30 ม.ค. 61- ที่โรงเรียนอนุบาลเลิศนุวัฒน์ ย่านราชวิถี คณะแกนนำและผู้ก่อตั้งพรรคพลังพลเมือง ซึ่งเป็นการรวมตัวของอดีตรัฐมนตรี นักการเมืองรุ่นเก่า ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเอกพร รักความสุข อดีตรมช.แรงงานและสวัสดิการสังคม นายเกียรติชัย ชัยเชาวรัตน์ อดีตรมช.มหาดไทย นายกริช คงเพชร อดีตรองประธานสภาฯผู้แทนราษฎร นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล อดีตส.ส.อุดรธานี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกน้องเก่าพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ  เมื่อครั้งตั้งพรรคความหวังใหม่ ต่อมาถูกดูดเข้าพรรคไทยรักไทย และถูกตัดสิทธิทางการเมืองหลังพรรคไทยรักไทยถูกยุบแทบทั้งสิ้น ร่วมแถลงความคืบหน้าการเตรียมยื่นจดทะเบียนตั้งพรรคและแนวทางพรรค
       นายเอกพรกล่าวว่า การก่อตั้งพรรคมีอดีตนักการเมืองหลายคนมารวมตัวกัน พรรคนี้จะแก้ปัญหาทางตันของประเทศ เพราะตั้งแต่ปี 2540-2561 เราวนเวียนอยู่การยึดอำนาจ มีรัฐธรรมนูญนับไม่ถ้วน มีเลือกตั้งมา4-5ครั้ง แนวทางของพรรคได้มาหารือร่วมกันเห็นว่าโมเดลสวิตเซอร์แลนด์ ที่ให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตดี ทั้งด้าน เศรษฐกิจ ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบทางกฎหมาย สร้างสังคมเท่าเทียม ดูแลคนด้อยโอกาส ประเทศเราจะไม่ต่างจากสวิตเซอร์แลนด์ พรรคพลังพลเมืองจะทำให้การเมืองเป็นการเมือง เป็นรัฐบาลฟังเสียงประชาชน ตามสโลแกนของพรรค พลังคนไทย ก้าวใหม่ที่มั่นคง
       นายสัมพันธ์กล่าวว่า ในวันที่ 9 ก.พ.จะมีตัวแทนพรรคไปร่วมประชุมกับกกต. ในวันที่1มี.ค.ไปยื่นขอจดทะเบียนตั้งพรรค ดำเนินขั้นตอนต่างๆทางธุรการ โดยพรรคพลังพลเมืองมีอดีตส.ส.จากหลายพรรคมารวมตัวกันประมาณ 30คน ส่วนที่ถามว่าพรรคนี้จะไปอยู่กับฝ่ายไหน สนับสนุนใครเป็นนายกฯนั้น หากพูดให้คนหมั่นไส้ก็ต้องบอกว่าอยู่ฝ่ายประชาชน ยังเร็วเกินไปที่จะพูดว่าไปอยู่กับฝ่ายใด ขอให้กระบวนการก่อตั้งพรรคแล้วเสร็จก่อน เราไม่อยากบริหารพรรค ที่มีคนใดคนหนึ่ง ครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งเป็นเจ้าของ เราไม่เอาอยู่แล้ว จะไม่ทำแบบนั้น
       ถามว่าการก่อตั้งพรรคขึ้นมาอาจถูกมองว่าหากไม่เป็นนอมินีให้พรรคเพื่อไทยก็ฝ่ายทหาร นายสัมพันธ์กล่าวว่า เราเบื่อหน่าย ท้อแท้กับพรรคที่มีเจ้าของ พรรคพลังพลเมืองเป็นนอมินีประชาชน เร็วเกินไปที่จะบอกว่าสนับสนุนใครเป็นนายกฯ ในการเลือกตั้งครั้งหน้าหลังจากเลือกประธานสภาฯเสร็จ คงจะบอกได้จะสนับสนุนใครเป็นนายกฯ เราสนับสนุนคนดี มีจริยธรรม เป็นผู้บริหาร
       ถามอีกว่าในใจอยากเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล นายสัมพันธ์กล่าวว่า ถ้าเป็นรัฐบาลก็ได้รับใช้ประชาชน อยู่ฝ่ายค้านก็จะเป็นปากเสียงให้ประชาชน  ขอให้แล้วแต่โอกาส อยู่ที่เหตุการณ์ตรงนั้น ต้องดูว่าใครจะได้เป็นเสียงข้างมาก และน่าจะทำงาน ตามที่เราคิดไว้ได้หรือไม่
       ซักว่าจุดยืนของพรรคต่อนายกฯคนนอกเป็นเช่นไร นายสัมพันธ์ตอบว่า ถ้าเป็นพรรคชัดเจน คงจะตอบได้ อย่างไรก็ดีเราสนับสนุนคนดี มีจริยธรรม เรื่องนายกฯคนนอก กฎหมายว่าไว้อย่างไร เราปฏิเสธไม่ได้ วันนี้ยังไม่ได้มี3รายชื่อในใจ ที่เสนอชื่อเป็นนายกฯ  ส่วนหัวหน้าพรรคยังระบุไม่ได้จะเป็นใคร รอให้หารือกันให้แล้วเสร็จก่อน
       ถามว่าการรวมตัวกันของนักการเมืองรุ่นเก่า อะไรที่จะเป็นจุดขายเป็นทางเลือกใหม่ให้กับประชาชน นายสัมพันธ์กล่าวว่า แม้จะเป็นนักการเมืองเก่า แต่ก็มีความคิดใหม่ รวมทั้งยังมีทายาทนักการเมืองที่ถือเป็นรุ่น2อีกหลายคน ที่อาจจะเข้ามาทำงานร่วมกับพรรค เราแค่ปูพื้นไว้ให้ โดยรุ่น2 ยังรออยู่ ที่ยังไม่เปิดตัวออกมา  
       ถามว่าหวังว่าจะได้ส.ส.กี่คน นายสัมพันธ์กล่าวว่า คงเร็วไปที่จะพูด หากพูดจำนวนออกมาเยอะ จะหาว่าอวดตัว บอกหวังเพียง2-3คน บางคนอาจมองน้อยเกินไป แต่คงจะได้พอสำหรับทำงานและเสนอกฎหมายในสภาฯได้  สำหรับการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งครั้งหน้า ตั้งใจจะส่งให้ครบทุกเขตเลือกตั้ง  คาดว่าพรรคจะได้ส.ส.มาในสภาฯกว่า20ที่นั่ง แม้ส.ส.เขตจะไม่ชนะคู่แข่ง แต่ยังมีทางตามที่กติกาเลือกตั้งกำหนดไว้ว่า คะแนนที่ประชาชนมอบให้ สามารถนำมาคำนวณเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อได้ ดังนั้นจึงมั่นใจว่าจะเป็นโอกาสให้กับพรรค ส่วนกติกาการเลือกตั้งใหม่ จะไม่เป็นปัญหา เท่าที่ดู มีการปรับจากในอดีตเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
         นายเกียรติชัย ชัยเชาว์รัตน์ อดีตรมช.มหาดไทย หนึ่งในสมาชิกพรรคพลังพลเมืองกล่าวว่า การก่อตั้งพรรคพลังพลเมือง เกิดจากอดีตนักการเมืองที่เคยทำงานมาหารือร่วมกัน แม้พรรคนี้จะมีอดีตส.ส.ความหวังใหม่เยอะ แต่ก่อนก่อตั้งพรรค ไม่ได้ไปหารือกับพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ เป็นการดำเนินการเองของพวกเรา ท่านไม่ทราบเรื่อง และเราก็ไม่อยากไปรบกวนท่าน  
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่าส.ส.กลุ่มนี้ยังมีประวัติการเมืองที่ยาวนาน หลายคนเคยร่วมพรรคสามัคคีธรรม ซึ่งถูกเรียกว่าพรรคมาร เคยสนับสนุนพล.อ.สุจินดา คราประยูร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะนายสัมพันธ์ เคยเป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลพล.อ.สุจินดา จนนำไปสู่เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ.