“บางกอก มอเตอร์โชว์ฯ” ยอดจองทะลุเป้า


เพิ่มเพื่อน    

งาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42” ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม – 4 เมษายน ที่ผ่านมา มียอดจองรถภายในงานรวมทั้งสิ้น 27,868 คัน คิดเป็นเม็ดเงินกว่า 30,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 51.5 เปอร์เซ็นต์ จากปีที่ผ่านมา เนื่องจากค่ายรถส่วนใหญ่มีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาด ขณะที่ผู้บริโภคให้ความเชื่อมั่นในมาตราฐานด้านความปลอดภัยของการจัดงาน ทำให้มีตัวเลขผู้เข้าชมงานสูงถึง 1.34 ล้านคน จากเดิม 1.049 ล้านคน เพิ่มขึ้น 28.6 เปอร์เซ็นต์  

จาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะรองประธานจัดงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42”  เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 42 ปี ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ได้รับความเชื่อมั่นจากค่ายรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ต่างมั่นใจในศักยภาพของงานว่า มีส่วนช่วยกระตุ้นยอดจำหน่ายในช่วงที่เหลือของปีดังที่ปรากฏมาโดยตลอด และยังเป็นงานที่ผู้บริโภคต่างรอคอย เพราะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการหาซื้อรถยนต์คันใหม่ เนื่องจากจะมีโปรโมชั่นและแคมเปญหลากหลายมากระตุ้นยอดขายในช่วงนี้ ถึงแม้ว่า ที่ผ่านมาเราต้องเจอผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ยอดจองลดลงจากช่วงปรกติ แต่ด้วยตัวเลขยอดจองในปีนี้ แสดงให้เห็นว่ามีการเติบโตขึ้นจากปีก่อนถึง 51.5 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่ากำลังซื้อของคนไทยที่อยากได้รถยนต์คันใหม่ไม่ได้หายไปไหน แค่รอเวลาที่เหมาะสม โดยเฉพาะเมื่อได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงิน ในการออกแคมเปญ และโปรโมชั่นของค่ายรถที่ช่วยให้ทุกคนเป็นเจ้าของรถคันใหม่ได้สะดวกขึ้น ด้วยเงื่อนไขที่หลากหลาย เลือกให้เหมาะสมกับความต้องการได้ ในส่วนพฤติกรรมของผู้บริโภคเองปีนี้ต่างให้การตอบรับกับรถยนต์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวก่อนหน้างาน และเปิดจองภายในงานมอเตอร์โชว์เป็นครั้งแรก เห็นได้จากบรรยากาศการเจรจาที่หนาแน่นดังเช่นทุกปีโดยเฉพาะในช่วงสุดสัปดาห์ที่มียอดจองเป็นสองเท่าของวันธรรมดา แต่ด้วยพฤติกรรมของคนผู้บริโภคเปลี่ยนไป เพื่อให้สมกับช่วงที่ต้องรัดเข้มขัด จึงหันมาซื้อหารถใหม่ที่ตอบโจทย์ความคุ้มค่ามากขึ้น ขณะที่ตลาดรถหรูยังคงเติบโตตามเป้าด้วยสาเหตุที่ค่ายรถเองต่างชิงเปิดตัวสินค้าใหม่แทบทุกรุ่น เพื่อกระตุ้นยอดขาย ในด้านเทคโนโลยีต้องบอกว่า ปีนี้เป็นปีของยานยนต์ไฟฟ้า ผู้บริโภคต่างให้ความสนใจพร้อมเปิดรับความเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเมื่อค่ายรถหันมาทำตลาดรถยนต์ไฮบริด หรือรถปลั๊กอินไฮบริด เพิ่มมากขั้น ส่วนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าต่อจากนี้คงต้องจับตาเมื่อมีผู้เล่นหน้าใหม่หันมาชิงตลาดนี้ในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น

สำหรับปริมาณยอดจองรถยนต์ภายในงานยังอยู่ในระดับ 2 หมื่นคัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 51.5 เปอร์เซ็นต์  ซึ่งบริษัทที่ทำยอดจองสูงสุดภายในงาน ได้แก่   อันดับ 1 โตโยต้า ยอดจองรวม 4,406  คัน อันดับ 2 มาสด้า ยอดจองรวม 3,454  คัน อันดับ 3 ฮอนด้า ยอดจองรวม 3,305  คัน อันดับ 4 อีซูซุ ยอดจองรวม 2,829 คัน อันดับ 5 ซูซูกิ ยอดจองรวม 2,689 คัน อันดับ 6  เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยอดจองรวม 1,863  คัน อันดับ 7 เอ็มจี ยอดจองรวม 1,629  คัน อันดัน 8 มิตซูบิชิ ยอดจองรวม 1,462 คัน อันดับ 9 ฟอร์ด ยอดจองรวม 1,212  คัน และอันดับ 10 นิสสัน ยอดจองรวม 1,144 คัน

 

รถจักรยานยนต์มียอดจองภายในงานรวมทั้งสิ้น 1,155 คัน ที่ทำยอดจองสูงสุด ได้แก่ อันดับ 1 ยามาฮ่า ยอดจองรวม 815 คัน อันดับ 2 ซูซูกิ  131 คัน อันดับ 3 ฮาเลย์-เดวิสัน ยอดจองรวม 126 คัน และอันดับ 4 วรูม ผู้จัดจำหน่าย เคทีเอ็ม,บาจาจ และฮัสควาร์น่า ยอดจองรวม 83 คัน สำหรับยอดจองขอรถจักรยานยนต์ฮอนด้านั้น ทางบริษัทของดแจ้งยอด 

 

 

แกลลอรี่


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"