กองทัพซีเรียปฏิบัติการถล่มทางอากาศขนานใหญ่ โจมตีพื้นที่ควบคุมของฝ่ายกบฏในเขตกูตาตะวันออกตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ถึงวันอังคาร ส่งผลให้พลเรือนล้มตายเป็นเบือแล้วเกือบ 190 ศพ ยูเอ็นเรียกร้องซีเรียเลิกพุ่งเป้าถล่มพลเรือน
    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 อ้างคำกล่าวของรามี อับเดล เราะห์มาน จากองค์กรสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย ว่าปฏิบัติการโจมตีครั้งใหญ่ของกองทัพซีเรียในเขตกูตาตะวันออกตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ เป็นการกรุยทางสำหรับการรุกภาคพื้นดิน 
    องค์กรจากอังกฤษแห่งนี้ระบุว่า การถล่มทางอากาศเมื่อวันจันทร์ สังหารชีวิตพลเรือนอีกอย่างน้อย 127 คน และในจำนวนนี้เป็นเด็ก 39 คน และมีคนบาดเจ็บราว 470 คน หลายคนอาการสาหัส เหตุการณ์นี้ถือเป็นการโจมตีเขตควบคุมของกบฏนอกกรุงดามัสกัสครั้งนองเลือดที่สุดนับแต่ต้นปี 2558 
    ฝ่ายกบฏต่อต้านรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด เข้าควบคุมพื้นที่นี้ตั้งแต่ปี 2555 ปัจจุบันกูตาตะวันออกเป็นที่มั่นแห่งสุดท้ายของฝ่ายต่อต้านอัสซาดที่อยู่ใกล้กับกรุงดามัสกัส และอัสซาดได้เสริมกำลังทางทหารเพื่อยึดพื้นที่นี้คืน 
    ปฏิบัติการโจมตีตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ถึงวันอังคาร มีทั้งการโจมตีทางอากาศ การยิงจรวด และยิงปืนใหญ่ ถล่มหลายหมู่บ้านและหลายเมืองทั่วเขตกูตาตะวันออก 
    องค์กรเอกชนแห่งนี้เปิดเผยด้วยว่า กองทัพซีเรียยังคงโจมตีทางอากาศเขตกูตาตะวันออกอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่สาม และฆ่าพลเรือนอีก 45 ราย เป็นเด็ก 20 ราย ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตในปฏิบัติการของฝ่ายรัฐบาลนับแต่คืนวันอาทิตย์มีประมาณ 190 คน และบาดเจ็บอีกราว 850 คน 
    ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์อัลวาตัน ซึ่งใกล้ชิดกับรัฐบาล รายงานเมื่อวันอังคารว่า ปฏิบัติการถล่มทางอากาศเกิดขึ้นล่วงหน้าปฏิบัติการใหญ่ที่กูตา ซึ่งอาจเริ่มต้นปฏิบัติการภาคพื้นดินได้ทุกเมื่อ 
    ดินแดนควบคุมของฝ่ายกบฏชานกรุงดามัสกัสแห่งนี้ มักเป็นฐานของการยิงจรวดและกระสุนปืนครกโจมตีย่านที่อยู่อาศัยของประชาชนในฝั่งตะวันออกของเมืองหลวง โทรทัศน์ของทางการซีเรียรายงานว่า เมื่อวันอังคาร การโจมตีของฝ่ายกบฏทำให้มีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน และบาดเจ็บ 13 คน 
    อีกด้านหนึ่ง ปานอส มุมต์ซิส ผู้ประสานงานด้านมนุษยธรรมระดับภูมิภาคขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) สำหรับวิกฤติในซีเรีย กล่าวเตือนว่า ซีเรียต้องยุติการพุ่งเป้าโจมตีพลเรือนในเขตกูตาตะวันออกเดี๋ยวนี้ 
    กลุ่มพันธมิตรแห่งชาติ ที่เป็นฝ่ายต่อต้านอัสซาดและมีฐานที่ตั้งในตุรกี ประณามทั้ง "สงครามแห่งการทำลายล้าง" ในกูตาตะวันออก และ "การนิ่งเงียบของนานาชาติ" ต่อเหตุการณ์นี้ ทั้งยังกล่าวโทษรัสเซียซึ่งหนุนหลังอัสซาดด้วยว่า กำลังต้องการ "ฝังกระบวนการทางการเมือง" ที่จะหาทางออกให้วิกฤติขัดแย้งในซีเรีย.