“เนติบริกร” ปัดติดเต็งลั้งไม่เกี่ยวแก้เคล็ด  แต่เป็นเทศกาลของโลกไปแล้ว โวต่อไปเทศกาลสงกรานต์-คริสต์มาสก็อาจประดับบ้าง อึ้ง! ซ้ำสอง พบก้านธูป 36 ดอกเซ่นไหว้กลางกอเข็มทำเนียบฯ “โหร” ฟันธงแก้ดวงตก
เมื่อวันศุกร์ที่ 16 ก.พ. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์กรณีอ่างบัวในทำเนียบรัฐบาลแตกวันตรุษจีนถือเป็นลางร้ายว่า ส่วนตัวไม่ได้ถือเรื่องเหล่านี้ และการที่นายกฯ สั่งให้ติดโคมจีนสีแดง (เต็งลั้ง) นั้น ไม่แปลกเช่นกัน แต่ไม่มีความรู้ในเรื่องการแก้เคล็ดอะไร โดยการประดับโคมจีนไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะตรุษจีนถือเป็นเทศกาลของโลกไปแล้ว และไม่แน่ในอนาคตทำเนียบฯ อาจประดับตกแต่งในเทศกาลอื่นๆ อาทิ เทศกาลสงกรานต์ คริสต์มาส
เมื่อถามว่า ทำเนียบฯ เป็นสถานที่ราชการ การตกแต่งบางอย่างเป็นเรื่องที่ดูไม่เหมาะสม และการประดับเต็งลั้งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นายวิษณุตอบว่า ไม่ใช่เรื่องที่แปลก การทำครั้งแรกอาจเป็นเรื่องที่แปลกบ้าง  แต่ครั้งต่อๆ ไป ไม่ใช่เรื่องแปลกแล้ว
    และเมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกัน ช่างภาพและผู้สื่อข่าวทำเนียบฯ ได้พากันไปบันทึกภาพธูป 36 ดอกที่ถูกจุดจนมอดดับลงแล้ว ปักอยู่ใต้กอดอกเข็มบริเวณปืนใหญ่ด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า และมีการตั้งข้อสังเกตว่าเจ้าหน้าที่ภายในทำเนียบฯ ได้มาจุดทำพิธีไหว้เพื่อขอขมาและอโหสิกรรมต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์และองค์เทพเทวา ให้ชีวิตไม่ติดขัด ราบรื่น เจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้า รวมถึงเป็นการขอขมาต่อเจ้ากรรมนายเวรทั้งอดีตชาติ หรืออาจเคยล่วงเกินต่อเทพยดา เพราะความหมายของธูป 36 ดอกคือ ไตรภูมิ 36 ชั้น ประกอบด้วย 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน อบายภูมิ 4 มนุษย์โลก 1 ซึ่งพิธีดังกล่าวจะต้องทำก่อนเที่ยงวัน และต้องปักธูปกลางแจ้ง 
    ต่อมาเวลา 14.42 น. ภายหลังพบก้านธูปดังกล่าว เจ้าหน้าที่ทำเนียบฯ ได้สั่งคนสวนให้มาเก็บเศษธูปที่ไหม้จดหมดออกไป เพราะไม่อยากให้เป็นที่สนใจ แต่ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ ซึ่งทราบว่าได้มีการจุดธูปดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว 
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความประหลาดใจอีกครั้ง หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. สั่งให้นำเต็งลั้งไปห้อยประตูทางเข้า-ออกของทำเนียบฯ หลังเกิดเหตุรถตำรวจส่งเอกสารถอยชนอ่างบัวแตกกระจาย เมื่อวันที่ 15 ก.พ.  
    ด้านนายภิญโญ พงษ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ กล่าวว่า ปกติการจุดธูป 36 ดอกจะไม่ค่อยได้พบเห็น ส่วนใหญ่เป็นการจุด 1-16 ดอก เชื่อว่าเป็นการแก้เคล็ด เนื่องจากช่วงนี้นายกฯ และรัฐบาลดวงตก เจอปัญหาหลายเรื่องรุมเร้า
    นายภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ซินแสชื่อดัง กล่าวว่า  ตอนนี้สถานการณ์การเมืองอยู่ที่ดวงบุคคล ซึ่งดวงของพล.อ.ประยุทธ์ปีนี้ดีจากปี 2560 ที่ดวงเข้าเคราะห์วุ่นวาย ส่วนดวง พล.อ.ประวิตร มีเคราะห์ตั้งแต่เมื่อกลางปี 2560 แล้ว ต้องระวังปัญหาสุขภาพ มีปัญหาอุปสรรคให้วุ่นวาย แต่ไม่มีอะไร เพราะ พล.อ.ประวิตรมีโหงวเฮ้งแก้มที่สวย และพูดตรงๆ ไม่มีอะไรตีรัฐบาลลงได้ เป็นเพียงการสร้างกระแสป่วน แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ 
“ดวง พล.อ.ประยุทธ์ยังดีอยู่ มีแต่เรื่องนาฬิกาเท่านั้นที่มาตีให้ท่านวุ่นวายใจเหมือนกัน เป็นกระแสหาเรื่องโจมตี เพราะมีกระบวนการโจมตีจ้องล้มรัฐบาลอยู่แล้ว แต่คงไม่ถึงขั้นทำให้ พล.อ.ประวิตรน้อยใจหรือเสียกำลังใจจนลาออก เพราะไม่ได้หนักหนา ทุกคนก็รู้ ถ้าตีให้ พล.อ.ประวิตรและ พล.อ.ประยุทธ์แยกจากกัน รัฐบาลจะมีปัญหา และคิดว่ารัฐบาลจะอยู่ถึงการเลือกตั้งแน่นอน” นายภาณุวัฒน์กล่าว
    และเมื่อเวลา 18.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เกิดเหตุควันจากไฟไหม้ลอยพุ่งขึ้นที่บริเวณด้านหลังธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบฯ ใกล้ประตู 4 ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำทำเนียบฯ ได้วิ่งมาดูเหตุการณ์พร้อมเข้าดับไฟที่กำลังไหม้กองลังกระดาษ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสันนิษฐานว่าเหตุไฟไหม้เกิดจากควันบุหรี่ที่โยนทิ้งลงมาจากชั้น 2 ของตัวอาคาร และไม่คิดว่าจะเป็นการวางเพลิง อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เข้าไปดับไฟโดยเร็ว อาจก่อให้เกิดความเสียหายได้มากกว่านี้.