พาณิชย์ปลื้มเริ่มต้นดี ส่งออก ม.ค.ทะลุ 2หมื่นล้านเหรียญฯ โต 17.56% สูงสุดในรอบ 62 เดือน  ธปท.ชี้อานิสงส์ตรุษจีน จ่อปรับเป้าทั้งปีขยายตัวเกิน 4% ขณะที่ดัชนีอุตฯ พุ่งสุดรอบ 3 ปี
    เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือน ม.ค.2561 มีมูลค่า 20,101.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 17.56% เป็นการขยายตัวที่ดีที่สุดในรอบ 62 เดือน หรือ 5 ปี 2 เดือน นับตั้งแต่เดือนพ.ย.2555 ที่การส่งออกขยายตัว 26.83% และยังถือเป็นการเริ่มต้นได้ดี การส่งออกมีการเติบโตได้สูง แม้ว่าปัจจุบันจะมีปัญหาเรื่องเงินบาทแข็งค่า แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย โดยไทยยังสามารถส่งออกได้ดี และสู้กับประเทศคู่แข่งได้
    “การส่งออกเดือนแรก ถือว่าเริ่มต้นได้ดี เป็นสัญญาณดีของการส่งออกไทย ซึ่งจากนี้ไป กระทรวงพาณิชย์จะทำงานอย่างหนัก และทำงานอย่างมีเป้าหมาย เพราะปีนี้ได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกไว้ที่ 8% การจะไปสู่เป้าหมาย ต้องส่งออกให้ได้อย่างน้อยเดือนละ 21,412 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมั่นใจว่าจะทำได้ จากการที่ได้ปรับแผนการทำงานผลักดันส่งออกใหม่ที่มีเป้าหมายชัดเจน” นายสนธิรัตน์ระบุ
    ทั้งนี้ แผนการผลักดันการส่งออกในปีนี้ กระทรวง จะมุ่งผลักดันการส่งออกไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เช่น จีน, อินเดีย, CLMV และรัสเซีย เป็นต้น และจะเพิ่มการส่งออกสินค้า เช่น ผลไม้ และการส่งออกบริการสาขาต่างๆ โดยจะใช้ยุทธศาสตร์หุ้นส่วนเศรษฐกิจในการขับเคลื่อนความร่วมมือกับประเทศคู่ค้า รวมทั้งมีแผนเพิ่มจำนวนบุคลากรเพื่อทำตลาด การส่งเสริมและผลักดันผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ให้ส่งออกได้มากขึ้น การใช้ช่องทางออนไลน์ในการค้าขายสินค้า เป็นต้น
    น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่า การส่งออกเดือน ม.ค.2561 ที่ออกตัวได้แรง มาจากเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจคู่ค้าที่เติบโตดีขึ้น และนโยบายในการผลักดันการส่งออกไปยังตลาดใหม่ได้ผล ทำให้ไทยส่งออกได้เพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน CLMV เพิ่มถึง 18.4% รัสเซียและกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS) เพิ่ม 72% เป็นต้น ส่วนเงินบาทแข็งค่า มีผลกระทบต่อการส่งออกของไทยน้อย เพราะค่าเงินของคู่แข่งในภูมิภาคแข็งค่า ทำให้ส่งออกไทยยังแข่งขันได้ดี
    โดยการส่งออกเดือน ม.ค.2561 สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรเพิ่มขึ้น 16.2% เพิ่มต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15 สินค้าสำคัญที่ส่งออกเพิ่ม เช่น ข้าว เพิ่ม 37.2%, มันสำปะหลัง เพิ่ม 42.3%, ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป เพิ่ม 18.4%, อาหารทะเลแช่แข็งกระป๋องและแปรรูป เพิ่ม 20.4% ส่วนน้ำตาลทราย ลด 42.2%,  ยางพารา ลด 20.7%, ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ลด 7.3% ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรม เพิ่ม 17.2% เพิ่มต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 สินค้าสำคัญที่เพิ่มขึ้น เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เพิ่ม 18.2%, คอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เพิ่ม 21.5%, เครื่องยนต์และส่วนประกอบ เพิ่ม 87.9%, เคมีภัณฑ์ เพิ่ม 40.5% ส่วนทองคำ ลดลง 21.3%
    ด้านนายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าเดือน ม.ค.2561 ที่ขยายตัวสูงสุดในรอบ 62 เดือน ส่วนหนึ่งเป็นผลของเทศกาลตรุษจีนในปีนี้ที่เลื่อนมาเป็นกลางเดือน ก.พ.จากสิ้นเดือน ม.ค.ในปีก่อนหน้า ทำให้กิจกรรมการค้าระหว่างประเทศในเดือน ม.ค.2561 สูงเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์เดียวกันกับการส่งออกของหลายประเทศในภูมิภาค
    อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาในรายละเอียด พบว่ามูลค่าการส่งออกการขยายตัวดีในเกือบทุกหมวดสินค้าและทุกตลาดหลัก สะท้อนอุปสงค์ต่างประเทศที่ขยายตัวดีต่อเนื่องและกระจายตัว ซึ่งเมื่อรวมกับแนวโน้มราคาน้ำมันเฉลี่ยในปีนี้ ที่น่าจะยืนได้เหนือระดับ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการ มูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยในปีนี้น่าจะสามารถขยายตัวได้สูงกว่าที่ ธปท.ประมาณการไว้ในเดือน ธ.ค.2560 ที่ 4% พอสมควร
    วันเดียวกัน นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทยเดือน ม.ค. 61 อยู่ระดับ 91.0 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 89.1 ในเดือน ธ.ค.60 ซึ่งถือเป็นค่าดัชนีที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องติดต่อกัน 3 เดือน และยังเป็นค่าดัชนีฯ ที่สูงสุดในรอบ 3 ปีนับตั้งแต่ ก.พ.58 โดยปัจจัยบวกมาจากการบริโภคภายในประเทศที่ขยายตัวตั้งแต่ปลายปีต่อเนื่อง ประกอบกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ รวมถึงผู้ประกอบการปรับปรุงกระบวนการผลิตมีการออกสินค้าใหม่ๆ และการใช้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าในการนำเข้าเครื่องจักรมาเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต.