานะไม่ใช่เราไปๆแยกย้ายเป็นอย่างนี้บ่อยมากแต่ก็ไม่มีปัญหากับเราสองคนคือทุกวันนี้พอศุกร์เสาร์เขามาศุกร์นี้ไปไหนดีเสาร์นี้กินไหนดี

 

เรื่องนี้มันทำให้ชีวิตพี่ปูแฮปปี้น้อยลงไหม?

ปู: ไม่ค่ะเป็นคนชอบชีวิตตัวเอง