บิ๊กตู่บุกนครปฐม คิกออฟไทยนิยม คัดทหารลุยพื้นที่


เพิ่มเพื่อน    

   “บิ๊กตู่” เตรียมลงพื้นที่พบชาวนครปฐม  ดูความสำเร็จเกษตรกรใช้แนวทางศาสตร์พระราชา ร่วมกิจกรรมปลูกข้าวนาโยนก่อนลุยตลาดน้ำ-สหกรณ์โคนมกำแพงแสน พร้อมคิกออฟ "ไทยนิยม ยั่งยืน" 21 ก.พ.นี้ ปูพรมทั่วประเทศ 83,151 หมู่บ้าน/ชุมชม ใน 3 เดือน "มทภ.1" ระบุคัดทหารคุณภาพ 2,674 นายลงพื้นที่ภาคกลาง-กทม. 26 จว. ยันแจงนโยบายรัฐบาลรับฟังปัญหาปัดหาเสียง
    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่พบประชาชนและติดตามงานนโยบายของรัฐบาลที่ จ.นครปฐม ในวันพุธที่ 21 ก.พ. โดยเวลา 08.00 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะออกเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์จากสนามเฮลิคอปเตอร์ พล ม.2 รอ. เขตพญาไท กรุงเทพฯ ไปยังจุดจอด ฮ. โรงเรียนแหลมบัววิทยา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จากนั้นเดินทางไปยังศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรแหลมบัว ต.แหลมบัว เพื่อตรวจเยี่ยมพื้นที่ที่ประสบความสำเร็จในการน้อมนำแนวพระราชดำริ “ศาสตร์พระราชา” และการประยุกต์เทคโนโลยีการลดต้นทุนการผลิตข้าวและการทำข้าวอินทรีย์ โดยนายกฯ พร้อมคณะจะร่วมกิจกรรมปลูกข้าวนาโยนในแปลงสาธิตนี้ด้วย
     จากนั้นนายกฯ จะออกเดินทางต่อไปยังที่ดินพระราชทาน บ้านศาลาดิน หมู่ที่ 3 ต.มหาสวัสดิ์ อ.พุทธมณฑล เพื่อเยี่ยมชมแปลงนาบัวลุงแจ่ม สวัสดิ์โต ซึ่งเป็นการปฏิรูปที่ดินตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระราชทานที่ดินส่วนพระองค์ให้กับเกษตรกรเมื่อปี พ.ศ.2518 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปที่ดินในประเทศไทย ก่อนเดินทางไปยังตลาดน้ำบ้านศาลาดิน (ตลาดประชารัฐ คนไทยยิ้มได้) เพื่อรับฟังการนำเสนอสภาพปัญหาเดิมของชุมชนบ้านศาลาดิน และการรวมกลุ่มจัดการปัญหา พร้อมเยี่ยมชมตลาดน้ำบ้านศาลาดิน ซึ่งได้มีการขับเคลื่อนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนเชิงเกษตรเชื่อมโยงตลาดประชารัฐ
    พ.อ.หญิงทักษดากล่าวอีกว่า ช่วงบ่าย นายกฯพร้อมคณะจะพบกับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมบ้านหนองจิก และเยี่ยมชมการดำเนินธุรกิจสินค้าน้ำนมของสหกรณ์โคนมกำแพงแสน จำกัด ในพื้นที่ อ.กำแพงแสน นอกจากนี้ นายกฯ จะเป็นประธานสักขีพยานในโอกาสผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมมอบโรงเรือนถอดประกอบได้ เครื่องจักรกลการเกษตร และเครื่องสีข้าว ให้แก่ผู้แทนเกษตรกร พร้อมกล่าวพบปะกับเกษตรกรและกลุ่มสมาชิกสหกรณ์ ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯในช่วงเย็นวันเดียวกัน
    ที่กองทัพภาคที่ 1 พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาคที่ 1 (มทภ.1) ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 1 (ผบ.กกล.รส.ทภ.1) และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 1 (ผอ.รมน.ภาค 1) เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายก่อนการปฏิบัติงานการสนับสนุนโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ต่อผู้บังคับหน่วยขึ้นตรง ทภ.1 ผู้บังคับหน่วยขึ้นตรง กกล.รส.ทภ.1 กอ.รมน.ภาค 1 และหัวหน้าส่วนงานที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นย้ำการปฏิบัติของกำลังพลให้เข้าใจบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบกับโครงการ รวมทั้งนำชุดความรู้ทั้ง 10 ชุดประกอบด้วย สัญญาประชาคมถูกใจไทยเป็นหนึ่ง, คนไทยไม่ทิ้งกัน, ชุมชนอยู่ดีมีสุข, วิถีไทยวิถีพอเพียง, รู้สิทธิรู้หน้าที่รู้กฎหมาย, รู้กลไกการบริหารราชการ, รู้รักประชาธิปไตยไทยนิยม, รู้เท่าทันเทคโนโลยี, ร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติด, งานตามภารกิจของทุกหน่วยงานไปเผยแพร่ ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนการสร้างการรับรู้ความเข้าใจกับประชาชนถึงการทำงานของรัฐบาลและสำรวจความต้องการของประชาชนมานำเสนอเป็นแผนงานโครงการในการพัฒนาพื้นที่ต่อไป
     พล.ท.กู้เกียรติกล่าวว่า มั่นใจต่อกำลังพลของ กอ.รมน.ภาค 1 ที่ได้รับการคัดสรรมา ซึ่งเป็นคนดีมีคุณภาพ โดยบุคลากรเหล่านี้จะเข้าไปร่วมทำงานกับบุคลากรหน่วยงานอื่นที่มีความรู้ความสามารถเช่นกัน เพราะฉะนั้นตนเชื่อมั่นว่ากำลังพลทุกคนที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเราจะทำงานสำคัญนี้ได้ 
    "กำลังพลจำนวน 2,674 คนต้องลงพื้นที่ ทุกตำบล ทุกเทศบาล ใน 26 จังหวัดรับผิดชอบ ดังนั้น เรามีช่วงเวลาในการศึกษา ทำความเข้าใจกับนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่จะเข้าไปถึงประชาชนอย่างแท้จริงว่าจะทำอย่างไร มีวิธีคิด วิธีปฏิบัติอย่างไร ขอให้ศึกษาใช้การพูดคุยแลกเปลี่ยนกันหน่วยเดียวทำงานอย่างเป็นพี่เป็นน้องกัน "
    แม่ทัพภาคที่ 1 ให้สัมภาษณ์ย้ำว่า ได้ให้กำลังพลช่วยเหลือและทำงานร่วมกับหน่วยราชการอื่น ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจะเป็นหลักของโครงการ โดยเน้นย้ำให้ผู้บังคับหน่วยลงไปควบคุมกำกับดูแลกำลังพลที่เข้าไปปฏิบัติงานในทุกพื้นที่กองทัพภาค 1 ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ในส่วนของทหารลงไปรับฟังปัญหา ไม่ได้ไปหาเสียง แต่จะไปให้ถึงความต้องการของประชาชน นำสิ่งที่ดีของรัฐบาลไปสู่พี่น้องประชาชน พร้อมกันนั้นยังได้เน้นย้ำให้ระวังการบิดเบือนของกลุ่มอื่นๆ ในการกล่าวหาว่าโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ทางลบ ขอให้เชื่อมั่นว่ารัฐบาลและทหารดำเนินโครงการนี้เพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง
     ทั้งนี้ ทีมงานขับเคลื่อนประเทศตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ทั่วประเทศ ในระดับตำบล มีจำนวน 7,663 ทีม ทีมละ 7-12 คน แบ่งเป็น 76 จังหวัด ประกอบด้วย 878 อำเภอ และ 50 เขตในกรุงเทพฯ ลงพื้นที่เข้าถึงหมู่บ้าน-ชุมชน 83,151 แห่ง แบ่งเป็นหมู่บ้าน 73,032 หมู่บ้าน ชุมชนเขตเทศบาล 6,052 ชุมชน ใน กทม. 2,067 ชุมชน 
    ในห้วงที่ 1 ระยะเวลาคิกออฟลงพื้นที่ลงปฏิบัติงานระหว่าง 21 ก.พ.-20 มี.ค. แบ่งเป็นตำบลละ 1 หมู่บ้าน โดยลงพื้นที่วิเคราะห์ปัญหาความเดือดร้อน เยี่ยมเยียนรายครัวเรือนรายบุคคล ค้นหาความต้องการของประชาชน เพื่อจัดทำโครงการเสนอตามกรอบการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ 
    ห้วงที่ 2 ระหว่าง 21 มี.ค.-10 เม.ย.61 สร้างการรับรู้และปฏิบัติตามสัญญาประชาคม ห้วงที่ 3 ระหว่าง 11 เม.ย.-30 เม.ย.61 และห้วงที่ 4 ระหว่าง 1-20 พ.ค.61 สร้างการรับรู้และปรับความคิด เพื่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนา
         ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงการขับเคลื่อนโครงการ "ไทยนิยม ยั่งยืน" ตามนโยบายของรัฐบาลว่า ได้จัดชุดเข้าไปให้การสนับสนุนในพื้นที่ ขณะนี้ขบวนการต่างๆเริ่มเดินหน้าไปแล้ว โดยกำหนดการเริ่มวันที่ 21 ก.พ.นี้ ตามกรอบงบประมาณ 3 เดือน ในส่วนของ กอ.รมน. ได้เตรียมการมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยตนให้แนวทางไปในเรื่องการคัดบุคลากรที่ลงพื้นที่ ต้องมีความรู้ความเข้าใจในงานปัจจุบัน และมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี พร้อมที่จะรับฟังปัญหาของประชาชน และนำมาสู่รัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งคิดว่าทุกอย่างน่าจะเป็นไปได้ด้วยดี
    "ยืนยันว่า กอ.รมน.คัดเลือกคนที่ลงพื้นที่ เราทำอย่างรัดกุม รอบคอบ โดยมีกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ ยืนยันโครงการดังกล่าวจะไม่สูญเปล่า ทุกอย่างได้ประโยชน์อยู่แล้ว อย่างน้อยก็ได้รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และนำมาแก้ไข ซึ่งถือเป็นประเด็นหลักที่รัฐบาลอยากทำ" พล.อ.เฉลิมชัยกล่าว
    ที่ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จ.พิษณุโลก พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะ ผบ.กกล.ทัพภาค 3 ผอ.รมน.ภาค 3 เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเตรียมความพร้อมให้กำลังพลที่ปฏิบัติงานโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอให้ดำเนินการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม สั่งการให้กองทัพสนับสนุนโครงการไทยนิยม ยั่งยืน อย่างเต็มขีดความสามารถ เพื่อให้บรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้น กองทัพบกจึงได้มีการมอบหมายให้กองทัพภาคจัดกำลังพลสนับสนุนกระทรวงมหาดไทยในทุกระดับ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"